เทพบุตรในคราบซาตาน นิยาย บท 24

ขณะที่ใบบุญเดินออกมาจากบ้าน ร่างอรชรของเธอกลับถูกชายตัวโต รั้งขึ้นรถอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เธอพยายามผลักเขาออก ทั้งสองยื้อฉุดกระชากลากถูกันอยู่ไม่ถึงนาที ท้ายที่สุดความพยายามของใบบุญก็ไม่เป็นผล เพราะกวินทั้งแข็งแรงและบึกบึนกว่าเธอหลายเท่า

“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย! ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า เดี๋ยวเขวี้ยงด้วยปิ่นโตเลยซะนี่!” ใบบุญมีท่าทีว่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่แล้วข้อมือเรียวของเธอได้ถูกกวินรวบเอาไว้ พร้อมกับปิ่นโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ถ้าคุณคิดจะทำแบบนั้นก็ลองดู ผมจะจับปล้ำในรถให้เข็ดเลย นั่งนิ่งๆ ผมบอกให้นั่งนิ่งๆ ไง ตะวันออกรถ!” น้ำเสียงของกวินมีร่องรอยของการสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ แต่ก็แฝงไปด้วยความหนักแน่น จนใบบุญยอมนั่งนิ่งๆ ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง

“เฮ้ย! นั่นคุณจะทำอะไร ทำไม...” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอถามชายหนุ่มออกไปด้วยใบหน้าที่หวาดระแวง เมื่อกวินกดปุ่มในรถให้ปรับเปลี่ยนมีฉากกั้น ราวกับว่าเขากับเธอนั้นกำลังนั่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าเงินทองสามารถเนรมิตอะไรก็ได้

“ผมต้องการคุยกับคุณแบบส่วนตัว ไม่ต้องห่วงหรอกสิ่งที่เราพูดกัน หรือทำอะไรมากกว่านั้น ตะวันจะไม่รู้ไม่เห็น” คำพูดของกวินกำลังทำให้ใบบุญเริ่มระแวงและระวังตัวมากขึ้น เพราะถ้าเขาหน้ามืดปล้ำเธอขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง

“คุณพูดบ้าอะไร ฉันจะรีบไปทำงาน”

“แต่ผมไม่รีบ” กวินพูดออกมาหน้าตาเฉย ราวกับว่าเขานั้นไม่รู้สึกรู้สาอะไรในสิ่งที่เธอกำลังสื่อออกมา

“ฉันไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนคุณ คิดจะทำอะไรก็เห็นใจคนอื่นบ้าง” คราวนี้ใบบุญพูดออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายๆ จะร้องไห้เต็มที จนทำให้กวินสงสารเธอจับใจ แต่ทำไมเธอไม่ฟังเขาบ้าง แค่ทำตามในสิ่งที่เขาเสนอไปก็สิ้นเรื่อง

“ถ้าคนอื่นที่คุณพูดถึง หมายถึงตัวคุณเองละก็... สำหรับผมแล้วคงไม่ใช่ เพราะผมเห็นคุณเป็นภรรยาไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเลย” กวินไม่พูดเปล่าเขาเขาเอื้อมมือลงไปจับมือเรียวของเธอมากุมเอาไว้ พร้อมลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน ความเงียบกำลังส่งผลให้หัวใจของเขาและเธอเต้นแรง ต่างคนต่างก็คงได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน

เวลานี้ใบบุญเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เธอกำลังจะแพ้พ่ายให้กับหัวใจที่มันเพรียกหาชายคนนี้มานานหลายปี แม้เธอจะรู้ดีว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่นาทีนี้เขาอยู่ตรงนี้แล้ว ถึงกระนั้นเธอก็ยังกลัวอยู่ดี ถ้าหากการปรากฏตัวของเขานั้น เพียงแค่ต้องการมาซ้ำเติมรอยแผลเป็นที่เคยมี

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าใบพลูไม่ใช่ลูกของ...” ใบบุญพูดยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากของกวินได้กลืนกินเสียงหวานไปจนสิ้น เขาเคยเตือนเธอแล้วว่าห้ามพูดประโยคนี้อีก แต่ผู้หญิงจอมพยศอย่างเธอก็ไม่ฟัง เขาจะทำเธอไม่กล้าพูดว่าใบพลูไม่ใช่ลูกของเขาอีกเลยคอยดู เธอจะได้เข็ดหลาบกับประโยคที่ทำให้เขาปวดใจสักที

ร่างอรชรถูกรั้งให้นอนราบลงไปกับเบาะ ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอน ใบบุญทั้งผลักทั้งข่วน แต่ก็ไม่อาจต้านทานรสจูบที่แสนหวานจากกวินได้ เธอสัมผัสถึงรสชาติของไวน์ที่เขาเพิ่งดื่มมาจากบ้านของเอเดน ซึ่งทำให้ใบบุญคิดว่าเขาเมาหรือเปล่า ถึงได้กล้าที่จะทำอะไรบ้าๆ แบบนี้กับเธอ

แต่ทว่าในเวลานี้ หญิงสาวกำลังเผลอใจไปกับรสจูบของชายหนุ่ม เธอยอมให้เขาฉกชิมเอาความหอมหวานจากโพรงปากอย่างไม่รู้จักพอ ทรวงอกอิ่มกำลังถูกอกแกร่งบดเบียดแนบชิด ข้อมือที่เคยถูกจับกดค่อยๆ คลายออกมาประสานกันเอาไว้ ด้วยความยินยอมพร้อมใจของคนตัวเล็ก กวินแทบคลั่งเมื่อคนใต้ร่างตอบสนองเขาอย่างน่ารัก

ริมฝีปากร้อนๆ ค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย เมื่อชายหนุ่มอยากให้ใบบุญพร้อมกว่านี้เสียก่อน อีกอย่างเอาบนรถที่มีตะวันนั่งประจำตำแหน่งคนขับเขาเองก็ไม่ถนัด ถ้าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแม่ของลูกอีกครั้ง เขาขอเป็นเตียงนุ่มๆ ที่ห้องนอนจะดีกว่า

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมตั้งใจ เรามาเริ่มต้นใหม่จะได้ไหมใบบุญ” กวินยังคงใช้ร่างกายท่อนบนคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ จึงทำให้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันไม่ถึงคืบ

“คุณลุกออกไปได้แล้ว” ใบบุญพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว เมื่อถูกเขาจ้องในระยะเผาเขา แววตาที่หวานเยิ้มของกวิน กำลังจะส่งผลให้หัวใจของหญิงสาวละลาย

“คุณตอบผมมาก่อนสิ ไม่สงสารลูกรึไง ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะใบบุญ ผมขอจากคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะนับต่อจากนี้ไปผมจะไม่มีวันทิ้งคุณกับลูกของเราไปไหนไกลอีกแล้ว”

น้ำเสียงแหบพร่าของเขาที่พูดออกมานั้น ระคนกำลังเจ็บปวดอย่างหนัก เมื่อนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา ที่เขาได้ปล่อยให้ใบบุญได้เผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง

“แต่ในฐานะพ่อของใบพลู คุณห้ามถึงเนื้อถึงตัวฉัน ห้ามเข้าใกล้ ถอยไปเลยนะ!” ใบบุญแกล้งพูดออกไปเสียงแข็ง ซึ่งเธอคิดว่ากวินควรได้รับบทเรียน เธอควรเล่นตัวบ้างไม่ใช่ปล่อยอารมณ์พาใจ จนยอมพลีกายให้เขาง่ายๆ เหมือนในค่ำคืนนั้น

“โธ่! แบบนี้ผมก็แย่นะสิ ใครจะอดใจไหว คุณไม่มีใจให้ผมบ้างเลยรึไง ผมต้องการคุณกับลูกนะใบบุญ”

“เอาไว้คุยกันวันหลัง จวนจะสองทุ่มแล้ว ฉันรีบเข้าโรงงาน ไม่อยากโดนหัวหน้าดุ” ใบบุญรีบเอื้อมมือไปหยิบปิ่นโตกับกระเป๋าผ้าของเธอ ที่กวินวางเอาไว้ข้างเบาะด้านข้าง ซึ่งรถของกวินได้แล่นมาจอดหน้าโรงงานนานแล้ว

“วันนี้ไม่ต้องทำหรอก ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณทั้งคืน” กวินพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยอีกครั้ง จนทำให้ใบบุญมองค้อนเขาไปด้วยความพอใจอีกเหมือนเคย

“ให้ฉันลาออกเลยดีไหม มานั่งกินนอนกินอยู่บ้านเหมือนคุณนายไม่ต้องทำอะไร เอาไหมละ” หญิงสาวเชิดหน้าพูดจาประชดประชันออกไปด้วยความหมั่นไส้ในตัวกวิน เมื่อใบบุญกำลังคิดว่าคนอย่างเขา คงเลี้ยงลูกกับเธอไม่ไหว ถ้าหากเขาต้องเป็นฝ่ายทำงานหาเงินเข้าบ้านคนเดียว

“ก็ดีสิ ลาออกเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมให้ตะวันจัดการให้เลย โอเคตามนี้นะ” กวินรีบพูดออกมาอย่างไว้ ด้วยท่าทางที่เห็นดีเห็นงามกับความคิดของเธอ จนใบบุญถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง เมื่อเธอไม่ได้จริงจังที่จะลาออกจริงๆ สักหน่อย

“จะบ้ารึไง ถึงฉันจะจนก็ไม่ยอมเกาะใครกินหรอก ไปทำงานแล้วนะ วันหลังถ้าจะไปรับลูกก็รับใบบัวมาด้วย สองคนผูกพันและรักกันมาก ใบพลูใช้เวลาอยู่กับใบบัวมากกว่าฉันที่เป็นแม่ซะอีก”

ขณะที่กำลังจะลงจากรถใบบุญได้หันมาสั่งกวิน จนเขาแอบยิ้มให้กับความน่ารักของเธอ จะมีผู้หญิงสักกี่คน ที่ยอมทนลำบาก เพื่อคนที่เธอรักได้สบายอย่างใบบุญ ในที่สุดวันนี้กวินก็ต้องยอมจำนนปล่อยให้หญิงสาวเดินเข้าไปในโรงงาน อย่างน้อยเธอก็พูดดีด้วย และดูเหมือนว่าเรื่องระหว่างเขากับเธอนั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

โอกาสที่เธอให้กับเขามา กวินสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยมือจากเธอเด็ดขาด วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายปีที่ใบบุญรู้สึกว่าโลกที่เคยมืดมน เริ่มมีสีสันขึ้นมาบ้าง เธอสะแกนใบหน้าแล้วเอาของไปเก็บที่ล็อกเกอร์ด้วยหัวใจที่พองโต เมื่อกำลังจะมีคนเข้ามาเติมเต็ม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน