ลู่อี้เข่อรู้สึกสะเทือนใจอย่างช่วยไม่ได้ เธอคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องราวเลวร้ายมากมายขนาดนี้กับหวังชาว
ทั้งที่หวังชาวก็เพอร์เฟกต์เช่นนี้ กลับเจอกับคนไม่ดี และผู้หญิงไร้ยางอายอย่างหลินเหมี่ยวเหมี่ยว!
แม้ว่าลู่อี้เข่อจะเป็นผู้หญิง ก็อดไม่ได้ที่โกรธหลังจากที่ฟังจนจบ
“คุณหวัง ขอแค่คุณเอ่ยปาก ตอนนี้ฉันก็จะให้คุณปู่ของฉันปราบปรามกับตระกูลหลิน ทำให้ตระกูลหลินไม่มีวันฟื้นตัวได้”
ลู่อี้เข่อพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
แค่ตระกูลหลินเล็กๆ ตระกูลลู่ของเธอสามารถทำลายได้!
หวังชาวส่ายหัว และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “ไม่ต้องหรอกครับ หนี้บางอย่างผมก็ต้องชดใช้ด้วยตัวเอง สิ่งที่พวกเขาติดค้างผม ผมต้องทำให้พวกเขาคืนมาทั้งต้นทั้งดอกด้วยตัวเอง!”
เขายังคงเข้าใจหลักการที่ว่าน้ำใจของคนเรายิ่งใช้มากเท่าไหร่ยิ่งจืดจางลงเท่าไหร่
ลู่อี้เข่อช่วยเหลือเขามากพอแล้ว
ดังนั้นเขาไม่อยากรบกวนคนอื่นอีก
ลู่อี้เข่อพยักหน้า ต่อจากนั้นก็พูดว่า: “งั้นก็ได้ค่ะ คุณหวัง ต้องการให้ช่วยอะไร คุณต้องบอกกับฉันนะคะ ขอแค่มีตรงไหนที่ใช้ตระกูลลู่ของฉันได้ ฉันไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอนค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
หวังชาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ลู่เค่อี้มองดูเวลาแวบหนึ่ง ตอนนี้มันก็ดึกแล้ว
เธอลุกขึ้นมา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณหวัง นี่มันก็ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อน”
“ผมไปส่งคุณครับ”
หวังชาวพูดอย่างรวดเร็ว
ลู่อี้เข่อผงกหัวเล็กน้อย
ทั้งสองเดินออกจากวิลล่า
บนเส้นทางป่าเปลี่ยว ทั้งสองเดินไปได้ระยะหนึ่ง
อยู่ดีๆ ลู่อี้เข่อก็หยุดฝีเท้าลงมา ชี้ไปที่วิลล่าสไตล์โกธิคที่อยู่ข้างหน้าและพูดว่า: “คุณหวัง นั่นก็คือบ้านของฉัน มีเวลามาเที่ยวได้นะคะ”
ลู่อี้เข่อแลบลิ้นมองไปทางหวังชาว และท่าทางก็น่ารักซุกซน
ต่อจากนั้นก็เดินไปที่บ้านของเธออย่างมีความสุข
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของลู่อี้เข่อ สีหน้าของหวังชาวอดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างข่มขื่น ส่ายหัวอย่างเศร้าสร้อยแล้วพูดว่า: “หวังชาวนะหวังชาว นายกำลังคิดอะไรอยู่ ผู้หญิงอย่างคุณลู่ไม่ใช่คนที่นายหมายปองได้”
หวังชาวพึมพำกับตัวเอง
ลู่อี้เข่อเป็นคนมีเสน่ห์ดึงดูดคน ตราบใดที่เป็นผู้ชายทั่วไปก็จะถูกดึงดูดจนหลงเสน่ห์
หวังชาวก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่เขาสามารถควบคุมความรู้สึกนี้ได้
ในมุมมองของเขาความแตกระหว่างฐานะทั้งสองคนเป็นเหวลึกจนมองไม่เห็นและไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้
วันนี้ลู่อี้เข่ออารมณ์ค่อนข้างดี อาการป่วยของคุณปู่รักษาหายแล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุณหวังก็เริ่มสนิทกันมาขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่าเรื่องราวทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี
เอี๊ยด!
แต่ในขณะนี้รถปอร์เช่ 911 หยุดอยู่ที่ประตูวิลล่าของเธออย่างกะทันหัน
ชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินออกมาจากในรถ
ชายหนุ่มถือช่อดอกไม้อยู่ในมือ เขาสวมสูทสีฟ้าอ่อนที่ผ่านการตัดเย็บมาอย่างดี และสวมนาฬิกา Rolex ราคาแพงที่ข้อมือ
ผมสีน้ำตาลอ่อนเสยหัวมันเยิ้มสไตล์อังกฤษ เขาสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร หน้าตาหล่อเหลา
“อี้เข่อ ฉันมาหลายครั้งแล้ว เธอก็ไม่อยู่บอกเลย ตอนนี้ได้เจอเธอสักที”
ชายหนุ่มถือดอกไม้อยู่ในมือ เผยให้เห็นรอยยิ้มหล่อเหลา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“อ่ะ นี่เป็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่เธอชอบที่สุด”
สีหน้าของลู่อี้เข่อก็บึ้งตึงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“เซวียไห่กุ้ย นายนายมาหาฉันทำไม? ฉันเคยบอกนายก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าต่อไปอย่ามาที่บ้านฉันอีก และไม่ต้องให้ดอกไม้ฉันด้วย!”
“ฉันไม่ชอบของพวกนี้ และไม่ชอบเห็นหน้าของคุณด้วย!”
ใบหน้าของลู่อี้เข่อเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และทันใดนั้นอารมณ์ก็แย่มาก!
“อี้เข่อ เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันจริงๆเหรอ? การแต่งงานระหว่างเราสองคนพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนกำหนดไว้แล้ว”
“พวกเรามีความเหมาะสมกัน แล้วก็เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนก็เห็นว่าเราเหมาะกันดี ต่างก็คิดว่าพวกเราเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมา ฉันไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเธอกลับรำคาญฉันมาโดยตลอด!”
เซวียไห่กุ้ยกลั้นเสียงไว้ และพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง
แต่ลู่อี้เข่อกลับไม่ได้ไว้หน้าเขาเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทียบท้ายุทธเวท
รอครับ...
รอครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...