“ครับ!”
ทหารม้าหมาป่านับแสนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ฮึกเหิมมาก
“เทพสงคราม ผู้ยิ่งใหญ่”
ซูหยางมีใบหน้าที่เคารพ
แต่ว่า จากนั้นฉินเฟิงก็ออกคำสั่งไปอีกว่า “ซูหยาง ปล่อยข่าวออกไป ว่าเทพสงครามอันดับหนึ่งของต้าหัว ได้นำกองทัพในต้าหัวแสนนาย เคลื่อนพลลงใต้ด้วยตัวเอง”
ซูหยาง: “???”
“ปล่อยข่าวจริงผสมเท็จ เรื่องนี้ผมยังรู้ เจ้าหยางเรียนรู้ไว้หน่อย” ฉีหยุนพูดเสริมขึ้นมาข้างๆ
“ปล่อยข่าวจริงผสมเท็จ ทำให้ศัตรูมองสถานการณ์ของเราไม่ออก นี่เป็นกลยุทธ์ เถ่เกอ หมาป่าหางโต เสว่หู่ เหยียนหวาง กูหลาง”
จากนั้น ฉินเฟิงก็เรียกทหารอีกหลายคน
“ครับ”
ทหารพวกนั้นก็เข้ามาฟังคำสั่ง
“แผนปล่อยข่าวจริงผสมเท็จนี้ จะต้องเป็นข่าวจริงครึ่งหนึ่ง ปลอมครึ่งหนึ่ง พวกนายแต่ละคน นำทหารม้าไปคนละสามพัน แยกกันไปโจมตีเซาเทิร์นแลนด์ ยกธงกองทัพขึ้นมา ต้องให้ได้รู้ว่า กองทัพจำนวนมากได้เข้ามาในเซาเทิร์นแลนด์แล้ว”
“ครับ”
ทหารเหล่านั้นก็รับคำสั่ง
ฉินเฟิงมองไปยังทิศใต้ เป็นทิศทางของประเทศหนานเยว่ ที่แห่งนั่นวุ่นวายมาหลายปี อย่างน้อยก็แบ่งกันเป็น10ประเทศ อย่างมากก็แยกกันเป็น100ประเทศ หลายร้อยปีแล้วยังไม่ได้รวมเป็นหนึ่ง
แต่ตอนนี้ กลับได้รวมเป็นหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่า ดินแดนในแถบประเทศหนานเยว่จะมีคนเก่งเกิดมาแล้ว
ณ จิงตู
ที่ศูนย์บริหาร
“ผมรู้สึกว่า นายพลฉินจะทำผิดกฎเกินไปแล้ว ช่วงเวลาคับขันแบบนี้ ยังกล้าควบคุมอำนาจทหารในต้าหัวทั้งหมดไว้อีก หรือว่า อยากจะนั่งตำแหน่งสูงสุดอย่างนั้นหรือ?”
ชายแก่ตาเป็นต้อสีขาวด้วยความชรา นั่งอยู่ที่โต๊ะกลม
“ใช่ เวลาแบบนี้ ทำไมเขาถึงได้อยู่ที่เซาเทิร์นแลนด์พอดี หรือว่าวางแผนทั้งหมดไว้แล้ว?”
“ผมว่า ที่เซาเทิร์นแลนด์แตก จะต้องเกี่ยวข้องกับนายพลฉินแน่ๆ”
หนึ่งในนั้น ก็มีคนเห็นด้วยขึ้นมา
“เหลวไหล!ถ้าเขาอยากจะนั่งตำแหน่งนั้นจริงๆ คงไม่รอจนถึงทุกวันนี้หรอก การประชุมของต้าหัวอนุญาตให้คนพวกนี้มาเข้าร่วมได้ตอนไหนกัน ไม่กลัวผมฆ่าทิ้งที่นี่หรือไง”
เสียงดังตุบ
ฝั่งตรงข้าม มีชายแก่หนวดเคราสีขาว สีหน้าโกรธๆ เอามือตบโต๊ะพูดขึ้นมา
“ท่านหลี่ อย่าโมโหไป ที่ครั้งนี้ให้ตัวแทนของตระกูลเก่าแก่เข้าร่วมด้วย ก็เพื่อที่จะให้พวกเขาเข้ามาอธิบายเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเก่าแก่ซือหม่า ตระกูลเก่าแก่ก่อกบฏ มันเป็นเรื่องใหญ่”
เฉียวหนงในฐานะที่เป็นท่านอาวุโสก็เลยพูดโน้มน้าว
ท่านหลี่ เป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดของกองทัพต้าหัว แต่เนื่องจากอายุมาก ก็เลยอยู่ในช่วงที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว ครั้งก่อนก็เตรียมจะสละตำแหน่งให้ฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงหนีไปเสียก่อน
หนีกลับบ้านไปก่อน
กลับบ้านไปใช้ชีวิตกลับลูกเมียที่บ้าน
“ทำไม พวกคุณคิดว่าฉินเฟิงคิดอยากจะนั่งตำแหน่งนั้นจริงๆ หรือไง ผมเห็นหมอนั่นมาตั้งแต่เข้ากองทัพใหม่ๆ เวลาว่างๆ ก็จะมานั่งดูรูปถ่าย เป็นรูปถ่ายภรรยาของเขา สำหรับเขาแล้ว ภรรยาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ครั้งก่อนก็หนีกลับบ้านไป ได้ยินว่าไปเป็นลูกเขยบ้านนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้เซาเทิร์นแลนด์แตก เขาก็คงไม่ใช้ป้ายคำสั่งนั้น มาคุมอำนาจทหารทั้งต้าหัวหรอก”
ท่านหลี่เอามือตบโต๊ะ แล้วพูดอีกว่า “คนอารมณ์ร้อนอย่างผม ทำสงครามมาทั้งชีวิต วันนี้ผมขอบอกไว้เลยนะว่า ครั้งนี้ทหารทุกนาย จะต้องฟังคำสั่งของนายพลฉิน ใครกล้าขัดคำสั่ง ก็อย่าโทษว่าผมลงโทษด้วยกฏทหารก็แล้วกัน”
อารมณ์ร้อน ทำให้คนทั้งโต๊ะตกใจกันหมด
ถึงแม้ท่านหลี่จะแก่แล้ว แต่อายุมากก็ยิ่งแข็งแกร่ง อย่างน้อยอารมณ์ก็ยังร้อนได้เหมือนเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน