เมื่อหญิงสาวอาบน้ำเสร็จ เธอถึงกับทำหน้าเอือม เพราะลืมหยิบชุดนอนเข้ามาด้วย ซึ่งในเวลานี้บนเรือนกายของเธอมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบอกเอาไว้ ซึ่งถ้าเดินออกไปในสภาพนี้คงไม้พ้นจากการถูกกวินรุกรานเป็นแน่
“คนบ้ายิ่งหื่นอยู่ด้วย เดินออกไปแบบนี้มีหวังถูกกดจมเตียงแน่ ทำไงดีนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำในห้องน้ำคนเดียว ใช่ว่าเธอไม่อยากสานสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งตรึงใจกับสามี แต่ใบบุญกำลังกลัวว่ากวินจะเบื่อแล้วคิดว่าเธอเป็นของตาย เพราะผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับเขาในแต่ละวันนั้น ล้วนมีดีกรีเป็นถึงนักธุรกิจที่สร้างประโยชน์ให้กับบริษัทกวินชูมากมาย ขณะที่เธอเป็นเพียงแค่สาวโรงงาน ไม่มีทางเทียบชั้นกับผู้หญิงพวกนั้นได้เลย
“เอาวะ! อ่อยผัวจะกลัวอะไร” หญิงสาวไมได้คิดในใจแต่พูดออกมาเสียงดัง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ราวกับกำลังจะออกไปรบก็ไม่ปาน
แต่ทว่าพอเดินออกมาจากห้องน้ำเธอกลับไม่เจอกวิน ก่อนจะได้ยินเสียงเขาพูดอยู่ที่ระเบียง ใครโทรมาทำไมสามีของเธอต้องออกไปรับโทรศัพท์นอกห้องแบบนั้น ด้วยความอยากรู้จึงทำให้ใบบุญยอมเสียมารยาท หญิงสาวค่อยๆ ย่องเบาๆ ไปที่ประตูทางออกระเบียง ซึ่งกวินปิดไม่สนิท จึงทำให้เธอได้ยินเสียงที่เขาเอ่ยชื่อคนที่กำลังสนทนาด้วยเต็มสองหู จนทำให้เธอถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ
“ผมทราบเรื่องจากคุณไพลินแล้วครับ ถ้าคุณริสาต้องการฉลองการกลับมาเมืองไทย ในคืนนั้นผมก็ไม่ขัดข้องอะไร” กวินยืนพูดอยู่ที่ระเบียงด้วยใบหน้าที่ไม่ยินดีในการกลับมาของริสาสักเท่าไหร่นัก แต่ใบบุญกลับกำลังคิดไปไกล เมื่อเธอได้ยินในสิ่งที่กวินได้พูดออกมา ‘ในคืนนั้น’ หมายความว่ายังไงกัน สามีของเธอกำลังคิดจะทำอะไร
“ริสาคิดถึงคุณจัง กลับไปครั้งนี้ คุณคงไม่เลื่อนงานหมั้นของเราออกไปอีกนะคะ” ดูเหมือนว่าหล่อนกำลังรู้ทันความคิดของกวิน เมื่อเพื่อนส่งคลิปที่ร้านอาหารวันนั้นมาให้ดู ซึ่งกวินทีท่าทีเอาอกเอาใจใบบุญ เกินกว่าที่หล่อนจะเชื่อว่าหญิงสาวเป็นผู้ช่วยของท่านประธานหนุ่ม
“ผมว่าเรื่องนี้เราค่อยคุยกันดีกว่านะครับ ผมมีงานต้องทำต่อ คุณมีอะไรอีกหรือเปล่า ผมขอวางสายนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” น้ำเสียงของริสาตะคอกมาตามสายอย่างไม่ชอบใจ เมื่อกวินกำลังจะวางสายด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด
“มีอะไรอีกครับ เอาไว้คุยกันที่ภูเก็ตดีกว่า เดี๋ยวผมให้ตะวันไปรับที่สนามบิน” คำพูดที่ฟังดูธรรมดา กลับทำให้ใบบุญรู้สึกว่าเธอกำลังถูกใบมีดกรีดลงกลางใจ เมื่อผู้หญิงคนนั้นคู่ควรกับสามีของเธอทุกประการ แล้วถ้อยคำเหล่านั้นช่างมีอิทธิพลต่อหัวใจของเธอเหลือเกิน
“ไม่ค่ะ คุณต้องมารับริสา ไม่อย่างนั้นละก็...ริสาจะถือว่าคุณรังเกียจริสา ถึงได้พยายามทำตัวเหมือนคนแปลกหน้าขึ้นทุกวัน” หล่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน แต่กวินกลับรู้สึกรำคาญมากกว่า เมื่อเขาไม่ได้รู้สึกพิเศษกับหล่อนมากไปกว่าเพื่อนร่วมงานหรือลูกสาวหุ้นส่วนอีกคนของเขาเท่านั้น
“คุณกำลังเข้าใจผมผิดนะริสา เอาไว้ถ้าผมว่างจะไปรับคุณด้วยตัวเองเลย แค่นี้นะครับ” ยิ่งกวินพยายามหาคำพูดมาโต้แย้งริสา ใบบุญกลับเข้าใจผิดไปใหญ่
“น่ารักจัง กู๊ดไนท์นะคะ จุ๊บ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน