เทพโอสถผงาดโลกา นิยาย บท 8

สรุปบท ตอนที่ 8 ถ่ายทอดวิชาเทพ: เทพโอสถผงาดโลกา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 8 ถ่ายทอดวิชาเทพ – เทพโอสถผงาดโลกา โดย สุวรรณภูมิ พันธุ์สุวรรณ

บท ตอนที่ 8 ถ่ายทอดวิชาเทพ ของ เทพโอสถผงาดโลกา ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สุวรรณภูมิ พันธุ์สุวรรณ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

"พลังวิญญาณของที่นี่เบาบางนัก หากไม่อาศัยโอสถคงยากที่จะบรรลุแดนสัจจะยุทธได้" ซูเม่ยเหยาเงยหน้ามองแสงอาทิตย์อันแรงกล้าพลางกล่าวพึมพำ

เสิ่นเสียงรู้สึกปวดกระบาลเล็กน้อย สตรีทั้งสองสามารถเข้าออกแหวนได้ตามใจ แถมพวกนางยังได้ยินเสียงภายนอกอีกด้วย

เสิ่นเสียงตามพวกนางเข้าไปในเรือนหลังเล็ก ภายในไม่กว้างมาก มีเพียงห้องโถงและห้องอีกสี่ห้อง ซึ่งมันเล็กมากสำหรับจวนตระกูลเสิ่นที่กว้างใหญ่

ในห้องโถงเล็ก ๆ ซูเม่ยเหยากับไป๋โยวโยวนั่งดื่มชาทิพย์ที่เสิ่นเสียงเตรียมให้ มันเป็นถึงของสะสมของเสิ่นเสียง ตัวเขาเองยังทำใจดื่มไม่ได้เลย

"ในสถานที่ที่มีพลังวิญญาณเบาบางเช่นนี้ หากเจ้าต้องการยกระดับความแข็งแกร่งโดยเร็วจักต้องอาศัยโอสถเท่านั้น แต่ก่อนนั้น เจ้าต้องฝึกฝนเพลิงแห่งปราณแท้ออกมาให้ได้ก่อน เจ้ามีชีพจรเทพหยินหยาง มันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจ้า" ซูเม่ยเหยากล่าว

เสิ่นเสียงพยักหน้าพลางเอ่ย "พี่เม่ยเหยาโปรดชี้แนะ"

"มานี่ ข้าจะถ่ายทอดวิชาไทเก็กกับวิชาเทพจตุรทิศให้เจ้าก่อน" ซูเม่ยเหยากล่าวด้วยเสียงยั่วเย้า นางลูบผมด้วยท่าทางน่าเสน่หา เนื่องจากเสิ่นเสียงมีศักยภาพไร้จำกัด ซูเม่ยเหยาจึงคิดปลูกฝังเขา เช่นนี้ยังจะทำให้นางมีผู้ช่วยที่ร้ายกาจในอนาคต

ซูเม่ยเหยาวางมือเรียวงามลงบนหน้าผากเสิ่นเสียง จากนั้นก็หลับตาลง ตัวอักษรมากมายปรากฏขึ้นในสมองของเสิ่นเสียง แต่ละประโยคล้วนคลุมเครือเข้าใจยาก แต่ต่อมาเขาก็เข้าใจมันโดยไม่รู้ตัว

ซูเม่ยเหยากล่าว "ข้าได้ถ่ายทอดมันให้เจ้าผ่านตัวหยั่งรู้ ไม่เพียงแค่ถ่ายทอดวิชาเทพเท่านั้น ข้ายังได้ถ่ายทอดความเข้าใจต่อวิชาเทพให้เจ้าด้วย ดังนั้นสิ่งที่เจ้าต้องทำคือฝึกฝนตาม"

เสิ่นเสียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าซูเม่ยเหยาจะใช้การ "หยั่งรู้" ได้ด้วย หยั่งรู้เป็นสิ่งที่มีเพียงนักสู้ระดับหกถึงจะฝึกฝนออกมาได้ ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมของพลังจิตกับพลังแท้ เป็นพลังจิตที่ไร้รูปลักษณ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งลึกลับมหัศจรรย์มาก

"เจ้าต้องเก็บเรื่องของพวกเราไว้เป็นความลับ ห้ามบอกผู้ใดเด็ดขาด รวมทั้งภรรยาตัวน้อยของเจ้าด้วย" ไป๋โยวโยวกล่าวอย่างเคร่งขรึมด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ซูเม่ยเหยาเอ่ย "ข้าขอบอกเจ้าไว้ ข้ากับศิษย์พี่มีศัตรูอยู่มากมาย คนพวกนั้นสามารถขยี้เจ้าได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเจ้าจึงต้องเก็บเป็นความลับ และพวกเราก็จะไม่ปรากฏตัวออกมาบ่อย ๆโดยไม่จำเป็น"

เสิ่นเสียงมายังสวนด้านหลังซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ขณะที่สูดอากาศบริสุทธิ์ เขาสัมผัสพลังวิญญาณธาตุทั้งห้าได้อย่างชัดเจน

เส้นชีพจรวิญญาณธรรมดาเบ่งออกเป็นธาตุต่าง ๆ ส่วนเส้นชีพจรเทพหยินหยางของเสิ่นเสียงกลับเป็นตัวแทนปัญจธาตุ ดังนั้นเขาจึงฝึกฝนปราณแท้ปัญจธาตุได้

ถึงวิชาไทเก็กจะเป็นเคล็ดวรยุทธ์ที่ลึกลับมหัศจรรย์ แต่หลังจากได้รับการถ่ายทอดจากตัวหยั่งรู้ของซูเม่ยเหยา เสิ่นเสียงก็เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง เขาขับเคลื่อนวิชาไทเก็ก สัญลักษณ์ไทเก็กหยินหยางที่จุดตันเถียนของเขาหมุนวนทันที พลังวิญญาณฟ้าดินโหมทะลักเข้าสู่ร่างกายของเขา

เส้นชีพจรวิญญาณชั้นสูงก็สามารถดูดซับพลังวิญญาณได้เร็วมากอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เส้นชีพจรเทพ ยามนี้เสิ่นเสียงกำลังนั่งขับเคลื่อนวิชาไทเก็กอยู่ปากถ้ำ เมื่อพลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายของเขา ก็จะถูกกลั่นให้กลายเป็นกระแสพลังอบอุ่นสีขาวบริสุทธิ์ทันที ไหลเข้าสู่กระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นชีพจร หล่อเลี้ยงปรับปรุงร่างกายของเขา

หากต้องการกลายเป็นนักยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ก็จะต้องฝึกฝนทั้งภายในและภายนอก ยามนี้เสิ่นเสียงกำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายในของตนเองอยู่ ทำให้มีกระแสพลังอันแข็งแกร่งเกิดขึ้นในร่างของเขา ซึ่งนั่นก็คือปราณแท้นั่นเอง

เสิ่นเสียงเข้าสู่สภาวะการฝึกตนโดยไม่รู้ตัว พลังวิญญาณหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา หากมีคนพบเขา จะต้องตกตะลึงมากอย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพโอสถผงาดโลกา