กว้างซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป เป็นเรื่องที่ฉินเฟิงสั่งให้ฉีหยุนไปจัดการก่อนหน้านี้
"กว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป ฮ่าๆๆ"
ฟางจือฮุยหัวเราะออกมาทันที:"คุณก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลผู้หญิง ยังบอกว่าต้องการกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปของฉัน คุณล้อเล่นใช่ไหม แม้แต่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปก็ไม่สามารถทำได้"
บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แต่เป็นบริษัทที่พึ่งมาตั้งที่เมืองเจียงเฉิง ไม่รู้จักใครและไม่คุ้นเคยกับที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฉัน
"บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปทำไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าฉันก็ทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ฉันขอใช้คำพูดที่คุณเคยพูดไว้ บนโลกใบนี้มีคนบางประเภท ที่คนอย่างคุณไม่ควรล่วงเกินผิดใจด้วย และพอดีฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น"
คำพูดของฉินเฟิง ทำให้ฟางจือฮุยรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังหัวเราะดูถูกและพูด:"คุณกล้าข่มขู่ฉันเหรอ กว้านซื้อหุ้นของบริษัทฉัน ดูให้ดีๆตอนนี้ฉันจะโทรศัพท์ออกไปและเปิดโปงคำโกหกของคุณ"
ฟางจือฮุยเหลือมือเพียงข้างเดียว ทำให้เขาเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า ใช้เวลาสักพักกว่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมาได้ หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง:"เฉินหยุนฮุย เมื่อสักครู่มีคนบอกกับฉัน เขากว้านซื้อหุ้นทั้งหมดของคุณแล้ว ฉันหัวเราะเยาะเขา คุณคิดดูสิ เรื่องนี้มันน่าสนใจมากๆ กล้าพูดว่ากว้านซื้อหุ้นของคุณ"
เฉินหยุนฮุยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับสองของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์
และคนที่อยู่ในสายโทรศัพท์ ไม่ยอมพูดอะไรเลยเป็นเวลานานมาก
"ฮัลโหล เฉินหยุนฮุย คุณพูดมาสิ"
ฟางจือฮุยรู้สึกกังวลใจจนบอกไม่ถูก
"วันนี้ของปีหน้าเป็นวันครบรอบวันตายของฉัน ฉันจะไปไหว้คุณเอง เพราะพวกเราเคยเป็นเพื่อนกัน"
เมื่อพูดคำเหล่านี้จบ ในโทรศัพท์ก็มีเสียงตุ๊ดๆๆดังขึ้น
เขาวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว
"ฮัลโหล เฉินหยุนฮุย เฉินหยุนฮุย!"
ฟางจือฮุยตะโกนชื่อของเขาผ่านทางโทรศัพท์ไปสองรอบ แต่โทรศัพท์ได้วางสายไปแล้ว จากนั้นเขาก็บ่นพึมพำ:"เป็นไปไม่ได้ คุณมันก็แค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินและเป็นไอ้เศษสวะเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะสามารถกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้!"
"ฉันจะโทรศัพท์หาเลขาส่วนตัวของฉัน"
ฟางจือฮุยกลืนน้ำลายตัวเอง และเขาก็เริ่มตื่นตระหนกตกใจ ใช้มือข้างที่เหลือกดเบอร์โทรศัพท์ของเลขาส่วนตัว จากนั้นก็โทรออกไปทันที
ผ่านไปหลายวินาที เลขาก็รับโทรศัพท์
"ฮัลโหล เลขา ก่อนหน้านี้มีการประชุมครั้งใหญ่ไหม?"
หลังจากรับสาย ฟางจือฮุยก็รีบถามทันที
คนๆนี้เป็นเลขาส่วนตัวของเขา เขาวางใจเลขาคนนี้มากๆ
"อืม มีการประชุมครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้คุณฟางไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์เปิดเผยความลับของบริษัทให้คุณทราบ"
"ไม่ใช่พนักงานของบริษัท?"
ฟางจือฮุยบีบโทรศัพท์ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อวานเขายังเป็นประธานบริษัทอยู่เลย แต่วันนี้เขากลับไม่ใช่พนักงานของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปแล้ว มันเป็นไปได้ยังไง
เกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ในเวลานี้ เสียงของเลขาคนนั้นก็ดังเข้ามาในสายสนทนา:"เห็นแก่ที่พวกเราทำงานด้วยกันมานาน ฉันจะบอกให้คุณทราบ คุณล่วงเกินผิดใจกับคนที่คุณไม่ควรยุ่งด้วย ในการประชุมครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ มีผู้ถือหุ้นร้อยละเจ็ดสิบแปดโหวตให้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปให้กับโครงการสงเคราะห์เด็ก มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดหนึ่งพันสองร้อยล้านหยวน"
"พูดตรงๆได้เลยว่า ตอนนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปล้มละลายแล้ว"
เมื่อพูดเสร็จ สายสนทนาก็โดนตัดไปทันที
"นอกจากฉัน ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเห็นด้วยกับเรื่องนี้เหรอ? เรื่องนี้เป็นไปได้ยังไง"
ฟางจือฮุยอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเห็นด้วยกับการบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทออกไป เป็นไปได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเวลานี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและมองฉินเฟิง:"มันเป็นเรื่องจริงเหรอ เรื่องนี้เป็นฝีมือของคุณใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว ฝีมือของฉันเอง"
ฉินเฟิงพยักหน้า
"มันเป็นไปได้ยังไง!"
ฟางจือฮุยจับศีรษะของตัวเอง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปยี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ และเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นที่เยอะที่สุดในบริษัทแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน