หลังจากที่ใบบุญหยิบธนบัตรให้น้องสาวรอชำระสินค้า เธอไม่รอช้ารีบไปตามหาลูกสาวทันที พอไปถึงเธอถึงกับพูดไม่ออกได้แต่แอบมองสองคน ที่กำลังผลัดกันป้อนไอศกรีม แววตาของใบพลูไม่ต่างจากกวิน เพราะมันเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข เวลานี้น้ำตาใสๆ ได้ไหลออกมาจากดวงตาตู่สวยอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อภาพของสองพ่อลูกที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น กำลังประจักษ์แก่สายตาของหญิงสาว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ความบังเอิญ แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งใบพลูก็ได้เจอกับบิดาของเธอ แม้ว่ามันกำลังจะกลายเป็นเรื่องเล่า ที่อยู่ในความทรงจำของหนูน้อยไปจนโต ตราบชั่วชีวิตของเธอ
“ฉันชอบผู้ชายโต๊ะนั้นจัง หล่อเท่สุดๆ” เสียงหวานดังขึ้นท่ามกลางหญิงสาววัยรุ่นที่กำลังนั่งรับประทานไอศกรีม
“ไปขอเบอร์เลยไหม”
“เฮ้ยแก! เบาได้เบา เขามากับลูกหรือเปล่า” ดูเหมือนสาวอีกคนจะไม่แคร์ แม้ว่าเขามีลูกมีเมียอยู่แล้วก็ตาม ทำให้เพื่อนรีบปราม
“ฟังจากที่เขาคุยกัน อย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะลินดา” เพื่อนอีกคนรีบพูดห้าม
“มีเมียแล้วก็เอา มีลูกแล้วฉันก็จะเอา มีไรไหมอะ” ลินดาเชิดหน้าพูดขึ้นมาอย่างท้าทาย จนทำให้ใบบุญที่ได้ยินรู้สึกหมั่นไส้ ใบหน้าของหญิงสาวบูดบึ้งหงึกงอ เธอคงลืมไปว่าตัวเองนั้นไม่ได้ต้องการที่จะสานสัมพันธ์กับกวิน เลยเผลอหึงเขาออกไป
“ฉันว่าเขามีลูกแล้วอ่ะ อย่าไปยุ่งเลยนะ” หญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่ในร้านไอศกรีมพูดขึ้นมาอย่างเสียดาย เมื่อผู้ชายอย่างกวินเรียกใบพลูว่าลูก แล้วหนูน้อยก็เรียกเขาว่าพ่ออย่างคุ้นเคย ทั้งที่เพิ่งเจอกันเป็นวันแรก
“คุณพ่อขา... ใบพลูขอสตรอว์เบอร์รีด้วยค่ะ” หนูน้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ส่วนคุณพ่อก็คอยป้อนอย่างเอาใจ
“ได้เลย อร่อยไหมครับ”
“อร่อยเย็นชื่นใจมากค่ะ”
“พ่ออยากกินบ้างจัง ป้อนพ่อบ้างสิครับหนูใบพลู” น้ำเสียงของกวินอ้อนหนูน้อยกลับไปบ้าง จนทำให้ใบบุญที่แอบมองอยู่นั้นรีบกะพริบตาถี่ๆ เพื่อสลัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปให้พ้น ก่อนจะเอามือขึ้นมาซับคราบน้ำตาออกให้หมด เสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ไม่แคร์สายตาคนรอบข้างแม้แต่น้อย ถ้าเป็นไปได้กวินอยากเหมาร้านนั่งรับประทานอยู่กับลูกสาวเพียงลำพังด้วยซ้ำ
“หมดเวลาสนุกแล้วใบพลู กลับบ้านเดี๋ยวนี้” ใบบุญเดินเข้ามายืนอยู่ข้างโต๊ะที่กวินกับใบพลู กำลังนั่งรับประทานไอศกรีมกันอยู่ด้วยความเพลิดเพลิน น้ำเสียงของเธอมีร่องรอยของความสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ เพื่อไม่ให้กวินได้รับรู้ถึงความหวั่นไหน ที่กำลังเกิดขึ้นภายในใจของหญิงสาว
“เราจะกลับแล้วเหรอคะ แต่ใบพลูยังกินไม่หมดเลย” หนูน้อยเงยหน้าขึ้นไปพูดด้วยแววตาที่อ้อนวอน เหมือนกับไม่อยากให้ช่วงเวลาเหล่านี้ผ่านไป เมื่อภายในใจของใบพลู รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เวลาที่ได้อยู่ใกล้กวินแบบนี้
“ไม่ต้องมาต่อรองเลยนะ ถ้าไม่ฟังที่พี่พูด กลับถึงบ้านจะตีให้ก้นลายเลย” ใบบุญพูดขู่หนูน้อยออกไป จนทำให้ใบพลูหน้าหงอยไปถนัด คงหมดเวลาแห่งความสุขของเธอแล้วสินะ
“นี่คุณ! ให้ลูกกินหมดก่อนไม่ได้รึไง” น้ำเสียงแหบพร่าที่เอ่ยออกไประคนกำลังได้รับความเจ็บปวด เมื่อเขาเห็นแววตาเศร้าของใบพลู
“คุณอย่ายุ่ง! พี่บอกให้ลุก”
“คนมองใหญ่ ทำไมคุณต้องตะคอกเสียงใส่ลูกแบบนี้ด้วยใบบุญ” กวินพยายามพูดออกไปอย่างใจเย็น เมื่อเขารู้ดีว่าหญิงสาวกำลังรู้สึกอย่างไร ไม่ต่างจากใบพลูในตอนนี้ ที่ฝันของหนูน้อยกำลังจะสลาย เมื่อใบบุญต้องการให้กวินเลิกตอแยเธอกับลูกเสียที
“ฉันพูดกับน้อง ถ้าคุณเข้าใจอะไรผิดก็ช่วยเข้าใจใหม่ด้วยนะ”
“ใบบุญ!” กวินเผลอตะคอกออกไปเสียงดัง จนทุกคนหันมามอง
“เลิกทะเลาะกันได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือของใบพลูดังขึ้น ทำให้กวินและใบบัวหันหน้ามาสบตากันครั้งแรก
“ใบพลู!” หนูน้อยวิ่งออกไปจากร้านไอศกรีมอย่างรวดเร็ว ขณะที่ใบบุญร้องเรียกให้ใบพลูหยุด แต่พอออกมาจากร้านเธอมองเห็นหลังของลูกสาวอยู่ไวๆ แต่พอวิ่งเข้าไปหาก็ไม่เจอแล้ว
“ตะวัน ช่วยกันตามหาใบพลูก่อน” กวินรีบเดินตามใบบุญออกมา พอเห็นหญิงสาวยืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้าง เขาก็รู้ทันทีว่าเธอวิ่งตามใบพลูไม่ทัน
“ใบพลูวิ่งไปทางไหน”
“ไม่เจอเลย หัวใจของพี่กำลังจะแตกสลายแล้วใบบัว พี่ไม่น่าทะเลาะต่อปากต่อคมกับเขาเลย แถมยังดุใบพลูไปยกใหญ่” ใบบุญพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่รู้สึกผิดต่อลูกสาว ก่อนจะชะเง้อชะแง้มองหาหนูน้อยด้วยความรู้สึกห่วงหาอาทร
“อย่าบอกนะว่าพี่กับเขาทะเลาะกันต่อหน้าลูก” ใบบัวอดไม่ไหวที่จะพูดตำหนิพี่สาวออกไป เมื่อเธอเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่กับใบพลูมากกว่าใบบุญ จึงทำให้หญิงสาวรู้ว่าหนูน้อยขาดความอบอุ่นแค่ไหน แม้ใบบุญจะพยายามหาเวลาอยู่กับใบพลู แต่ก็คงชดเชยได้ไม่มากพอ
“พี่บอกแล้วไงว่าอย่าพูดถึงเขา ผู้ชายพันธุ์นั้น ไม่มีวันจะได้เป็นพ่อของใบพลูหรอก” แม้ว่าภายในใจจะห่วงใยลูกสาว แต่ความปวดร้าวที่กวินฝากเอาไว้ในหัวใจ มันคือรอยแผลเป็นที่เขาประทับตราเอาไว้ ประหนึ่งถูกมีดกรีดลึกลงกลางใจ เธอจะไม่มีวันลืมมันไม่มีทาง
ส่วนกวินนั้น เขาเดินตามหาลูกสาวด้วยความร้อนรนใจไม่ต่างจากใบบุญ ก่อนจะกดรับสายโทรเข้าจากตะวัน พอรู้ว่าใบพลูอยู่ที่ไหนเท่านั้นแหละ เขารีบปรี่ตรงไปยังแผนกของเล่นทันที เมื่อมองเห็นใบพลู กวินค่อยๆ เดินเข้าไปหาหนูน้อยอย่างช้าๆ แล้วเขาต้องปวดใจ เมื่อได้ยินประโยคที่ลูกสาวกำลังพูดกับตุ๊กตา
“พ่อ นี่คือพ่อนะคะ พี่ใบบุญ ใบพลู พี่ใบบัว และก็พี่ใบโพธิ์ ทั้งหมดคือคนในครอบครัวของเราเอง เรามีพ่อแล้วนะ” หนูน้อยเอาตุ๊กตาลงมาเรียงกันที่พื้น พร้อมกับพูดเบาๆ ซึ่งใบพลูดูมีความสุขมาก เมื่อเธอเอ่ยถึงตุ๊กตาเจ้าชายที่เรียกว่าพ่อ บ่งบอกให้กวินรับรู้ว่าใบพลูต้องการเขาแค่ไหน แม้ใบบุญจะผลักไสเขาก็จะไม่ไปไหน จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกสาวได้มีพ่อ มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับเขาสักที
“พี่ใบบุญอย่าโกรธพ่อ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ” ยิ่งได้ฟังในสิ่งที่ลูกสาวพูด กวินก็ยิ่งปวดใจ มันคงไม่ช้าไปใช่ไหม ที่ในเวลานี้เขาเพิ่งจะโผล่เข้ามาในชีวิตของใบบุญและลูกสาว
“ใบพลูหนูกำลังทำอะไรอยู่ลูก หืม” น้ำเสียงทุ้มที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน ทำให้ใบพลูเงยหน้าขึ้นไปมองตาชายตัวโตด้วยรอยยิ้ม
“คุณลุง... คุณลุงนั่นเอง คุณลุงเป็นพ่อของหนูได้ไหมคะ ใบพลูอยากมีพ่อเหมือนเพื่อนบ้าง” คำถามที่ดูใสซื่อ ซึ่งถ้อยคำเหล่านั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง กลับเป็นดังอาวุธร้ายที่พุ่งเข้ามาปักกลางหัวใจของกวิน เมื่อเขาคือสาเหตุที่ทำให้หนูน้อยรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไป ในชีวิตของเธอ
“มานี่สิลูก พ่อจะกอดให้หนูหายหนาว พ่อจะไม่ปล่อยให้หนูเดียวดาย พ่อจะทำทุกอย่าง เพื่อให้แม่ของหนูอภัยให้ พ่อสัญญาว่าจะไม่ไปไหน พ่อรักหนูกับแม่ของหนูนะใบพลู” กวินคุกเข่าลงแล้วรั้งตัวหนูน้อยเข้ามาสวมกอดเอาไว้ เขาไม่อายสายตาของใครๆ เลยสักนิด สิ่งที่ชายหนุ่มเคยคิดอยากจะถามใบพลูทำไมเธอถึงเรียกใบบุญว่าพี่ แต่มันคงไม่จำเป็นเพราะตอนนี้เขาได้คำตอบแล้ว
“พรุ่งนี้พ่อจะแวะไปรับหนูตอนเลิกเรียนนะ”
“ได้สิค่ะ ใบพลูจะรอคุณพ่อนะคะ” สองพ่อลูกปรับความเข้าใจกันได้อย่างง่ายดาย นั่นคงเป็นเพราะว่าใบพลูโหยหาอ้อมกอดนี้มาแสนนาน กวินเองก็รักหนูน้อยอย่างไร้เงื่อนไข เมื่อใบพลูเป็นดั่งดวงใจของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน