เทพศึกมังกรหวนคืน นิยาย บท 260

สรุปบท บทที่ 260 ลองหยั่งเชิง: เทพศึกมังกรหวนคืน

บทที่ 260 ลองหยั่งเชิง – ตอนที่ต้องอ่านของ เทพศึกมังกรหวนคืน

ตอนนี้ของ เทพศึกมังกรหวนคืน โดย โซ่วปี่หนานซาน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 260 ลองหยั่งเชิง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ฉันคิดยังไง?”

หลังจากอิ่นซินเลิกงานกลับบ้านแล้ว เธอก็ลูบหน้าผากเบาๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่า ทำไมเธอถึงเกิดความคิดสองประการนี้ขึ้นมา หนึ่งคือเธอมักจะรู้สึกว่า Mr.X สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง มีความมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก

สองคือ เธอมักจะคิดอยู่เสมอว่า Mr.X คือฉินเฟิง

ประการแรกยังมีความเป็นไปได้ แต่ประการที่สองนั้นดูเพ้อฝันมากเกินไป

มีความเป็นไปได้น้อยเกินไป

“ไม่สนแล้ว ถึงอย่างไรคืนนี้ก็ลองทดสอบดูหน่อยแล้วกัน”

อิ่นซินส่ายหน้า เธอทำงานมาทั้งวัน คิดไม่ออกก็ไม่อยากคิดแล้ว เธอเดินตรงขึ้นไปหาลูกสาวของตนเอง เตรียมตัวอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เวลาไปงานเลี้ยงเต้นรำแล้ว

ในเวลานี้ จางลี่ได้ขึ้นมาที่ชั้นบนและเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลูกจ๋า”

ตั้งแต่จางลี่ทรยศอิ่นซินคราวก่อน ก็ถูก Mr.X ทำให้หวาดกลัว ทุกครั้งที่เธอเผชิญหน้ากับอิ่นซิน ก็มีท่าทีระมัดระวังมาก กลัวว่า Mr.X จะมาหาถึงที่อีก

“แม่ เกิดอะไรขึ้น?”

แม้ว่าคราวก่อนจะหักหลังอิ่นซิน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแม่ของตัวเอง อิ่นซินก็จำเรื่องนั้นไม่ค่อยได้ ยังคงเรียก ‘แม่’ ได้อย่างสนิทสนม

“ลูกจ๋า คืนวันนี้อยากจะงานเลี้ยงเต้นรำหรือเปล่า แม่ได้ยินมาว่า Mr.X ก็จะมาร่วมด้วย แม่จะบอกเธอให้ คราวก่อน Mr.X เป็นช่วยเธอกลับมา ส่วนฉินเฟิงนั่นได้แต่เอาเปรียบเธอ ตั้งแต่เรื่องนั้นเกิดขึ้นก็มองออกได้ถึงความสามารถของทั้งสอง และหัวใจของสองคนที่รักเธอ”

“Mr.X น่ะ รักเธอจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ไปล่วงเกินผู้คนจำนวนมากเพราะเธอ ปกป้องเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แถมยังมอบรถหรูรุ่นลิมิเต็ดให้เธออีก จริงไหม”

“ส่วนฉินเฟิง ตอนนี้เขาก็หายตัวไปแล้ว คาดว่าคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว สามีแบบนี้จะเอามาทำไม งานเลี้ยงเต้นรำในค่ำคืนวันนี้ เธอต้องหาโอกาสให้ได้ ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการเรื่องฉินเฟิงเอง ฉันจะพูดกับเขาให้ได้ ให้เขาไม่กล้าเข้ามาในบ้านนี้”

จางลี่กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น

แม้ว่าคราวก่อนเธอจะตกใจกลัว Mr.X แต่พอย้อนกลับไปคิดดูอีกที มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?

Mr.X ถูกใจลูกสาวของเธอจริงๆ Mr.X เป็นใคร เขากุมอำนาจในเมืองเจียงเฉิง ดีกว่าหลินจิ่งเหวินเป็นไหนๆ

สามารถซื้ออะไรให้เธอได้มากมาย ของแบรนด์เนมเป็นถุงๆ!

ลูกเขยแบบนี้ต่างหากที่เป็นเขยเต่าทองคำในความคิดของเธอ

แม้ว่าเธอจะพูดไปมากมาย แต่อิ่นซินก็ยังคงมองเธออย่างสงบนิ่ง เห็นเธอขนลุกเล็กน้อย จึงรีบพูดว่า “ลูกจ๋า เธอ…”

“แม่คะ เรื่องคราวก่อนฉันยังไม่ลืม”

อิ่นซินค่อยๆ พูดออกมา

พอพูดออกไปเช่นนี้ ระหว่างทั้งสองก็เงียบสงัดลงทันที

ถึงอย่างไรเรื่องคราวก่อนก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่อิ่นซินก็ไม่ได้พูดถึงมัน เพราะทั้งสองก็ยังเป็นแม่ลูกกัน แต่ครั้งนี้อิ่นซินจำเป็นต้องพูด เพราะยังคิดโลภจะเอาแต่เงินทอง

พอพูดออกไปเช่นนี้ จางลี่ก็รู้สึกเก้อเขินขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะมาใหม่วันหลัง”

จางลี่ได้ยินอย่างนี้ ในใจก็รู้สึกกลัว กลัวว่า Mr.X จะมาคิดบัญชีกับเธออีก จึงรีบถอยออกไป

ไม่กล้าล่วงเกินอิ่นซินอีก

“เฮ้อ”

อิ่นซินส่ายหน้า และไม่สนใจแม่ของตัวเองอีก

“มานี่สิ ลูกสาวสุดที่รัก ฉันจะซื้อกระโปรงให้เธอ เรามาใส่ไปร่วมงานเลี้ยงเต้นรำคืนนี้กัน ดีไหม?”

อิ่นซินหยิบกระโปรงเล็กๆ ออกมา

“ตกลง”

กั่วกั่วที่ดูเหมือนตุ๊กตาไม่รู้ว่างานเลี้ยงเต้นรำคืออะไร แต่แม่ของเธอบอกว่าไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็จะไป เธอชูมือทั้งสองขึ้นตอบตกลง แต่ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถามขึ้นอีกว่า “คราวนี้คุณพ่อไปด้วยไหม? กั่วกั่วคิดถึงคุณพ่อแล้ว”

“ก็น่าจะมา”

“ดีจัง คราวนี้จะได้เจอคุณพ่ออีกแล้ว”

กั่วกั่วไม่เข้าใจคำพูดของผู้ใหญ่ น่าจะมาหมายถึงไม่น่าจะมา แต่เมื่อเธอได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าจะมา มาแน่นอน เธอโบกไม้โบกมือทันทีด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เอ่อ เหมือนหลบหน้าอิ่นซินจริงๆ

แปลกจัง

และในเวลานี้ก็จอดลงอีกที่หนึ่ง รถจี๊ปจอดลงฝั่งตรงข้ามกับอิ่นซิน ฉินเฟิงกำลังสูบบุหรี่ ความซับซ้อนปรากฏขึ้นในสายตา เมื่อครู่ได้เห็นภรรยาของตัวเอง แต่ก็น่าเสียดายที่เข้าไปหาไม่ได้

ถ้าไม่อย่างนั้น ตนเองจะต้องจูบภรรยาอย่างดูดดื่มแน่นอน

คิดถึงเธอแล้ว

คิดถึงมากๆ

“ท่านนายพล ความจริง” ฉีหยุนต้องการพูดอะไรบางอย่าง

“ไม่ต้องความจริง มีแค่วันนี้แล้ว หลังจากวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างควรจะถูกเปิดเผย”

พรุ่งนี้

มันเป็นวันที่ Mr.X กวาดล้างสามตระกูลใหญ่ในเมืองเจียงเฉิง พวกเสือสิงห์กระทิงแรดที่อยู่เบื้องหลังก็ควรจะเปิดเผยโฉมหน้าได้แล้ว หลังจากกวาดล้างคนเหล่านั้น ตนเองก็ควรจะกลับบ้านได้แล้ว

ออกจากบ้านมาเกือบเจ็ดวันแล้ว

“เออใช่ หลินเย่าตุงมีการเคลื่อนไหวยังไงบ้าง?” ฉินเฟิงถามอีกครั้ง

“มี แถมยังเป็นการเคลื่อนไหวอย่างใหญ่โตอีกด้วย เขาส่งลูกชายของตัวเองไปต่างแดนแล้ว โดยใช้ช่องทางทั้งหมดของตัวเอง เมื่อกองกำลังต่างประเทศเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย พวกเราจึงไม่สามารถขัดขวางเขาได้” ฉีหยุนกล่าวอย่างไม่พอใจ

นี่ถือเป็นภารกิจที่ล้มเหลว

ขัดขวางอะไรไม่ได้เลย

แต่ฉินเฟิงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ หลินเย่าตุงดำเนินกิจการในเมืองเจียงเฉิงมาเป็นเวลาหลายปี เป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลอัจฉริยะที่สวรรค์ประทาน เขาต้องมีวิธีการของตัวเองอยู่แล้ว มันไม่ยากที่จะส่งใครบางคนออกไป

ขอเพียงหลินเย่าตุงยังไม่ไปไหน

“ส่งลูกชายของตัวเองออกไป ลูกชายเพียงคนเดียว หลินเย่าตุงนะหลินเย่าตุง คุณเตรียมตัวที่จะสู้อย่างหมาจนตรอกแล้วเหรอ? หรือจะบอกว่า เลิกคิดต่อต้านแล้ว แต่ว่า ฉันก็ยังคงคิดว่าคุณมีแนวโน้มจะสู้อย่างหมาจนตรอกมากกว่า ถึงอย่างไรคุณก็เป็นบุคคลอัจฉริยะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน