สรุปตอน บทที่ 193 อิ่นซิน มีบางอย่างผิดปกติ – จากเรื่อง เทพศึกมังกรหวนคืน โดย โซ่วปี่หนานซาน
ตอน บทที่ 193 อิ่นซิน มีบางอย่างผิดปกติ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เทพศึกมังกรหวนคืน โดยนักเขียน โซ่วปี่หนานซาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"งั้น……ก็ได้"
สุดท้ายเมื่อได้ยินคำพูดของโหวเมิ่งหยาว อิ่นซินก็จนปัญญา ใช้คำว่าโบนัสมาปิดปากเธอ ถ้าเธอไม่รับไว้ ก็จะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อลูกน้อง และหักหน้าMR.Xด้วย
ไม่เหมาะสม
แต่อิ่นซินไม่พร้อมที่จะขับรถยนต์คันนี้ เธอคิดดีแล้ว จะเก็บรถยนต์ไว้ในโรงจอดรถ ในอนาคตก็ให้เป็นรางวัลกับคนอื่นๆ หรือไม่ก็ใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ
ต้องทำให้ความโปรดปรานที่เขามีต่อเธอต้องพังทลายไป
มันอธิบายไม่ถูก
ตอนนี้ฉินเฟิงเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเองก็รักผู้ชายคนนี้มากๆ เมื่อเธอคิดถึงฉินเฟิง เธอก็ขมวดคิ้วและรู้สึกเศร้าทันที
ทำไมเขายังไม่ยอมกลับมา
คิดถึงเขามากๆ
เธอหวังว่าฉินเฟิงจะประสบความสำเร็จโดยไม่พึ่งเธอ ไม่ทำเรื่องผิดกฎหมาย และหาเงินสองล้านได้ภายในครึ่งปี ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอก็ไม่ต้องเป็นเหมือนตอนนี้ ต้องแกล้งทำตัวเย็นชาตลอด
มันเหนื่อยมากจริงๆ
เธอทำได้แค่เพียงเชียร์ให้ฉินเฟิงอย่างเงียบๆในจิตใจ
หลายครั้งที่เธอต้องทำตัวเย็นชาในเวลางาน แต่เธออยากกลับบ้านและเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของฉินเฟิง และรับความโปรดปรานจากฉินเฟิง
แต่เธอก็เกิดความสงสัยเหมือนกัน ทำไมMR.Xถึงรู้ว่าเธอชอบรถยนต์Porsche
มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้
"เห้อ"
อิ่นซินถอนหายใจยาวๆ จากนั้นก็มองพนักงานทุกคน ในชั่วขณะ เธอก็เปลี่ยนเป็นคนเย็นชาทันที:"กลับไปทำงานได้แล้ว"
"รับทราบ ท่านประธาน"
พนักงานเหล่านั้นรีบแยกย้ายทันที
และโหวเมิ่งหยาวก็จากไปเหมือนกัน แต่เธอไม่ได้ออกจากบริษัทกึ่งซานหยวนกรุ๊ป แต่เธอเดินไปที่รถยนต์Hummerที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากขึ้นรถยนต์ คนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับก็คือฉินเฟิง
เขาได้ถอดหน้ากากออก และมองวิวผ่านกระจก สายตาของเขาอบอุ่นมากๆ
น่าอิจฉาจริงๆ
อืม
คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มาก
มีเพียงโหวเมิ่งหยาวคนเดียว ที่รู้สึกอิจฉามากๆ เธอเป็นเด็กสาวแรกรุ่น เรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะในนิยาย ทำไมถึงมาปรากฏต่อหน้าเธอด้วย
โปรดปรานมาก
เธอก็อยากได้ความโปรดปรานแบบนี้เช่นกัน
"อย่างไรก็ตาม ฉันคือมืออาชีพ ใช่ ฉันคือมืออาชีพจริงๆ"
โหวเมิ่งหยาวให้กำลังใจตัวเอง เธอทำตัวเหมือนมืออาชีพ พูดอย่างจริงจัง:"บอส รถยนต์ได้มอบให้คุณอิ่นแล้ว แต่ฉันเห็นท่าทางของคุณอิ่น เธอไม่ได้รู้สึกดีใจเลย"
"นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ภรรยาของฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงิน เธอยอมรับไว้ก็ดีแล้ว รอผ่านไปสักสองสามวัน ผ่านไปสักสองสามวันก็ดีแล้ว ผ่านไปสักสองสามวันฉันจะพาภรรยาไปเที่ยวด้วยรถยนต์คันนั้น"
ฉินเฟิงไม่ได้พูดโกหก
รอแค่อีกไม่กี่วันก็ได้แล้ว
เมื่อถึงเวลานั้น อิ่นซินก็จะรู้ว่ารถยนต์คันนี้คือของขวัญที่เขามอบให้ ถ้างั้นเธอก็คงไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะฉินเฟิงรู้ว่าภรรยาของเขาเป็นคนที่ชอบPorscheรุ่นนี้มากๆ
รออีกสักสองสามวัน
ฉินเฟิงมองวิวผ่านกระจกรถยนต์ตลอด จนถึงอิ่นซินเดินเข้าบริษัทซานหยวนกรุ๊ปแล้ว เขาถึงยอมหันหน้ากลับมา
หลังจากผ่านไปหลายนาที
ฉินเฟิงกำลังจะจากไป แต่ก็มีสายโทรศัพท์หนึ่งโทรเข้ามา หลังจากรับสาย สายตาของฉินเฟิงก็เย็นชาทันที จากนั้นก็ออกคำสั่ง:"ไปบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป"
อ้ายเสี่ยวซีหั่นหลังจากไปทันที
ผ่านไปสักพัก ก็มีคำสั่งเร่งด่วนเรียกผู้ถือหุ้น ผู้บริหารระดับสูงทุกคนเข้าประชุม มีเพียงMR.Xที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดไม่ได้มาประชุม อิ่นซินนั่งอยู่บนหัวโต๊ะ และมองทุกคน:"ทุกท่าน ตอนนี้พวกเราเจอวิกฤตแล้ว"
ใช่แล้ว
ครั้งที่แล้วมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ บริษัทโจวซื่อกรุ๊ปไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
"ตอนนี้บริษัทของเรามีเงินทั้งหมดสองพันสามร้อยล้านหยวน พวกเราสามารถยื้อเวลาได้สักพัก แต่ตอนนี้ปัญหาสำคัญที่สุดคือ คู่ค้าของบริษัท บริษัทกึ่งซานหยวนกรุ๊ปของพวกเรามีคู่ค้าอยู่สามสิบกว่าบริษัท แต่ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่บริษัท บริษัทเหล่านั้นถูกผูกมัดด้วยสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ อันที่จริงพวกเขาก็คงไม่ให้ร่วมมือกับพวกเราอย่างแน่นอน"
"สถานการณ์ในตอนนี้เลวร้ายสำหรับพวกเรามากๆ เมื่อไม่มีบริษัทที่ร่วมทำธุรกิจด้วย อสังหาริมทรัพย์ที่พวกเราสร้างขึ้น ก็จะขายไม่ออก ถ้าพวกเรามีอสังหริมทรัพย์มากจนเกินไป บริษัทของพวกเราอาจจะขาดสภาพคล่องทางการเงินแน่นอน"
อิ่นซินนั่งอยู่บนเก้าอี้ และมองไปที่ทุกคน และเคาะโต๊ะไปด้วย
"หยุดสร้างเถอะ"
มีผู้บริหารหนุ่มคนหนึ่งยืนขึ้น เขาจบการศึกษาปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ เขามองก็รู้ว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ตรงไหน เขาพูด:"ตอนนี้พวกเราต้องหยุดสร้าง มิฉะนั้น เงินทุนของพวกเราไม่เพียงพออยู่แล้ว เพราะโปรเจกต์ของพวกเราใหญ่เกินไป"
"หยุดสร้างไม่ได้ ถ้าหยุดสร้าง บริษัทต้องเกิดความวุ่นวายแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้พวกเราหยุดสร้างก็แค่รอเวลาที่เงินทุนหมดเฉยๆ บริษัทยื้อเวลาได้ไม่นานหรอก"
อิ่นซินให้คำตอบ และพูดเสริมอีกว่า:"คุณเรียนจบมาสูง แต่ประสบการณ์ยังน้อย ต้องคิดหลายๆมุมด้วย"
คนด้านนอก รู้ว่าบริษัทหยุดสร้าง แต่ยังจ่ายเงินเดือนอยู่ ถ้างั้นบริษัทคงไม่เกิดปัญหาอะไรแน่นอน แต่วิธีแบบนี้ใช้ได้แค่บริษัทขนาดเล็กเท่านั้น
สำหรับบริษัทใหญ่ๆอย่างบริษัทกึ่งซานหยวนกรุ๊ป ที่มีมูลค่าพันกว่าล้านนั้น มันไม่เหมือนกัน
ผู้บริหารระดับกลางของบริษัท ส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยกลางคนที่มีความสามารถที่จะขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูง ถ้าพูดดูดีหน่อยก็คือพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ถ้าพูดไม่ดีก็คือทะเยอทะยานมากจนเกินไป เพราะพวกเขาอยากขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูง
เมื่อพวกเขามองไม่เห็นความหวังในบริษัท พวกเขาก็จะย้ายบริษัททันที เพราะพวกเขาเป็นผู้บริหาร เมื่อย้ายบริษัทเยอะๆ ก็จะกระทบภาพลักษณ์ของบริษัทมากๆ
ทำให้คนอื่นๆในบริษัทเกิดความกังวลและกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ต้องแข่งขันกับเวลา เมื่อตามหลังคนอื่น ก็จะไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นๆได้ ดังนั้นต้องแข่งขันกับเวลาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน