“จริงสิครับ คุณยาย ตอนนั้นซูยุ่นให้คนกลับมาซื้อบ้านให้คุณยายหลังหนึ่งไม่ใช่หรอครับ?แต่ว่า ตอนนี้……”ฉินเฟิงถาม
เขาให้คนไอจัดการโดยเฉพาะ
แต่ว่าตอนนี้คุณยายเสื้อผ้าเต็มไปด้วยรอยเย็บ ท่าทางไม่เหมือนคนมีเงินทองเลย
“บ้านหลังนั้นน่ะหรอ โดนรื้อไปแล้วล่ะ บอกว่าจะเอาไปทำสถานบันเทิง หลังจากนั้นฉันก็ออกมาเลย”คุณยายค่อยๆเล่า
“โดนรื้อไปแล้ว?มีเงินค่าชดเชยไหมครับ?”
“มีสิ แต่ไม่ได้ให้ คนพวกนั้นบอกว่าเงินกำลังจัดสรรอยู่ รอผ่านไปช่วงหนึ่งถึงจะส่งมาให้ ช่วงหนึ่งของพวกเขา นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้วล่ะ ทุกครั้งที่ฉันไปขอ พวกเขาจะหาคำแก้ตัวเสมอ”
คุณยายพูดอย่างมีน้ำโห แต่ถึงจะโกรธไปยังไงก็ไม่มีประโยชน์
เนื่องจากอายุมากแล้ว
จะพูดยังไงก็พูดไม่ได้ แย่งก็แย่งไม่ได้
“สองปี!”
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว เงินชดเชยค่ารื้อถอนอะไร จะใช้เวลาถึงสองปีกัน นี่มันรังแกคุณยายที่มีอายุมากแล้วชัดๆ จงใจไม่ให้
“คุณยายครับ บัตรเงินเดือนของซูยุ่นละครับ?”ฉินเฟิงกล่าวอีกครั้ง
นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด บัตรเงินเดือนใบนั้น มีเงินบำนาญของไอ้โจว หลายแสนเลย
“บัตรใบนั้นน่ะหรอ ฉันไม่รู้ว่าจะถอนยังไง เอ้อโก่วคนข้างบ้าน ไปช่วยฉันถอนน่ะ แต่เขาบอกว่า มีแค่สองพันหยวน เขาถอนมาให้ฉันหมดแล้วล่ะ”คุณยายจำได้ดี
“สองพันหยวน”
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว
ในบัตรเงินเดือนของไอ้โจว มีเงินอย่างน้อยสองแสน ทำไมจู่ๆถึงกลายเป็นสองพันไปได้ล่ะ
ฉินเฟิงเหลือบมอง ฉีหยุนแวบหนึ่ง แล้วออกคำสั่งว่า“สืบมาว่าเอ้อโก่วเป็นใคร เกิดอะไรขึ้น?”
“ครับ”
ฉีหยุนรีบไปหาเหลียงชิวโม่ทันที
ในพื้นที่ อิทธิพลของเหลียงชิวโม่ใช้ได้ผลมากที่สุด
“คุณยายครับ ตอนนี้ก็เย็นมาแล้ว ผมช่วยคุณยายเข็นกลับไปนะครับ”ฉินเฟิงมือวางไว้บนรถเข็น
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะๆ”
คุณยายรีบกล่าวปฏิเสธ
แต่ว่า สุดท้ายก็ทัดทานฉินเฟิงไม่ได้ จึงปล่อยให้ฉินเฟิงเข็นรถกลับไป หลังจากเข็นกลับไปแล้ว ถึงพบว่าเป็นชุมชนเก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง บริเวณโดยรอบทรุดโทรมเก่าผุพัง
กระทั่งกำแพงยังมีรอยร้าว
ยังมีรอยขูดขีดเขียน ดูรกร้างอยู่บ้าง
“ท่านนายพลครับ ที่นี่เป็นเขตนอกเมืองของเมืองเทียนหลิงครับ สถานที่ตรงจุดนี้รกร้างไปแล้วครับ”หวางเถ่รายงานอยู่ข้างๆ เมื่อก่อนเขาเคยพักสถานที่แบบนี้ มีความเข้าใจอยู่บ้าง
ที่นี่ถึงแม้จะสภาพแวดล้อมไม่ดี แต่บ้านเช่าถูกมาก
กระทั่ง มีบ้านที่ปล่อยรกร้าง ไม่ต้องเช่า
“เสี่ยวเมิ่ง รีบออกมาเร็วเข้า บ้านเรามีแขกแล้วนะ”
คุณยายตะโกนเรียกหนึ่งครั้ง จากนั้นด้านในก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ใบหน้าสดใส แต่กลับแต่งตัวค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่
“พวกคุณคือ?”
โจวเสี่ยวเมิ่งเดินออกมา กวาดตามองดูฉินเฟิงแวบหนึ่ง แล้วถามอย่างอดไม่ได้
“พวกเขาเป็นสหายของพ่อแกไง ครั้งนี้พ่อของแกส่งพวกเขามากลับมาเยี่ยมเรา ทุกท่าน นี่คือหลานสาวฉันเองค่ะ ลูกสาวของเสี่ยวซู โจวเสี่ยวเมิ่ง”
คุณยายรีบกล่าวแนะนำ
แต่ทว่า เมื่อโจวเสี่ยวเมิ่งได้ยินคำพูดนี้ จึงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“ไอ้หมอนั่น จากบ้านไปตั้งหลายปี ยังรู้ว่ามีเราอยู่หรอ ยังเรียกคนกลับมาเยี่ยมอีก ทำไมเขาไม่กลับมาล่ะ”
น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และเสียใจ
“คุณว่า ไอ้หมอนั่นจะกลับมาเมื่อไรหรอ?”
โจวเสี่ยวเมิ่งมองไปที่ฉินเฟิง ดวงตาคู่กลมโต เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“เขายุ่งน่ะ”
ฉินเฟิงไม่รู้จะตอบอย่างไร จะพ่นคำนี้ออกไป
“ยุ่ง?ยุ่งเลยต้องทิ้งครอบครัวไป ไม่กลับมาหลายปีแบบนี้น่ะหรอ?แม้แต่งานศพแม่ของฉัน เขาก็ยังไม่กลับมา เป็นพ่อประสาอะไรกัน ฉันไม่นับเขาเป็นพ่อหรอกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน