บทที่ 289 – เตรียมตัว (7)
“…หือ?”
เลียร่าได้ผงะไป ส่วนยูอิลฮานได้หยักไหล่ตอบกลับมา
“ฉันบอกว่าดูเหมือนเทพเจ้า(เปลื่ยนจากพระเจ้าเป็นเทพเจ้า)จะทิ้งบ้านเขาไปแล้วไงล่ะ”เลียร่าดูจะต้องใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนเอิลต้าเธอดูเหมือนจะพอรู้เรื่องนี้แล้ว และเฮเรียน่าก็แค่ยิ้มอ่อนออกมา
“เมื่อไหร่กันล่ะ?”
และเลียร่าก็ได้ถามออกมา นี่น่าจะเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดแล้ว ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปด้วยสีหน้าแปลกๆ
“ก่อนหน้าที่กองทัพจรัสแสงจะถูกตั้งขึ้นไม่นานนัก”เลียร่าได้แต่ร้องออกมา
“นั่นมันก่อนที่ฉันจะเกิดอีกนะ! แถมอาจจะก่อนที่มนุษยชาติบนโลกนายจะเกิดด้วยซ้ำไป!”ในท้ายที่สุดเลียร่าก็ได้แต่ร้องไห้ออกมาในอ้อมแขนของยูอิลฮาน ยูอิลฮานก็เข้าใจเธอเช่นกัน และเขาก็ยังพอจะเข้าใจเหล่าคนที่แปรพักตร์มาจากกองทัพสวรรค์เช่นกัน
“ฟู่”
เอิลต้าได้มองไปที่เลียร่าอย่างอิจฉา แต่เธอก็ยังถอนหายใจออกมา
“เพราะการขาดเทพเจ้าทำให้มีคนทรยศสวรรค์เกิดขึ้นมามากมายสินะ? พอมาลองคิดดูแล้วการที่กองทัพจรัสแสงได้ควบคุมส่วนสำคัญของกองทัพสวรรค์ไปแล้วนี่มันน่ากลัวมาก…”เอิลต้าได้สูดหายใจลึกเข้าไป ยังไงก็ตามท่าทางของเฮเรียน่ากลับสดใสออกมา
[นี่มันน่าสนใจมากเลยนะ เพราะการที่ประตูมิติสู่โลกเบื้องล่างได้ถูเปิดขึ้นในวันนั้นทำให้กองทัพจรัสแสงได้ถูกทุกๆกองกำลังบุกเข้าไปโจมตี กองทัพสวรรค์ก็จะได้มีเวลาพักหายใจ… ถ้ามองในแง่ดีก็คือกองทัพสวรรค์ได้ถูกที่รักช่วยเอาไว้เชียวนะ]นี่มันราวกับว่ายูอิลฮานกำลังวิ่งอยู่บนฝ่ามือของเทพเจ้าอยู่ตลอดเวลา แถมยังเป็นเทพเจ้าที่ทิ้งที่อยู่ตัวเองไปด้วย! ยังไงก็ตามเฮเรียน่าได้หัวเราะออกมาและตอบกลับมาในแง่ดี
[ที่รักยังไม่รู้งั้นหรอ? ราชันแห่งกองทัพสวรรค์น่ะไม่ได้เป็นทั้งผู้รอบรู้หรือควบคุมทุกๆอย่างนะ หากว่าเขาเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างอยู่แล้วเขาก็คงไม่จำเป็นต้องสร้างกองทัพสวรรค์แบบนี้แล้ว แถมก็ยังจะไม่มีคนทรยศด้วย รวมถึงจะไม่มีกองกำลังอื่นๆขึ้นมาอีก เพราะแบบนี้ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกนะ บางทีอาจจะมีคนทำนายการเกิดและพัฒนาของที่รักได้ แต่ว่าไม่มีใครที่จะรู้เส้นทางที่แท้จริงที่ที่รักเลือกเดินได้ล่ะ สิ่งนั้นมันขึ้นอยู่กับตัวที่รักเอง จริงไหมล่ะ?]เฮเรียน่าอาจจะพูดถูกก็ได้ คำพูดที่หนักแน่นของเธอได้ทำให้ยูอิลฮานโล่งใจขึ้นมา ยูอิลฮานได้รู้สึกยินดีแบบฝืนๆที่เธอได้ปลอบเขาด้วยคำที่เขากำลังต้องการที่สุดในตอนนี้
ยูอิลฮานเขาได้หวาดกลัวอารมณ์ของเขาที่มีต่อเธอที่เปลื่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ราชินีซัคคิวบัสคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่แน่นอน เธอได้บรรลุในบางอย่างที่ถึงขนาดส่งผลต่อสกิลหัวใจไม่สั่นคลอนของเขาแล้ว
เลียร่าที่พอจะเข้าใจสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ได้ถามออกมาด้วยสายตาเป็นกังวล
“…แล้วอิลฮาน นับจากนี้นายจะเอายังไงต่อ”ยูอิลฮานได้กุมขยับขึ้นมา ยังไงก็ตามนับตั้งแต่ที่เขาได้ฆ่ารามิเอลและดูดบันทึกไป สิ่งที่เขาจะต้องทำต่อจากนี้ก็ดูจะถูกบังคับเอาไว้แล้ว
“ฉันคงจะต้องหยุดการโจมตีกองทัพสวรรค์ไปซักพัก แล้วดูเหมือนฉันจะต้องแก้ไขในปัญหาเรื่องกองทัพจรัสแสงก่อน”
เมื่อได้ยินยูอิลฮานพูดคำว่า ‘แก้ไข’ ในเรื่องของทั้งกองกำลังได้ทำให้เลียร่าต้องหัวเราะออกมา
“อิลฮาน นายนี่เอาใหญ่แล้วนะ”ดวงตาของยูอิลฮานได้กลายเป็นหลุมลึกลงไป ผมของเขาได้ยิดยาวออกมาจากภายในหมวกและปล่อยความร้อนออกมา ผมของเขาตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงที่แสดงอารมณ์ของเขาในเวลานี้ออกมา นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าเขากำลังหลุดพ้นไปจากหลักของฟิสิกส์อย่างช้าๆแล้ว
“ถ้าฉันโจมตีกองทัพสวรรค์ในตอนนี้ มันก็มีแต่จะเป็นการทำให้พวกเขากลายไปเป็นเทวดาตกสวรรค์ ต่อให้พวกกองทัพสวรรค์จะเป็นพวกที่อันตรายที่สุดก็เถอะนะ…”เฮเรียน่าที่รู้สึกถึงความมั่นใจในคำพูดของยูอิลฮานได้ เธอได้หรี่ตาถามเขาออกมา
[…ตอนนี้ที่รักมองออกว่าใครทรยศกองทัพสวรรค์แล้วงั้นสินะ? ก่อนที่คนพวกนั้นจะเผยตัวเนี้ยนะ?]เลียร่ากับเอิลต้าได้ตะโกนออกมาอย่างตกตะลึงทันที
“ได้ยังไงกัน!?”ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปในทันทีที่จัดการโลกใบนี้เสร็จแล้ว เขายังคงอยู่บนหลังของยูมิล การสอดประสานลมหายใจของทั้งสองคนได้จัดการกับมานาของโลกใบนี้ ทั้งกลุ่มของยูอิลฮานได้มองพร้อมทั้งคิดว่าทั้งสองคนที่ต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างเงียบๆ
และพวกเขาก็ต่างไปจากเมื่อก่อนจิรงๆ
‘ฉันรู้สึกเหมือนฉันพอจะมองเห็นปลายทางนิดๆแล้วสิ’
หลังจากสู้กับรามิเอล ยูอิลฮานรู้สึกว่าอีกไม่นานแล้วที่เขาจะได้ไปถึงขอบเขตของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง จากการคาดเดาของเขา เขาคิดว่าเขาน่าจะกลายไปเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้เมื่อเขาเชี่ยวชาญสกิลจ้าวมิติกับสกิลบันทึก
“แต่การจัดการ’องค์กร’ สำหรับฉันแล้วมันคือคำที่แย่สุดๆ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี