เทพโอสถผงาดโลกา นิยาย บท 13

เมื่อเห็นเสิ่นเสียงหันหลังให้และไม่สนใจอีกต่อไป ทำให้เสิ่นเจิ้นหัวกับหญิงสาวข้างกายเริ่มโกรธ เสิ่นเจิ้นหัวจึงฉกฉวยโอกาสนี้แสดงความเก่งกาจต่อหน้าบุตรสาวเจ้าเมือง เขาเดินตรงเข้าหาเสิ่นเสียง

“คุณชาย นี่คือต้นกล้าสมุนไพรพิเศษที่ท่านสั่งเจ้าค่ะ” หญิงสาวที่โต๊ะบริการลูกค้านำถุงกระดาษหลายห่อจากถุงเก็บของออกมายื่นให้เขา

การที่เสิ่นเสียงมาซื้อสมุนไพรเพื่อปลูกนั้นทำให้เสิ่นเจิ้นหัวประหลาดใจ แต่เขากลับหัวเราะเยาะ “เสิ่นเสียง เจ้าไม่มีพลังวิญญาณ อย่าฝันว่าจะปลูกสมุนไพรพิเศษได้เลย อย่าบอกนะว่าเจ้าหวังจะเป็นนักหลอมยา น่าตลกสิ้นดี”

ภายในหอวิญญาณยา แม้จะเงียบสงบ แต่ทุกคนก็หันมองด้วยความอยากรู้เมื่อได้ยินว่าคนที่ไม่มีพลังวิญญาณตั้งใจจะเป็นนักหลอมยา

เสิ่นเสียงเป็นที่รู้จักดีในเมืองเพราะปู่ของเขาเป็นหัวหน้าตระกูลและบิดาเป็นบุคคลสำคัญ แต่เขากลับไม่มีพลังวิญญาณ ทำให้ผู้คนมักเอ่ยถึงเขาด้วยความเสียดาย

เสิ่นเสียงไม่ตอบอะไร เขาจ่ายเงินและเก็บต้นกล้าสมุนไพรพิเศษทันทีโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง ขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป เสิ่นเจิ้นหัวกลับหัวเราะเยาะตามหลัง “แค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง ต่อให้ใช้สมุนไพรพิเศษมากเท่าไหร่ก็เปล่าประโยชน์”

เสิ่นเสียงขมวดคิ้ว ไม่พอใจอย่างมาก ที่ถูกดูถูกว่าไม่มีพลังวิญญาณยังพอทน แต่การที่ถูกเรียกว่าเป็น “คนไร้ค่า” ต่อหน้านั้นไม่อาจทนได้

ทุกคนที่เห็นสองคนนี้กำลังมีเรื่องกันก็รู้สึกสนุก เพราะรู้ว่ามีละครฉากเด็ดให้ดูแน่

เสิ่นเสียงหันกลับมามองเสิ่นเจิ้นหัวผู้ถือดี เขายกมือขึ้น เผยให้เห็นเปลวไฟเล็ก ๆ ที่ลุกโชนในฝ่ามือของเขา ความร้อนแผ่ขยายไปทั่ว จนทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนอยู่ในหม้ออบไอน้ำ

ในหอวิญญาณยานั้นมีหลายคนที่ตาแหลมคม พวกเขารู้ทันทีว่าไฟนี้ไม่ธรรมดา เป็นเปลวไฟที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักหลอมยา

“เสิ่นเจิ้นหัว เจ้ากล้าท้าทายเพลิงแห่งปราณแท้ของคนไร้ค่าคนนี้ไหม” เสิ่นเสียงเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา

เพลิงแห่งปราณแท้นั้น ถือเป็นสิ่งหายาก มีเพียงผู้ที่ฝึกวิชาเฉพาะทางหรือผู้ที่มีพรสวรรค์พิเศษเท่านั้นที่ทำได้

เสิ่นเจิ้นหัวซึ่งอยู่ใกล้เสิ่นเสียงเริ่มเหงื่อไหลอย่างหนัก หญิงสาวที่โต๊ะบริการลูกค้าก็เช่นกัน เสื้อบางของนางชุ่มไปด้วยเหงื่อเผยให้เห็นรูปร่างโค้งเว้าอันน่าหลงใหล

ไฟที่ทรงพลังเช่นนี้ทำให้คนในหอวิญญาณยาต่างตะลึงตาค้าง

ท่านอาจารย์ของตำหนักเริ่มรับลูกศิษย์แล้วจริง ๆ

หัวหน้าหอวิญญาณยาที่ทรงเกียรติมากที่สุดในเมืองถึงกับเอ่ยปากขอรับศิษย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย เหล่าลูกหลานจากตระกูลใหญ่มากมายต่างใฝ่ฝันที่จะได้เป็นศิษย์ของเขาจนต่อแถวออกไปถึงหน้าประตูเมือง

ทุกคนในห้องพากันตะลึงกับพรสวรรค์ของเสิ่นเสียง แม้จะไร้พลังวิญญาณ แต่เขาสามารถควบคุมเพลิงแห่งปราณแท้จากพลังวิญญาณได้ ซึ่งถือเป็นพรสวรรค์ที่นักหลอมยาต้องการอย่างยิ่ง

เสิ่นเสียงเกาศีรษะก่อนจะพูดเบา ๆ “ข้าก็อยากนะ แต่ท่านกับปู่ของข้ามีเรื่องบาดหมางกัน ข้าคงเคารพท่านเป็นอาจารย์ไม่ได้”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเสียงก็หันหลังจากไปอย่างสง่างาม ใบหน้าไม่แสดงถึงความเสียดายแม้แต่น้อย เหล่าผู้คนในหอวิญญาณยาต่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำปฏิเสธอันเฉียบขาดเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นชายชราถอนหายใจ พวกเขาก็รู้ว่าเป็นความจริงแล้ว มีคนปฏิเสธการเป็นศิษย์ของหัวหน้าหอวิญญาณยาอย่างแท้จริง

ทุกคนต่างพากันคิดว่าเสิ่นเสียงคงบ้าไปแล้ว ที่ยอมสละโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้เพียงเพราะความบาดหมางส่วนตัวของปู่ของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพโอสถผงาดโลกา