“เขายังทางรอดอยู่”
เสียงของหวังชาวค่อยๆดังขึ้นมา
ทั่วทั้งทางเดินในโรงพยาบาลเงียบลงในทันใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลู่อี้เข่อ สีหน้าก็ดีใจขึ้นมาในทันที: “คุณหวัง คุณพูดจริงหรือเปล่าคะ?”
หวังชาวพยักหน้า: “ผมรักษาเขาได้”
“เป็นไปไม่ได้!”
หมอเทวดาเฉินตะโกนด้วยความโกรธในทันที:ขจ “ไม่มีใครเข้าใจอาการของคุณลู่ได้ดีกว่าผมแล้ว ตอนนี้เขานับได้ว่าสมองตายแล้ว ทำไมมองปราดเดียวก็คิดว่าแกจะรักษาเขาได้?”
“แม้ว่าแกเป็นเทพเจ้า ก็ทำอะไรไม่ได้!”
สีหน้าของหมอเทวดาเฉินดูไม่ค่อยสู้ดีเป็นอย่างยิ่ง
คนอื่นๆในตระกูลลู่ก็คิดแบบนี้เช่นนี้กัน หมอเทวดาเฉินบอกว่าไม่มีทางรอดแล้ว ไอ้มิจฉาชีพนี้จะรักษาได้อย่างไร?
“ลู่อี้เข่อ ถ้าแกไม่ไล่ไอ้มิจฉาชีพนี้ออกไปอีก ฉันจะไม่เกรงใจมันแล้วนะ!”
ลู่เทียนหมิ่งชี้ไปที่ลู่อี้เข่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธและตะโกนเสียงดัง
สีหน้าของลู่อี้เข่อสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี เธอก็คาดไม่ถึงว่าจนป่านี้แล้ว ยังไม่มีใครยอมเชื่อเธออีก
สายตาเฉยชาของหวังชาวกลับมองไปทางหมอเทวดาเฉินในเวลานี้: “ในสายตาของผม คุณก็เป็นแค่หมอไร้ฝีมือรักษาโรคที่เอาแต่ปัดความรับผิดชอบ!”
“ถ้าคุณฟังคำพูดของแผมตั้งแต่แรก อาการของนายท่านลู่ก็ไม่มีทางเลวร้ายจนถึงขั้นนี้!”
“ดังนั้นคุณลู่พูดถูก ถ้าหากนายท่านลู่เสียชีวิต คุณก็คือฆาตกรที่ฆ่าเขา!”
คำพูดของหวังชาวก็เหมือนกับเข็มเงินที่แทงเข้าไปที่หน้าอกของหมอเทวดาเฉิน
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดโปนขึ้นทีละเส้น และร่างกายก็สั่นสะท้านด้วยความโกรธ
ทักษะทางการแพทย์ของเฉินกั๋วคุนเป็นที่รู้จักไปทั่วในเมืองจงไห่ คนที่ขอให้เขาตรวจรักษาโรคต่อแถวยาวไปจนถึงปารีส
แต่ตอนนี้ เขากลับถูกตั้งข้อสงสัยต่อหน้าโดยเด็กกะโปโลคนหนึ่ง!
นี่สำหรับเขาแล้ว คือความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง!
“เด็กน้อย คุยโม้โอ้อวดใครก็ทำเป็นทั้งนั้น? แกบอกว่ารักษานายท่านลู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“โอเค ฉันให้โอกาสนี้กับแก!”
“ถ้าหากแกรักษานายท่านลู่ได้ ฉันจะคุกเข่าคำนับยอมรับผิดกับแก ถ้าหากแกรักษาไม่ได้ ฉันก็จะแจ้งตำรวจให้ตำรวจจับตัวไอ้มิจฉาชีพอย่างแกไว้!”
“แกกล้ามั้ย?”
หมอเทวดาเฉินจ้องมองที่หวังชาวอย่างเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและดูถูก
“จำคำพูดของคุณเอาไว้ด้วย!”
หลังจากที่หวังชาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสร็จ เขาก็เดินไปที่ข้างเตียงผู้ป่วยของนายท่านลู่ สายตาจริงจังขึ้นมา
ถ้าหากไม่ทำการผ่าตัด หวังชาวสามารถรักษาลู่ว่านซานได้อย่างง่ายดาย
แต่ตอนนี้ กลับมีความยากไม่น้อย
หมอเทวดาเฉินมองดูหวังชาวด้วยใบหน้าที่เต็มการเยาะเย้ย
เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าหวังชาวจะรู้เรื่องฝีมือการรักษาโรค นับประสาอะไรกับการรักษาโรคของนายท่านลู่ให้หายดี
สีหน้าของลู่อี้เข่อกลับมองไปที่หวังชาวอย่างมีความหวัง ภายในใจรู้สึกประหม่าอย่างมาก
สำหรับคนอื่นๆในตระกูลลู่ก็ไม่วาดฝันอะไรแล้ว
อย่างที่ดีที่สุดคือท่าทีของการลองดูเป็นครั้งสุดท้าย
เข็นลู่ว่านซานเข้าไปในห้องผู้ป่วย หวังชาวหยิบเข็มเงินที่เขาเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมา
“แพทย์แผนจีนเหรอ?”
หมอเทวดาเฉินยิ้มอย่างน่ากลัว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “บ้าบอคอแตกจริงๆ!”
หวังชาวไม่ได้สนใจเขา ยกมือขึ้นแล้วฝังเข็ม
แสดงเพลงแพทย์จิ่วเชี่ยวของในเข็มเทพคืนวิญญาณ
ผ่านการย่อยมาหลายวัน หวังชาวก็เชี่ยวชาญวิชาฝังเข็มลึกลับมากแบบนี้แล้ว
เข็มแรกลงที่จุดเสินเชวี่ยระหว่างคิ้ว!
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เข็มที่สองลงที่จุดเทียนกงด้านบนของศีรษะ
เมื่อฝังลงไปสองเข็ม ผู้คนรอบข้างจะเห็นได้ว่าร่างกายของลู่ว่านซานสั่นเทาเล็กน้อย
สีหน้าของลู่อี้เข่อสดใส และพูดโดยไม่รู้ตัวว่า: “คุณปู่มีปฏิกิริยาแล้ว!”
“คุณลู่ นี่เป็นปฏิกิริยาที่กระทบกระเทือนจิตใจตามปกติญฝ ตราบใดที่ยังมีสติอยู่ ใครก็ตามที่โดยฝังเข็ม ก็จะมีปฏิกิริยาแบนี้”
หมอเทวดาเฉินหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ
ตามด้วยฝังเข็มที่สาม ฝั่งเข้าไปที่จุดซงจิ่นของลู่ว่านซาน ตามด้วยฝังเข็มนี้เข้าไป
สีหน้าของลู่ว่านซานเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทียบท้ายุทธเวท
รอครับ...
รอครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...