เทพบุตรในคราบซาตาน นิยาย บท 25

หลายวันผ่านไป จนกระทั่งใบบุญต้องเข้ากะกลางวัน แต่ปัญหากำลังจะเกิดขึ้น เมื่อใบบัวต้องออกค่ายวิชาการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางโรงเรียนจะพาไปแข่งที่ต่างจังหวัด ซึ่งใบบัวต้องออกเดินทางและไปค้างคืนอยู่หลายวัน หน้าที่ของเธอที่เคยรับส่งใบพลูจึงต้องมีคนทำแทน โชคดีที่ใบบุญทำงานกลางวัน ถ้าเป็นตอนกลางคืนเธอคงคิดหนักกว่านี้หลายเท่า แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็เลิกดึก เพราะต้องทำโอที

“ไอ้ใบโพธิ์ก็ไม่ว่าง บอกว่างานที่อู่ยุ่งมาก” ก่อนออกไปทำงานใบบุญถึงกับนั่งคิดหนัก เพราะช่วงนี้กวินก็ไม่ค่อยว่างเช่นกัน เขาเดินทางไปต่างจังหวัดได้หลายวันแล้ว จนหญิงสาวแอบสงสัยว่าเขาไปทำอะไรถึงได้หยุดงานหลายวันแบบนั้นได้

“พี่ก็โทรหาเขาสิเบอร์ก็มีไม่ใช่หรอ” ใบบัวนั่งรับประทานมื้อเช้ากับใบพลู ถึงกับพูดเอ็ดพี่สาวเสียงดัง เพราะเรื่องนี้กวินน่าจะจัดการเองได้ เขาไปต่างจังหวัดหลายวันก็น่าจะกลับมาแล้ว

“ใบพลูเมื่อวานคุยอะไรกับพ่อบ้าง พ่อจะกลับวันไหน” ใบบุญตัดสินใจถามลูกสาวออกไป ซึ่งหนูน้อยกำลังตั้งหน้าตั้งตารับประทานมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อย

“คุณพ่อบอกว่างานยุ่งมากค่ะ กำลังประชุมอยู่ ใบพลูได้ยินเสียงคนพูดกันดังมากค่ะ แล้วคุณพ่อก็บอกว่าถ้ากลับจะซื้อขนมมาฝากใบพลูด้วย คุณพ่อบอกว่าตอนนี้อยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ” หนูน้อยพูดออกมาเป็นฉากด้วยความใสซื่อ เมื่อลูกสาวบอกว่าเขาขึ้นเหนือ เธอก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาอย่างฉับพลันทันด่วน

“สาวเหนือ มีแต่คนสวยๆ ขาวๆ หมวยๆ คงถูกใจน่าดูสินะ ถ้าวันนี้ยังไม่กลับฉันฉีกอกคุณแน่” ใบบุญพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับหน้าตาที่เอาเรื่อง หญิงสาวจะรู้ไหม ว่านั่นเธอกำลังเผลอแสดงอาการหึงหวงกวินออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนใบบัวแอบยกยิ้มที่มุมปากให้กับท่าทีของพี่สาว กว่าบุญใบจะรู้ใจตัวเอง เธอคงหลวมตัวเทใจให้เขาไปจนหมดหน้าตักไปเสียแล้ว

“ก็คนแถวนี้เล่นตัวนี่นา คิดว่าตัวเองเป็นสาวรึไง ลูกหนึ่งแล้วนะพี่ เขาอุตส่าห์มาง้อก็ทำเป็นหยิ่ง พอเขาหายไปก็คิดถึงล่ะสิ” ใบบัวพูดกระเซ้าเย้าแหย่พี่สาวออกไป จนทำให้ใบบุญมองมาที่น้องสาวด้วยแววตาค้อนเข้าให้ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้อง เพื่อหยิบกระเป๋าผ้าใบเดิมเตรียมตัวออกไปทำงาน จากนั้นไม่นานใบบุญได้เดินเข้าไปในครัว เพื่อหยิบปิ่นโตเถาคู่ใจ ที่เต็มไปด้วยอาหารสำหรับมื้อเที่ยง ส่วนคูปองที่ทางโรงงานให้นั้นเธอเก็บสะสมเอาไว้แลกขนมให้กับใบพลู

“พ่อบอกว่าวันนี้ก็กลับแล้วค่ะ ตอนเช้าพ่อโทรมา แต่คุยกับใบพลูแค่แป๊บเดียวเอง” หนูน้อยหยิบจานของตัวเองไปเก็บในครัว พร้อมกับนึกขึ้นได้ ถึงบทสนทนาที่เธอพูดกับบิดาในตอนเช้าตรู่ ซึ่งกวินได้โทรมาและคุยกับใบพลูแค่แป๊บเดียว หนูน้อยจึงรีบบอกกับมารดาออกไป

“กลับมาเจอดีแน่ ฉันจะบ่นให้หูชาเลยคอยดู” ใบบุญพูดพึมพำออกมาอีกครั้งอย่างอดน้อยใจไม่ได้ เมื่อกวินจะไปไหนมาไหน เขาไม่รายงานเธอ ถ้ามีงานด่วนก็แค่โทรมาบอก ไม่ใช่หายเงียบไปแบบนี้แล้วให้เธอรู้จากลูกสาวอีกที

“ใบพลูรถมาแล้ว

” “เสร็จแล้ว สวัสดีค่ะแม่ ใบพลูไปแล้วนะคะ” พอยกมือขึ้นไหว้มารดา หนูน้อยก็วิ่งแจ้นออกจากบ้านไปทันที “อย่าวิ่งใบพลูเดี๋ยวหกล้ม” ใบบุญร้องห้ามออกไป เมื่อเห็นลูกสาววิ่งกระโดกกระเดกออกไปแบบนั้น

“ยัยใบพลูรีบได้ทุกวันจริงๆ ฉันไปเรียนแล้วนะพี่ งอนแต่พองาม ถ้าเยอะไประวังพี่เขยเขาจะเบื่อ แล้วหนีไปหลีสาวอื่นไม่รู้ด้วยนะพี่ใบบุญ” ก่อนออกไปจากบ้าน ใบบัวโผล่หน้าเข้ามาใกล้พี่สาว พร้อมกับถ้อยคำที่กำลังทำให้ใบบุญคิดมาก ทั้งที่เธอพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่ทำไมหัวใจกลับอ้างว้าง เมื่อคิดว่าเขานั้นแอบไปหาผู้หญิงคนอื่น

“เด็กบ้าเอ๊ย! รีบไปเลยนะ” ใบบุญหน้ามุ่ยทำจมูกย่นใส่น้องสาว พร้อมกับพูดตามหลังใบบัวออกไปเสียงดัง เมื่อเธอกำลังคล้อยตามคำพูดที่ใบบัวบอกว่าให้งอนแต่พองาม จากนั้นไม่นานใบบุญก็รีบล็อกบ้าน แล้วเดินไปรอรถรับส่งพนักงานทีหน้าปากซอย ซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

“เป็นไรอ่ะ หน้าเนี่ยยังกับโกรธใครมาเป็นชาติ” ชมพู่ที่ยืนรอรถอยู่ก่อนหน้าแล้ว ได้เอ่ยถามเพื่อนรักออกมาด้วยความสงสัย

“ฉันมีสามีอยู่แล้ว ที่สำคัญมีลูกแล้วด้วย พวกคุณอย่าสร้างปัญหาให้ฉันอีกเลย เพราะทุกวันนี้ฉันก็มีปัญหาให้แก้มากพออยู่แล้ว” พูดจบใบบุญก็เดินเข้าไปสแกนใบหน้า ซึ่งคำพูดของเธอไม่ใช่แค่เพชรภูมิที่ดูตกใจ ชมพู่เองก็ถึงกับสะตั้นและสงสัยไม่น้อย เพราะตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยเห็นสามีของเพื่อนเลย ส่วนลูกถ้าชมพู่เดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นใบพลู เพราะหนูน้อยเด็กเกินกว่าที่จะเป็นน้องสาวของใบบุญได้

“ใบบุญฉันขอถามอะไรหน่อยสิ” เมื่อทั้งสองเอาของมาเก็บที่ล็อกเกอร์ ชมพู่ทำหน้าหลอหลาอย่างกล้าๆ กลัว เพราะเธอไม่มั่นใจว่าควรถามเพื่อนรักออกไปดีหรือเปล่า

“มีอะไรเหรอ อ๋อ... เรื่องสามีฉันน่ะเหรอ ป่านนี้เขาคงไปนอนกกอีหนูอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ผู้ชายพันธุ์นั้นต่อให้เรามอบโอกาสให้สักกี่ครั้ง เขาก็ไม่คู่ควรที่จะได้รับมันหรอก” ในเวลานี้เหมือนใบบุญจะได้ที เธอเลยพูดระบายออกมาอย่างกับคนที่เก็บกด ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงว่ากวินไปทำอะไรอย่างที่เธอคิดเอาไว้หรือเปล่า

“แล้วสามีของเธอเนี่ย เขาทำงานที่ไหนเหรอ” ชมพู่ถึงกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นใบบุญพูดถึงสามีของเธอมาก่อน

“ทำงานที่นี่แหละ”

“ฮ่ะ! จริงดิ! แล้วเขาอยู่ตำแหน่งอะไร เพิ่งย้ายมาใหม่ใช่ไหม เอ๊ะ! หรือว่าทำอยู่ฝ่ายผลิตเหรอ เพิ่งเห็นโรงงานเปิดรับพนักงานใหม่หลายอัตราเลย แต่ทำไมฉันไม่เคยเห็น” ชมพู่ยังคงพูดเดาไปทั่ว

“เปล่า เขาทำที่ออฟฟิศน่ะ พนักงานทั่วไปแหละ” ใบบุญเก็บของเสร็จ จึงหันมาตอบชมพู่ เธอยังไม่มีโอกาสถามเพชรภูมิเรื่องกวิน แต่ดูจากสถานการณ์ของเช้าวันนี้ เธอคงไม่ถามเขาแล้วแหละ เพราะไม่อยากตกเป็นมือที่สามของใคร ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับหัวหน้าใหญ่อย่างเพชรภูมิ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน