เมื่อหญิงสาวขึ้นมาบนรถหรูของท่านประธาน สิ่งที่ใบบุญเป็นกังวลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เพราะพนักงานหลายคนได้เพ่งเล็งถึงความสัมพันธ์ของเธอกับท่านประธานหนุ่มและอีกไม่นานคงกลายเป็นประเด็นใหญ่ ที่ผู้คนในบริษัทจะพูดกันให้สนุกปาก หลังจากที่สาวโรงงานได้นั่งรถหรูออกมากับท่านประธานหนุ่มในเวลางานแบบนี้
“นี่คุณเป็นอะไรไปครับ ผมคุยกับคุณครูแล้วนะ ลูกไม่เป็นไรมากหรอก ยัยหนูเก่งจะตาย อย่าคิดมากเลยนะคุณ” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลฟังดูอ่อนโยน พร้อมกับเอื้อมมืออันอบอุ่นลงมากุมมือเล็กของภรรยาเอาไว้ เพื่อให้เธอนั้นได้คลายความกังวลใจ
“คุณ... เอ่อคือว่า... พรุ่งนี้ฉันขอลางานได้ไหมคะ” นี่คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ใบบุญมีความประสงค์อยากจะลางาน ทั้งที่ปกติแล้ว แดดจะออกฝนจะตก ลมจะจับ ไข้เสียจนตัวสั่นเธอก็ยังคงฝืนสังขารมาทำงาน เพื่อให้ได้เบี้ยขยัน
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ หืม... หรือว่าคุณจะลาออกเลยก็ได้นะ เมียกับลูกผมเลี้ยงได้สบายมาก” กวินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะเขาเองก็ปรารถนาให้ภรรยาลาออกจากงานเช่นกัน
“ฉันแค่จะลาพักร้อน ใครบอกว่าจะลาออก” คราวนี้หญิงสาวได้ขึ้นเสียงสูงใส่ผู้เป็นสามีอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งใบบุญเองก็แปลกใจ ที่พักนี้เธอขี้วีนหงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ไปได้ยังไงกัน
“ฉันขอโทษ” หลังจากที่รู้ว่าตัวเองแสดงท่าทีไม่น่ารักใส่เขา หญิงสาวจึงรีบกล่าวคำขอโทษออกไปทันที เมื่อเธอกำลังคิดว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยคงไม่ชอบผู้หญิงทำตัวงี่เง่าเอาแต่ใจ
“ผมไม่โกรธคุณหรอก ผมบอกแล้วไงต่อให้คุณทำตัวเป็นนางมารร้าย ผมก็ยังคงมองว่าคุณคือนางฟ้าอยู่ดี” ถ้อยคำที่ร้อยเรียงออกาจากหัวใจของท่านประธานหนุ่ม กลับทำให้ภรรยาของเขาหันไปจ้องหน้าอย่างกับว่ากำลังจับพิรุธผู้เป็นสามี
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าคุณพูดแบบนี้กับสาวๆ ทุกคน ไม่อย่างนั้น ฉันเอาคุณตายแน่ สายตาเนี่ยหวานเยิ้มเชียวนะ ดื่มไปกี่แก้วละค่ะ เซ็นสัญญาทำไมต้องดื่มหรือว่ามันเป็นธรรมเนียมของคุณ” ตอนแรกหญิงสาวก็ไม่คิดจะพูดเรื่องนินิว แต่พอได้ยินไพลินพูดถึงริสา จึงทำให้เธออยากหาเรื่องผู้ชายจอมกะล่อน เพราะถึงยังไงเธอก็ยังไม่วางใจ ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือยังไงก็ชอบกินเนื้ออยู่ดี
“โธ่! คุณผู้หญิงครับ ไวน์พวกนั้นทำอะไรผมไม่ได้รอก ก็แค่ชิมและที่ผมพูดแบบนี้ก็เฉพาะกับคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้คุณคือแม่ของลูก คือคุณผู้หญิงของกวินชู ตำแหน่งนี้มีไว้ให้แค่คุณคนเดียวเท่านั้น”
“ฉันควรดีใจใช่ไหมคะ”
“คุณควรใช้คำว่าโคตรดีใจต่างหาก เพราะได้ครอบครองทั้งกายและใจ ของชายหนุ่มรูปงาม รู้หรือเปล่า คุณกำลังทำให้ผู้หญิงค่อนประเทศอกหักดังเปาะเชียวนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ ในเสน่ห์ของตัวเองที่สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี เมื่อเขาดูหล่อ เท่ สมาร์ต เพอร์เฟกต์ไปเสียหมด
“คนอะไรหลงตังเองเป็นบ้าเลย”
“แล้วคุณล่ะ หลงผมบ้างไหมครับ หืม จุ๊บ!”
“คุณ! ขับรถไปเลยนะ ทำบ้าอะไรเนี่ย” ใบบุญถึงกับร้องห้าม พลางยกมือขึ้นมาลูบลงที่แก้มเบาๆ เมื่อเธอถูกสามีหนุ่มขโมยจุมพิตเสียจนเขินอายจนไปไม่เป็นเลยทีเดียว จนไม่กล้าหันไปมองหน้าเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน