ได้ยินคำพูดนี้
สีหน้าของเซวียไห่กุ้ยก็บูดบึ้งขึ้นมาในทันที
“อี้เข่อ บอกฉัน ไอ้หมอนี่พูดจริงหรือเปล่า?”
สีหน้าของเซวียไห่กุ้ยเฉียบคม ดวงตาสั่นไหว และใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
หลังจากที่ลู่อี้เข่อตกตะลึงไปชั่วครู่ ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว
เธอรู้ว่าหวังชาวกำลังช่วยเธอแก้ไขสถานการณ์อยู่
“ถูกต้อง เขาก็คือแฟนของฉัน เซวียไห่กุ้ย ตอนนี้นายตายใจได้แล้วนะ!”
ลู้อี้เข่อพูดตรงๆ
“ไม่!”
เซวียไห่กุ้ยตะโกนเสียงดัง และพูดทันทีว่า: “อี้เข่อ เธอกำลังหลอกฉันอยู่ใช่มั้ย? เธอเป็นเพราะว่ารำคาญฉัน ก็เลยตั้งใจหาคนมาเล่นละครแน่ๆเลย!”
“อี้เข่อ ตอนนี้เธอไม่ยอมรับฉันไม่เป็นไร แต่ฉันยินดีที่จะรอ ไม่ว่านานแค่ไหนฉันก็เต็มใจที่จะรอเธอ!”
เซวียไห่กุ้ยไม่อยากเชื่อความจริงนี้
“แล้วต้องทำยังไงนายถึงจะยอมเชื่อว่าเขาเป็นแฟนของฉัน!”
ลู่อี้เข่อค่อนข้างหงุดหงิด
สีหน้าของเซวียไห่กุ้ยบูดบึ้ง เขามองดูหวังชาวแวบหนึ่ง
ในดวงตาดูเศร้าหมอง จากนั้นก็พูดกับลู้อี้เข่อว่า
“อี้เข่อ ฉันรู้จักญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทรอบตัวของเธอทุกคน ไม่เคยเจอหมอนี่มาก่อน อยู่ดีๆเธอจะได้มีแฟนได้ยังไง!”
เซวียไห่กุ้ยชี้ไปที่หวังชาวแล้วตะคอก
ลู่อี้เข่อมองดูเซวียไห่กุ้ยอย่างเย็นชา
เธอเดินตรงไปที่ตรงหน้าของหวังชาว โดยไม่พูดอะไรสักคำ
เขย่งปลายเท้า หลับตาทั้งสองแน่น ประกบริมฝีปากแดงสดอยู่บนริมฝีปากของหวังชาว ต่อหน้าของเซวียไห่กุ้ย…….
ตูม!
ในขณะนี้ หวังชาวทั้งคนก็มึนงง
เซวียไห่กุ้ยซึ่งอยู่ไม่ไกลเห็นฉากนี้ สมองก็มึนงงในทันที
ใบหน้าทั้งหมดบิดเบี้ยวเพราะความโกรธในขณะนี้!
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักจะจูบผู้ชายคนอื่นต่อหน้าของเขา!
โกรธมาก!
เซวียไห่กุ้ยโกรธมากจริงๆ!
เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน สายตาดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง และหมัดทั้งสองก็กำแน่นยิ่งกว่าเดิม!
หลังจากที่จูบเสร็จ ลู่อี้เข่อหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วมาก
โตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นคนจูบผู้ชายก่อน
หวังชาวก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาคาดไม่ถึงว่าลู่อี้เข่อจะกล้าหาญขนาดนี้ จะจูบเขาโดยไม่ได้ทันได้ตั้งตัวในทันที!
นี่…….
นี่มันเพ้อฝันเกินไปแล้วนะ?
รู้สึกเหมือนกับฝันไปเลย!
“เซวียไห่กุ้ย ตอนนี้นายเชื่อแล้วใช่มั้ย?”
ลู่อี้เข่อหันหน้าไป และพูดกับเซวียไห่กุ้ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ
สีหน้าของเซวียไห่กุ้ยโกรธจนเขียว การแสดงออกเริ่มดูไม่ดีจนถึงจุดที่ดุร้าย!
“ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!”
เซวียไห่กุ้ยโกรธจนหน้าเขียว กำหมัดแน่น และพุ่งชกไปที่หวังชาว
“เซวียไห่กุ้ย นายบ้าไปแล้ว!”
สีหน้าของลู่อี้เข่อเปลี่ยนไป และพูดอย่างกังวลใจ
สีหน้าของหวังชาวเคร่งขรึม ลงมือในทันที คว้าข้อต่อข้อมือของคู่ต่อสู้ ก่อนที่กำปั้นของอีกฝ่ายจะกระแทกลงมา
ผลัวะ!
หวังชาวจับแขนของเซวียไห่กุ้ยแล้วเหวี่ยงอย่างแรง และจับเขาทุ้มลงกับพื้น!
เซวียไห่กุ้ยขัดขืนจะลุกขึ้นมา กลับถูกหวังชาวเตะจนพลิกคว่ำกับพื้น
“ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก! ฉันสาบานว่า ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้ ฉันจะฆ่าทั้งครอบครัวของแก!”
เซวียไห่กุ้ยตะโกนใส่หวังชาวด้วยใบหน้าที่ความไม่พอใจ
“เซวียไห่กุ้ย นายพอได้แล้ว ฉันไม่เคยชอบนายมาก่อน นายอย่าได้ก่อความวุ่นวายอีกเลย นายทำแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันรำคาญนายมากขึ้นเรื่อยๆ!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ลู่อี้เข่อก็ถอนหายใจแล้ว จากนั้นก็พูดว่า: “ฉันมีการแต่งงานกับแซ่เซวียจริงๆ แต่นั่นเป็นแค่การหมั้นหมายตั้งแต่เด็กๆเท่านั้นเอง ตอนนี้ไม่ใช่สังคมศักดินา คงจะไม่นับหรอก!”
“ฉันบอกกับเซวียไห่กุ้ยหไปลายรอบมาก ฉันไม่ชอบเขา แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกรา ตามตื๊อฉันไม่เลิก!”
“สถานการณ์ก็อย่างที่คุณเห็นเมื่อกี้นี้ เซวียไห่กุ้ยเป็นคนบ้าชัดๆ ต่อไปฉันจะแต่งงานกับคนแบบนี้ได้ยังไง!”
หวังชาวเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว
พูดต่อไปว่า: “งั้นคุณก็บอกกับพ่อแม่ของคุณก็ได้ ให้พวกเขายกเลิกการแต่งงาน”
ลู่อี้เข่อถอนหายใจอีกครั้ง
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ก็คงจะดี อำนาจของตระกูลเซวียอยู่ในเมืองจงไห่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลลู่ของพวกเรา ความตั้งใจของพ่อแม่ของฉันคือหวังว่าทั้งสองตระกูลจะแต่งงาน และรวมพลังกัน……”
หวังชาวขมวดคิ้ว และถามต่อไป: “ความคิดเห็นของคุณปู่คุณล่ะ? เขาเป็นผู้นำตระกูล เขาน่าจะมีอำนาจยกเลิกการแต่งงานนะ?”
“ท่าทีของปู่ฉันที่มีต่อเรื่องนี้ก็อ้อมค้อมมาโดยตลอด เขาไม่ได้บังคับให้ฉันแต่งงาน แต่กลับหวังว่าฉันจะให้โอกาสเซวียไห่กุ้ยตามจีบ ยังไงซะยืนอยู่นำตำแหน่งของเขานั้น สิ่งที่เขาต้องพิจารณายังคงเป็นผลประโยชน์ของตระกูล”
ลู่อี้เข่อยิ่งพูดยิ่งหมดหนทาง
“ไม่เป็นไรนะครับ ต่อไปผมจะปกป้องคุณเอง”
มองดูสีหน้าที่อ่อนแอของลู่อี้เข่อ ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของหวังชาวก็มีความรู้สึกชั่ววูบที่อธิบายไม่ได้ขึ้นมา
ภายใต้ความรู้สึกชั่ววูบนี้ ทำให้พูดประโยคนี้ออกมา
ทันทีที่พูดแบบนี้ออกมา หวังชาวก็เสียใจ
เขาแทบอยากจะตบตัวเองสองที
ฐานะของตัวเองเป็นยังไง?
ครอบครัวธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพ่อหม้ายด้วย และยอดคงเหลือในบัตรไม่เกินหนึ่งร้อย…….
มีสิทธิ์ไปปกป้องลู่อี้เข่อที่ไหนกัน?
แต่หลังจากที่ลู่อี้เข่อฟังคำพูดนี้จบลง ภายในใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาพร่ามัว แต่เธอก้มหน้าลง และจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
“ขอโทษด้วยครับ ผมพูดผิดไปแล้ว ผมขอโทษคุณด้วย ขอโทษ……”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ…….”
ลู่อี้เข่อเงยหน้าขั้นมาอย่างกะทันหัน และเอื้อมมือไปปิดปากของหวังชาว
ต่อจากนั้นภายใต้สีหน้าตกตะลึงของหวังชาว เธอหันหลังเดินเข้าไปในวิลล่า
เดินถึงหน้าประตู เธอก็หันกลับมาอีก และยิ้มอย่างอ่อนหวาน: “คุณหวัง ขอบคุณนะคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทียบท้ายุทธเวท
รอครับ...
รอครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...