เทพบุตรในคราบซาตาน นิยาย บท 69

เมื่อกวินพาริสาเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา หลังจากที่คนทั้งคู่เดินเข้าไปด้านในแล้วปิดประตู เพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว บรรดาพนักงานในออฟฟิศได้เริ่มต้นคุยกันถึงประเด็นร้อนของเช้าวันนี้ เมื่อเรื่องราวของท่านประธานหนุ่มกับสาวโรงงาน ผู้หญิงธรรมดาอย่างใบบุญดูมีท่าทีที่สนิทสนมกันเกินกว่าพนักงานทั่วไป

เพราะดูจากที่กวินปฏิบัติต่อเธอราวกับเจ้าหญิงทั้งที่อยู่ในชุดฟอร์มโรงงาน ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าพวกเขาต้องมีความสัมพันธ์มากกว่าลูกน้องกับเจ้านายอย่างแน่นอน แต่ทว่าเรื่องของริสาก็เริ่มมีคนพูดถึง หลังจากที่ทุกคนวิเคราะห์กันออกมา ซึ่งดูเหมือนว่ารักสามเส้ากำลังจะเกิดขึ้นกับท่านประธานหนุ่ม

“ฉันว่าคุณกวินต้องแอบกินทั้งสองคนแน่ๆ พวกแกว่าไหม” หญิงสาวแต่งตัวทันสมัยสมกับทำงานในออฟฟิศพูดขึ้นมาอย่างไม่คิด เมื่อเรื่องราวของท่านประธานกำลังเป็นประเด็นพูดถกเถียงกันอย่างสนุกปาก

“ไม่มั้ง ฉันว่าท่านประธานไม่น่าคว้าเอาสาวโรงงานมาทำแฟน”

“แฟนที่ไหนอ่ะแก แค่คู่นอน” หญิงสาวในกลุ่มอีกคนพูดออกมาด้วยเสียงสูง เมื่อหล่อนคิดว่ายังไงท่านประธานก็คงไม่มีทางคว้าใบบุญมาเป็นแฟน ถ้าภรรยายิ่งแล้วใหญ่ ตำแหน่งนี้ไม่ได้อยู่ในสมองของพวกหล่อนเลยแม้เพียงเสี้ยว

“นี่พวกเธอไม่มีการไม่มีงานทำรึไง ถึงได้เมาท์เรื่องของเจ้านายอย่างสนุกปาก เดี๋ยวก็ถูกไล่ออกตกงานไม่รู้ด้วยนะ” ไพลินเดินผ่านมาได้ยินพอดี จึงทำให้เธอพูดเอ็ดสาวๆ พวกนั้นออกไป ซึ่งในเวลานี้ต่างคนต่างก็รีบเดินไปนั่งประจำตำแหน่งที่ทำงานของตัวเอง แต่ทว่าในเวลานี้ความสงสัยกำลังเกิดขึ้นกับไพลินแทน

เมื่อเธอกำลังคิดว่าใบบุญกับท่านประธานหนุ่ม มักจะนัดกันมาคุยในห้องทำงานบ่อยๆ มิหนำซ้ำคนทั้งคู่ยังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันอีกด้วย จนดูผิดวิสัยของลูกน้องกับเจ้านาย หรือว่าสิ่งที่ทุกคนพูดมันจะเป็นความจริงนะ ไพลินคิดทบทวนพร้อมกับตั้งคำถามในใจ ก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงานของหล่อนหน้าห้องท่านประธาน

ภายในห้องทำงานของกวินริสาเอาแต่ร้องให้ เพราะวันนี้บิดาจะพาไปพบกับนักธุรกิจหมื่นล้าน ผู้มีฉายาเสือผู้หญิงอันดับต้นๆ ของแวดวงนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ทว่านายคชากลับต้องการให้ลูกสาวสานสัมพันธ์กับครรชิต ซึ่งดูเหมือนว่าริสากำลังจะกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ ที่นักธุรกิจหนุ่มหมายตาเอาไว้ หลังจากที่บิดาของเธอแนะนำลูกสาวให้รู้จักกับครรชิตอย่างเป็นทางการมาแล้ว

“ริสาไม่มีทางเลือก ตอนบ่ายคงต้องออกไปกับคุณพ่อ และไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง คุณกวินช่วยริสาด้วยนะคะ” หญิงสาวก้มหน้าก้มตาร้องไห้ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“ผมยังเข้าหน้าพ่อของคุณไม่ติดเลย ไม่รู้ว่าในตอนนี้คุณคชากำลังคิดจะทำอะไร ถ้าเขาจะถอนหุ้นผมคงต้องทำใจ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมพอมีทุนสำรองอยู่บ้างแต่ก็เหลือไม่มาก เพราะเพิ่งให้ใบโพธิ์ยืมไป” คำพูดของกวินทำให้ริสาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขา เมื่อท่านประธานหนุ่มพูดถึงใบโพธิ์ ผู้ชายที่หายไปจากชีวิตของเธอตั้งแต่วันนั้น ทำไมเขาใจร้ายกับเธอจัง แถมยังไม่คิดที่จะติดต่อกลับมาทำเหมือนกับว่าเธอนั้นไร้ค้า เขาไม่แม้แต่จะคิดมาเจอเธอหน้าบ้างเลยหรืออย่างไร

“คุณกวินค่ะ ริสา ฮื้อๆ ... ริสาท้องค่ะ” คราวนี้หญิงสาวได้ร้องไห้ออกมาพร้อมกับถ้อยคำที่ทำให้กวินดูตกใจไม่น้อย

“อะไรนะครับ คุณท้อง!”

“ใช่ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น มันคงกลายเป็นเพียงแค่ความใคร่ พ่อของลูกเขาถึงดูไม่ห่วงใย ไม่คิดจะถามไถ่กันเลยสักคำ” ริสาพูดจาตัดพ้อใบโพธิ์ออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ

“ไม่จริงหรอกครับ ตอนนี้ใบโพธิ์คงยุ่ง เขากำลังสร้างตัวก็เพื่อคุณกับลูกนะริสา” กวินพยายามคิดหาถ้อยคำมาปลอบหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาพูด เพื่อให้ริสาเข้าใจใบโพธิ์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

“สร้างตัวมันคนละเรื่องกับการสร้างกำลังใจ ถ้าเขาไม่มีใครทำไมไม่มาเจอกันบ้าง ผู้ชายอย่างเขาคงไม่มีหัวใจ แต่มันก็ไม่แปลกอะไร ที่เขาจะไม่แคร์ผู้หญิงอย่างริสา เพราะเรารู้จักกันแค่วันสองวันเอง ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าเลยสักนิด” หญิงสาวจะรู้หรือเปล่าว่า แค่วันสองวันนั้นมีค่ากับใบโพธิ์แค่ไหน เขาจึงรีบตัดสินใจรับข้อเสนอของพี่เขย ยอมติดหนี้สามีของพี่สาวก้อนโต ก็เพราะว่าชายหนุ่มหวังอยากให้บิดาของริสายอมรับในตัวเขาให้เร็วที่สุด

“บางทีใบโพธิ์ก็อาจจะคิดถึงคุณจนแทบทนไม่ไหว แต่ที่ยอมหายไป เพราะเขามีเหตุผลบางอย่างก็ได้ อย่าคิดมากเลยนะคุณริสา เอาไว้เดี๋ยวผมจะจัดการคุยกับใบโพธิ์ให้นะครับ”

“คงไม่จำเป็นแล้วละค่ะ ริสาไม่อยากดึงใครเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว”

“แต่เด็กในท้องควรจะมีพ่อนะครับ”

“ก็คุณครรชิตยังไงละค่ะ เขาคือพ่อของลูกริสา”