บทที่ 270 – ถ้าอยากจะติดตามฉันล่ะก็นะ (4)
การรวบรวมสมาชิกส่วนที่เหลือของกองกำลังปราบปรามก็เป็นไปอย่างราบรื่นเช่นกัน เนื่องจากว่ามหาภัยพิบัติตามปกติแล้วจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่่งในเวลาร้อยปีหรือกระทั่งพันปี ทำให้มีโลกไม่มากนักที่จะเจอกับการเปลื่ยนแปลงใหญ่ๆขึ้น
แล้วก็คนที่อยู่ในโลกเดิมทีก็มีพันธสัญญากับกองทัพสวรรค์อยู่ทำให้ไม่มีใครมาทำร้ายคนบนโลกของยูอิลฮานได้เลย เพราะแบบนี้ทำให้มีคนที่ตายไปในต่างโลกน้อยมา
“นี่มันน่าทึ่งมาก คุณยูอิลฮาน ดูเหมือนคุณจะ… ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้วสินะ”
หลังจากเห็นยูอิลฮานบัญชาการป้อมปราการผู้พิทักษ์ข้ามมิติไปโลกต่างๆและได้เห็นซัคคิวบัสที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ยุนแดฮานก็ได้แต่พูดออกมาอย่างไร้พลัง ยังไงก็ตามคำตอบของยูอิลฮานยิ่งทำให้เขาหมดแรงยิ่งกว่าเดิม
“ฉันก้าวข้ามขีดจำกัดมนุษย์มาตั้งแต่แรกแล้ว”หากมีคนอื่นมาได้ยิน พวกเขาก็คงจะคิดว่ายูอิลฮานกำลังโม้แน่ แต่ว่าเฮเรียน่าที่รู้ถึงความสามารถในการซ่อนตัวของเขาที่มีมาตั้งแต่แรก และนอกไปจากนี้ยังรู้ถึงสิ่งที่เขาอย่างจะบอกด้วยทำให้เธอได้แต่หัวเราะออกมา ยูอิลฮานได้ถามยุนแดฮานอีกครั้งหนึ่งโดยไม่สนใจเฮเรียน่าเลย
“เหลืออีกแค่ทีเดียวงั้นหรอ? ร้อยเอกฮานเยรังกับคนอื่นๆสินะ”ตราบใดที่ยูอิลฮานมีบันทึกเกี่ยวกับโลกนั้น เขาก็จะไม่มีปัญหาใดๆในการใช้สกิลข้ามมิติ สิ่งที่สำคัญทีสุดคือชักชวนคนกลับมาต่างหาก
ในแง่นี้กองกำลังปราบปรามเป็นองค์กรที่น่าทึ่ง สมาชิกทุกคนของกองกำลังปราบปรามทุกๆคนต่างมีสนใจที่จะมาเข้าร่วมกับยูอิลฮานในทันทีที่พวกเขาได้ฟังยูอิลฮานอธิบายถึงสถานการณ์บนโลกที่เหมือนนรก
เพราะแบบนี้ทำให้ยูอิลฮานคิดว่าเขาเลือกพันธมิตรได้ถูกมาก ถ้าหากทหารอีกสิบสองคนที่อยู่กับพันเอกฮานได้เข้าร่วมกับเข้าในโลกสุดท้ายนี้ด้วย พวกเขาก็จะได้คลาส 3 อย่างน้อย 200 คนมาแล้ว
[แล้วที่รักจะทำให้คนพวกนี้เป็นกองกำลังที่มีศักยภาพจริงๆงั้นหรอที่รัก?]คิมเยซอลดูจะชอบการตอบกลับแบบไม่สนใจของยูอิลฮานที่ตอบเฮเรียน่ากลับไปจะน่ารักมากทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติโดยไม่สนใจสายตานี้ ในตอนนี้เองเขาก็มาที่โลกกุนเดียที่ฮานเยรังกับคนอื่นๆอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจ
มันมีปัญหาเกิดขึ้นที่นี่
“เวรล่ะ”ยุนแดฮานที่เฝ้าดูยูอิลฮานเชื่อมต่อบันทึกกับโลกใบนี้ได้มีปฏิกิริยาออกมาเป็นคนแรก ฮานเยรังตายงั้นหรอ? ยิ่งหลังจากเขาได้ยินคำตอบของยูอิลฮานเขาก็ได้เงียบไป
“มนุษยชาติเกือบจะสูญพันธ์แล้ว”ยูอิลฮานได้เกาหัวและหยุดอธิบายลง โอกาสที่ข้อมูลที่เขาได้รับมาจากบันทึกมีโอกาสผิดน้อยมากๆ
“นับตั้งแต่มหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 ก็ผ่านมาถึง 4 ปีแล้ว ผู้คนที่นี่ปรับตัวเข้ากับมันไม่ได้”ช่วงต้นของมหาภัยพิบิติเป็นช่วงเวลาที่มีความวุ่นวายากที่สุดแล้ว เนื่องจากความเข้มข้นของมานาเพิ่มขึ้นทำให้จำนวนของมอนสเตอร์ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน และได้มีภัยพิบัติธรรมทุกชนิดเข้ามาโจมตีทุกชีวิตบนโลกนี้ หลังจากเกิดมหาภัยพิบัติพวกเขาจะต้องรอให้ผ่านไปซัก 30 ปีเท่านั้นถึงจะเข้าสู่ช่วงสเถียรภาพได้ และหากว่าพวกเขาทนได้ถึงตอนนั้นประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติถึงจะได้ถูกสานต่อไป
ยังไงก็ตามมนุษยชาติในโลกใบนี้ทนไม่ได้ถึงตอนนั้น
“และในทางกลับกันนี่ได้กลายมาเป็นโอกาสใหญ่สำหรับมอนสเตอร์ นี่มันส่งผลให้มนุษยชาติ 99.9% ได้ตายไปในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง”ต่อให้เขาจะมองลงไปที่กุนเดียจากด้านบนของป้อมปราการผู้พิทักษ์ แต่ยุนแดฮานไม่อยากจะเชื่อคำๆนี้เลย
โศกนาฏกรรมมานาเกิดขึ้นในโลกที่ดูจะสงบสุขแบบนี้ได้ยังไงกัน? เฮเรียน่าได้พูดขึ้นอย่างเย็นชาราวกับมองความคิดนี้ของพวกเขาออก
[สาเหตุหลักของความโกลาหลนะมักมาจากมนุษยชาติเสมอนั่นแหละ มานาของที่โลกนี้สงบเกินไป]ยูอิลฮานได้ยิ้มแห้งๆออกมา เมื่อดูจากวันสิ้นโลกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกมากๆ เขารู้สึกว่าโลกของเขาอาจจะกลายมาเป็นแบบนี้ในสักวันหนึ่ง และเขาก็ยังรู้สึกไม่คุ้นเคยกับตัวเขาเองมากๆที่กำลังเฝ้าดูการตายของคนนับไม่ถ้วนนี้โดยไม่รู้สึกอะไรสักนิด มันเหมือนกับในตอนที่เขากำลังดูหนังหรืออะไรทำนองนี้
[…]
เฮเรียน่าได้หยุดเล่นและถอยไปเงียบๆเมื่อได้รู้ถึงสิ่งที่เขารู้สึกอยู่ เมื่อคำนึงถึงการที่เธอปฏิบัติกับมนุษยชาติ อารยธรรม และโลกตามปกติแล้ว ทำให้การกระทำต่างๆนี้ของเธอได้พิสูจน์แล้วถึงความรักที่เธอมีต่อยูอิลฮาน
“ถ้างั้นเราจะทำอะไรกันต่ะล่ะ?”ยูอิลฮานได้คิดครู่หนึ่งก่อนจะเสริมออกมา
“แล้วก็นะ… บางทีพันเอกฮานก็อาจจะไม่กลับมาที่กองกำลังปราบปราม”
เลเวลของฮานเยรังคือ 190 เธอเป็นคนที่มีเลเวลสูงสุดในหมู่มนุษยชาติที่รอดชีวิตอยู่ในกุนเดีย และเธอยังเป็นคนที่มีเลเวลสูงกว่าทหารทุกๆคนที่อยู่กับเขาที่นี่ นอกไปจากเธอแล้วพลตรียุนแดฮานที่มีเลเวล 173 คืออันดับที่สอง เพราะแบบนี้นี่คือสิ่งที่บ่งบอกได้ดีถึงความลำบากที่เธอต้องเจอมา
“พูดอีกอย่างก็คือพันอกฮาน…?”ยูอิลฮานได้เปิดใช้สกิลข้ามมิติไปในทันที
เขาได้ใช้เวลาไม่นานนักก็ได้มาถึงที่ที่มนุษยชาติของโลกนี้อยู่ ซึ่งนั่นคือสนามรบที่ไร้ปราณีกำลังเกิดขึ้นอยู่
[ก๊าซซซซซซซซซซ!]การคาดเดาของยูอิลฮานถูกต้อง ฮานเยรังคือผู้หญิงที่อยู่หน้าสุดของสนามรบและเป็นเสียงสั่งการทุกๆคน เธอในตอนนี้กำลังใส่เกราะพังๆที่ยูอิลฮานสร้าง เหวี่ยงดาบยักษ์ทำให้ศัตรูต้องถอยไป
“พันเอกเท่มาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี