ขณะที่ใบบุญเดินออกมาจากบ้าน ร่างอรชรของเธอกลับถูกชายตัวโต รั้งขึ้นรถอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เธอพยายามผลักเขาออก ทั้งสองยื้อฉุดกระชากลากถูกันอยู่ไม่ถึงนาที ท้ายที่สุดความพยายามของใบบุญก็ไม่เป็นผล เพราะกวินทั้งแข็งแรงและบึกบึนกว่าเธอหลายเท่า
“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย! ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า เดี๋ยวเขวี้ยงด้วยปิ่นโตเลยซะนี่!” ใบบุญมีท่าทีว่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่แล้วข้อมือเรียวของเธอได้ถูกกวินรวบเอาไว้ พร้อมกับปิ่นโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ถ้าคุณคิดจะทำแบบนั้นก็ลองดู ผมจะจับปล้ำในรถให้เข็ดเลย นั่งนิ่งๆ ผมบอกให้นั่งนิ่งๆ ไง ตะวันออกรถ!” น้ำเสียงของกวินมีร่องรอยของการสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ แต่ก็แฝงไปด้วยความหนักแน่น จนใบบุญยอมนั่งนิ่งๆ ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
“เฮ้ย! นั่นคุณจะทำอะไร ทำไม...” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอถามชายหนุ่มออกไปด้วยใบหน้าที่หวาดระแวง เมื่อกวินกดปุ่มในรถให้ปรับเปลี่ยนมีฉากกั้น ราวกับว่าเขากับเธอนั้นกำลังนั่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าเงินทองสามารถเนรมิตอะไรก็ได้
“ผมต้องการคุยกับคุณแบบส่วนตัว ไม่ต้องห่วงหรอกสิ่งที่เราพูดกัน หรือทำอะไรมากกว่านั้น ตะวันจะไม่รู้ไม่เห็น” คำพูดของกวินกำลังทำให้ใบบุญเริ่มระแวงและระวังตัวมากขึ้น เพราะถ้าเขาหน้ามืดปล้ำเธอขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง
“คุณพูดบ้าอะไร ฉันจะรีบไปทำงาน”
“แต่ผมไม่รีบ” กวินพูดออกมาหน้าตาเฉย ราวกับว่าเขานั้นไม่รู้สึกรู้สาอะไรในสิ่งที่เธอกำลังสื่อออกมา
“ฉันไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนคุณ คิดจะทำอะไรก็เห็นใจคนอื่นบ้าง” คราวนี้ใบบุญพูดออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายๆ จะร้องไห้เต็มที จนทำให้กวินสงสารเธอจับใจ แต่ทำไมเธอไม่ฟังเขาบ้าง แค่ทำตามในสิ่งที่เขาเสนอไปก็สิ้นเรื่อง
“ถ้าคนอื่นที่คุณพูดถึง หมายถึงตัวคุณเองละก็... สำหรับผมแล้วคงไม่ใช่ เพราะผมเห็นคุณเป็นภรรยาไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเลย” กวินไม่พูดเปล่าเขาเขาเอื้อมมือลงไปจับมือเรียวของเธอมากุมเอาไว้ พร้อมลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน ความเงียบกำลังส่งผลให้หัวใจของเขาและเธอเต้นแรง ต่างคนต่างก็คงได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน
เวลานี้ใบบุญเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เธอกำลังจะแพ้พ่ายให้กับหัวใจที่มันเพรียกหาชายคนนี้มานานหลายปี แม้เธอจะรู้ดีว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่นาทีนี้เขาอยู่ตรงนี้แล้ว ถึงกระนั้นเธอก็ยังกลัวอยู่ดี ถ้าหากการปรากฏตัวของเขานั้น เพียงแค่ต้องการมาซ้ำเติมรอยแผลเป็นที่เคยมี
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าใบพลูไม่ใช่ลูกของ...” ใบบุญพูดยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากของกวินได้กลืนกินเสียงหวานไปจนสิ้น เขาเคยเตือนเธอแล้วว่าห้ามพูดประโยคนี้อีก แต่ผู้หญิงจอมพยศอย่างเธอก็ไม่ฟัง เขาจะทำเธอไม่กล้าพูดว่าใบพลูไม่ใช่ลูกของเขาอีกเลยคอยดู เธอจะได้เข็ดหลาบกับประโยคที่ทำให้เขาปวดใจสักที
ร่างอรชรถูกรั้งให้นอนราบลงไปกับเบาะ ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอน ใบบุญทั้งผลักทั้งข่วน แต่ก็ไม่อาจต้านทานรสจูบที่แสนหวานจากกวินได้ เธอสัมผัสถึงรสชาติของไวน์ที่เขาเพิ่งดื่มมาจากบ้านของเอเดน ซึ่งทำให้ใบบุญคิดว่าเขาเมาหรือเปล่า ถึงได้กล้าที่จะทำอะไรบ้าๆ แบบนี้กับเธอ
แต่ทว่าในเวลานี้ หญิงสาวกำลังเผลอใจไปกับรสจูบของชายหนุ่ม เธอยอมให้เขาฉกชิมเอาความหอมหวานจากโพรงปากอย่างไม่รู้จักพอ ทรวงอกอิ่มกำลังถูกอกแกร่งบดเบียดแนบชิด ข้อมือที่เคยถูกจับกดค่อยๆ คลายออกมาประสานกันเอาไว้ ด้วยความยินยอมพร้อมใจของคนตัวเล็ก กวินแทบคลั่งเมื่อคนใต้ร่างตอบสนองเขาอย่างน่ารัก
ริมฝีปากร้อนๆ ค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย เมื่อชายหนุ่มอยากให้ใบบุญพร้อมกว่านี้เสียก่อน อีกอย่างเอาบนรถที่มีตะวันนั่งประจำตำแหน่งคนขับเขาเองก็ไม่ถนัด ถ้าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแม่ของลูกอีกครั้ง เขาขอเป็นเตียงนุ่มๆ ที่ห้องนอนจะดีกว่า
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมตั้งใจ เรามาเริ่มต้นใหม่จะได้ไหมใบบุญ” กวินยังคงใช้ร่างกายท่อนบนคร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ จึงทำให้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันไม่ถึงคืบ
“คุณลุกออกไปได้แล้ว” ใบบุญพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว เมื่อถูกเขาจ้องในระยะเผาเขา แววตาที่หวานเยิ้มของกวิน กำลังจะส่งผลให้หัวใจของหญิงสาวละลาย
“คุณตอบผมมาก่อนสิ ไม่สงสารลูกรึไง ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะนะใบบุญ ผมขอจากคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะนับต่อจากนี้ไปผมจะไม่มีวันทิ้งคุณกับลูกของเราไปไหนไกลอีกแล้ว”
น้ำเสียงแหบพร่าของเขาที่พูดออกมานั้น ระคนกำลังเจ็บปวดอย่างหนัก เมื่อนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา ที่เขาได้ปล่อยให้ใบบุญได้เผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน