เสียงหัวใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ เทพบุตรในคราบซาตาน
ตอนนี้ของ เทพบุตรในคราบซาตาน โดย ปีศาจชอนซา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง เสียงหัวใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เมื่อทำงานมาทั้งวันร่างกายของหญิงสาวเริ่มอ่อนล้า อาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังไม่ชิน ในการใช้ชีวิตกับกวินก็เป็นได้ เนื่องจากการนอนร่วมห้องกับเขานั้น ทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ หลายคืนมาแล้วที่หลับๆ ตื่นๆ
“ใบบุญเย็นนี้แวะตลาดไหม” ชมพู่เอ่ยถามเพื่อนรักออกมาเบาๆ ขณะที่สองสาวกำลังเก็บของออกจากล็อคเกอร์
“ฉันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวยังไงไม่รู้ เธอไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้านไปนอนพักมากกว่า” ใบบุญพูดพร้อมกับหาวออกมา ก่อนที่หญิงสาวจะยกมือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ตามมารยาท
“กลับด้วยกันไหม วันนี้ฉันขับมอเตอร์ไซด์มา” ชมพู่ยังคงพูดจาโน้มน้าวจิตใจให้เพื่อนกลับด้วยกัน
“เอ่อ... คือว่า”
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นละ"
“ตอนนี้ฉันย้ายเข้าไปอยู่บ้านพ่อของใบพลูแล้ว” ในที่สุดใบบุญก็บอกความจริงกับเพื่อนออกไป แต่ทว่าเธอก็ยังไม่กล้าที่จะพูดเรื่องที่ท่านประธานบริษัทกวินชูคือสามีของเธอ
“ฮ่ะ! จริงดิ!” ชมพู่ถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง เมื่อเพื่อนรักของเธอกลับไปอยู่กินกับพ่อของลูก ซึ่งหญิงสาวไม่รู้ว่าคนทั้งคู่ได้เลิกรากันไปกี่ปีแล้ว
“เบาๆ หน่อยชมพู่ ก็ยัยใบพลูน่ะสิ เรียกร้องหาเขา ฉันก็เลย...”
“ยอมใจอ่อน ว่าแต่หน้าตาเขาเป็นยังไงหล่อไหม ฮันแน่... แบบนี้แสดงว่าเสร็จพ่อของลูกไปแล้วสินะ” ชมพู่กระซิบลงไปที่ข้างใบหูของเพื่อนรัก พร้อมกับรอยยิ้มและแววตาที่ดูมีเลศนัย
“อะไรของเธอ ไม่ต้องมองฉันแบบนี้เลยนะ” ใบบุญถึงกับหน้าร้อนผ่าน เมื่อเธอรู้ซึ้งถึงความหมายในคำพูดและแววตาของชมพู่ ซึ่งพวงแก้มนวลถึงกับแดงระเรื่อขึ้นมาเลยทีเดียว
Rrrr!!! เสียงสมาร์ทโฟนเครื่องแพงที่สามีของเธอซื้อให้ดังขึ้น แต่ทว่าใบบุญกลับไม่กล้าหยิบออกมาจากกระเป๋าเพื่อรับสาย เนื่องจากเธอกลัวว่าชมพู่จะถามถึงที่มาที่ไปของมือถือเครื่องใหม่ ซึ่งมีราคาแพงแบบที่ว่าสาวโรงงานขี้งกอย่างเธอชาตินี้คงไม่มีทางซื้อแน่ ความจริงแล้วถึงไม่งกเธอก็คงไม่มีปัญญาซื้ออยู่ดี
“ใช้เสียงริงโทนใหม่เสียด้วย รับสิใบบุญ ไม่ใช่สามีของเธอมารอรับแล้วเหรอ” น้ำเสียงของชมพู่ดังพอที่อันดาจะได้ยิน เมื่อหัวหน้าอย่างอันดากำลังจะเดินออกไปขึ้นรถเช่นกัน จึงทำให้หล่อนแอบแสยะยิ้มอย่างสะใจ เมื่อมันคือข่าวใหม่ที่จะทำให้ใบบุญกับหัวหน้าเพชรภูมิผิดใจกัน ซึ่งความเป็นจริงแล้วหญิงสาวไม่เคยคิดที่จะสานสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหน มีแต่อันดาที่กำลังคิดเองไปไกล ทั้งที่ไม่เคยเห็นใบบุญมีทีท่าว่าจะชอบเพชรภูมิเลยแม้แต่น้อย
“รับสิ รออะไร” คราวนี้ชมพู่รีบคะยั้นคะยอเพื่อนรัก เมื่อใบบุญไม่ยอมหยิบมือถือออกมารับ ซึ่งมันได้ดังอย่างต่อเนื่องจนผิดสังเกต
“ฮัลโหล... ฉันกำลังจะเดินออกไป จะโทรมาทำไมเนี่ย” เพียงแค่ใบบุญหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องแพงของเธอขึ้นมากดรับ ทำให้ชมพู่รู้ทันทีว่าราคาของมันคนมีฐานะเท่านั้นถึงจะกล้าซื้อมาใช้ เพราะลำพังเงินเดือนของหญิงสาวก็แทบจะไม่ชนเดือนอยู่แล้ว
“ทำไมเมียผมดุจัง” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน เมื่อเขารู้ว่าใบบุญคงเหนื่อย เธอจึงอารมณ์เสียแบบนี้
“ฉันไม่ได้ดุสักหน่อย ก็กำลังจะออกไปอยู่นี่ไง รอแป๊บหนึ่งนะคะ” ใบบุญพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกว่าเดิม พร้อมกับเดินนำหน้าชมพู่ออกมาจากแผนก เพื่อแยกย้ายกันขึ้นรถกลับบ้าน
“วันนี้ผมขับรถเก๋งสีขาวมาจอดรอคุณอยู่ที่เดิมนะครับคนดี ผมกลัวว่าคุณจะหาไม่เจอเลยโทรมาบอก” น้ำเสียงของกวิน เวลาที่เขาพูดกับภรรยายังคงฟังดูอ่อนโยนเช่นเคย
“โอเคค่ะ” ใบบุญกดวางสายก่อนจะเก็บสมาร์ทโฟนเครื่องแพงของเธอลงไปในกระเป๋าผ้าตามเดิม แต่ทว่าสายตาของชมพู่นั้น กำลังเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เพราะเธอพอจะเดาได้ว่าสามีของเพื่อนคงมีฐานะมากพอสมควร
“ใช้มือถือรุ่นแพงแบบนี้ พ่อของใบพลูเป็นใครกันนะ ฉันชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิ”
“แหม... คิดว่าทำตัวใสๆ ดูไร้มลทินที่ไหนได้มีลูกมีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว” ขณะที่ชมพู่กำลังเอ่ยแซวเพื่อนนั้น ได้มีน้ำเสียงแข็ง แฝงไปด้วยความเย้ยหยันดังตามหลังสองสาวขึ้นมา ทำให้ใบบุญกับชมพู่หยุดเดิน พร้อมกับหันไปมอง ซึ่งแน่นอนทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเสียงของใคร
“ฉันไม่เคยทำตัวใสซื่อ เพียงแค่ไม่เคยจุ้นจ้านวุ่นวายกับคนอื่น พี่เองก็เป็นถึงหัวหน้าแผนก อย่าเอานิสัยของตัวเองมายัดเยียดให้คนอื่น ที่สำคัญเป็นหัวหน้าคนก็ควรทำตัวให้น่านับถือมากกว่านี้นะคะ" คราวนี้ใบบุญพูดสวนกลับไปอย่างไม่ไว้หน้าอันดา จนชมพู่เอามือขึ้นมาป้องปากอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หญิงสาวไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเพื่อนรักของเธอนั้น จะกล้าต่อกรกับหัวหน้าอย่างอันดาด้วยคำพูดที่แรงขนาดนี้
“อยากตกงานใช่ไหม”
“พี่นั่นแหละอยากตกงานใช่ไหม” คราวนี้ใบบุญได้พูดตะคอกออกไปอย่างเหลืออด เมื่อเธอถูกอันดาตามราวีไม่เลิกรา ทั้งที่ใบบุญนั้นไม่เคยเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับหัวหน้า (รีดเดอร์) ที่บ้าอำนาจอย่างอันดา
“ใบบุญไปกันเถอะคนมองใหญ่แล้ว” เมื่อชมพู่เห็นว่าเรื่องเริ่มจะบานปลาย เพราะเธอไม่เคยเห็นใบบุญต่อปากต่อคำกับอันดามาก่อน จึงทำให้หญิงสาวกลัวว่าเรื่องจะถึงท่านประธาน ซึ่งเพื่อนของเธอนั้นอาจจะตกงานได้ จึงทำให้ชมพู่รีบฉุดแขนใบบุญออกมาตรงนั้นทันที
“ก็ตอนนั้นคุณกำลังเคลิ้มใช่ไหมล่ะครับ หืม” กวินพูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม แถมยังทำสายตาทะเล้นอีกด้วย เขาจะรู้หรือเปล่านะ ว่ากำลังจะทำให้หัวใจของใบบุญละลาย เวลาที่มีเขาอยู่ข้างกายเธอแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
“วกมาเรื่องนี้อีกแล้วนะ ขับรถไปเลย” เสียงของหญิงสาวไม่ได้เกรี้ยวกราด แต่ได้แฝงความอ้อนเอาไว้ในที จนทำให้กวินอยากจับเธอกดแล้วจูบให้หายมันเขี้ยว
“ถึงบ้านก่อน ไม่ต้องอ้อนขนาดนี้ก็ได้ครับที่รัก”
“ใครอ้อน เงียบไปเลยนะฉันจะพักสายตา ถึงบ้านปลุกด้วย” เมื่อพูดจบประโยค ดวงตากลมโตค่อยๆ ปรือลงอย่างช้าๆ แต่ดูเหมือนว่ากวินจะชอบใจ ที่ภรรยาของเขาน่ารักขนาดนี้
สักพักรถเก๋งคันหรูได้ขับมาจอดที่บ้านหลังใหญ่ ก่อนที่กวินจะเปิดประตูแล้วก้มลงไปอุ้มหญิงสาวร่างอรชรมาอุ้มขึ้นไว้ในท่าเจ้าสาว ใบบุญคงเพลียมาก เธอถึงได้หลับลึกขนาดนี้
“ว้าย! ตาเถร นั่นคุณใบบุญเป็นอะไรคะ ทำไมคุณกวินถึงได้อุ้มเธอเข้ามาแบบนี้ หรือว่าเธอไม่สบาย” น้ำเสียงของป้าจิตรดูตกใจไม่น้อย ซึ่งใบหน้าของนางแฝงไปด้วยความห่วงใยไร้ซึ่งการเสแสร้งใดๆ ผิดไปจากไอซ์ที่ยืนด้านหลังหญิงสูงวัยพร้อมกับเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ใบบุญ
“เปล่าครับ พอดีว่าคุณใบบุญของป้าทำงานหนัก พอขึ้นรถได้ก็หลับ ผมเลยไม่อยากปลุกเธอ”
“อ้อ... ค่ะ” พอพูดกับป้าจิตรจบประโยค กวินได้เดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของเขาทันที เมื่อปิดประตูลงกลอน กวินค่อยๆ วางหญิงสาวร่างอรชรลงไปที่เตียงนอนอย่างเบามือ
“อืม...” เพียงแค่ร่างกายอันบอบบางสัมผัสลงกับที่นอนแสนนุ่ม ทำให้ใบบุญงัวเงียตื่นขึ้น ดวงตาของเธอค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างช้าๆ แต่ทว่ากลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า เมื่อหญิงสาวคิดว่าสามีของเธอคงอุ้มขึ้นมา แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอ ไม่หนักเลยหรืออย่างไรกัน
“ยิ้มอะไร หรืออยากให้รางวัลผม ใช่ไหมล่ะ” เขาจ้องหน้าภรรยาสาวอย่างไม่กะพริบตา แต่ดูเหมือนว่าเธอเองก็ชอบใจ ที่กวินเอาอกเอาใจและดูแลเธอกับลูก ไหนจะน้องสาว ซึ่งค่าเทอมและที่พักของใบบัวกวินเป็นคนจัดการจ่ายเองทั้งหมดอย่างไม่ลังเล
“หิวข้าวจัง... แต่ขออาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวจะแย่ ขอบคุณนะที่อุ้มฉันขึ้นมา จุ๊บ!” ใบบุญไม่พูดเปล่า ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัว หญิงสาวได้จุมพิตลงไปที่ริมฝีปากอุ่นของสามีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยรอยยิ้มที่เขินอายจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุก
“รีบอาบนะจ๊ะเมียจ๋า จะนอนรอไม่ไปไหน” กวินพูดออกมาเสียงดัง แน่นอนใบบุญได้ยินชัดเจน จนเผลอยิ้มให้กับคำพูดของกวิน นอกจากเขาจะดูสุขุมในลุคของผู้ใหญ่ สามีของเธอก็มักจะอ่อนโยนและเอาอกเอาใจเก่ง จนใบบุญรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่ได้ผู้ชายอย่างกวินมาเป็นสามีและพ่อของลูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน