Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 293

บทที่ 293 – ความสำเร็จ (3)

[ท่านราฟาเอลนี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะครับ พวกเราไม่ใช่คนทรยศ]
[ทุกๆคนที่เราได้เจอมาจนถึงตอนนี้ต่างก็พูดเหมือนนายนั่นแหละ แต่ว่านะเวร่า คนพวกนั้นไม่มีใครเลยที่เป็นผู้บริสุทธิ์]
[อ๊า เจ้านั่นกำลังหลอกท่าน! ท่านไปเชื่อคำพูดของมนุษย์คนหนึ่งได้ยังไงกัน!]

คนทรยศต่างก็ร้องแสดงความบริสุทธิ์ออกมาแต่ว่าราฟาเอลก็ไม่ได้ใส่ใจพวกเขา และในตอนที่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นยูอิลฮานก็จะเหวี่ยงออกหอกออกมาทั้งแบบนี้ หัวของเวร่าที่กำลังร้องเรียกความยุติธรรมได้ถูกตัดลงไปทั้งอย่างนี้

[สกิลบันทึกได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 98]
[สกิลหอกสะบั้นจักรวาลได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 99]

ไม่เพียงแค่เวร่าเท่านั้น ยูอิลฮานได้ฆ่าคนทรยศไปมากมายบนหลังของยูมิลที่กำลังบินอยู่อย่างต่อเนื่อง เลือดสีเทาได้ย้อมไปทั่วทั้งโลกทำให้ราฟาเอลต้องโบกมือป้องกันไม่ให้เลือดมาโดนตัวเขาและเริ่มมองไปที่ยูอิลฮาน

[เรากำลังคุยกันอยู่นะ]
“นั่นมันคุยกันที่ไหนล่ะ มันก็แค่การร้องขอชีวิตเท่านั้นเอง”

ปัญหาใหญ่ก็คือการอ้อนแวนนั้นจะไม่ได้อะไรกลับมา ยูอิลฮานได้ส่งเสียงฮึดฮัดและเก็บเอาศพของคนทรยศเข้าไปในช่องเก็บของ เมื่อเห็นเขาทำแบบนี้ราฟาเอลได้แสดงสีหน้าตกใจออกมา

[นายดูชำนาญกับเรื่องมิติมากๆเลยนะ]
“นั่นต้องขอบคุณคนๆหนึ่งนะ”
[นายนี่มัน…]

ราฟาเอลได้ส่ายมือออกมาราวกับเขาเบื่อที่จะเถียงแล้ว จากนั้นทูตสวรรค์ทุกๆคนก็มารวมอยู่ข้างหน้าเขา

[คนทรยศได้หายไปแล้ว ใช้พลังทั้งหมดของพวกนายคุ้มกันโลกใบนี้เพื่อสวรรค์และเพื่อท่านเทพเจ้าที่มีเพียงหนึ่งซะนะ]
[เข้าใจแล้วครับท่านราฟาเอล!]
[พวกเราจะปฏิบัติตามนำแนะนำนี้ครับ!]

มานาที่ราฟาเอลได้ใช้ปิดกั้นโลกใบนี้ได้กลับคืนสู่ที่เดิม ในตอนที่เราได้ไปโลกอื่นเขาจะทำการปิดเส้นทางเข้าออกในทันที และเมื่อทุกๆอย่างจบลงเขาก็จะปลดออกมาเช่นนี้

[เอาล่ะยูอิลฮาน ตอนนี้เรามีปัญหาอยู่นิดหน่อย]
“อะไรล่ะ จบแล้วงั้นหรอ?”

ยูอิลฮานได้ทำสีหน้าราวกับเด็กน้อยที่หาขนมไม่เจอออกมา ราฟาเอลคิดว่านี่มันบ้ามาก ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาได้ตระเวนไปโลกอื่นๆถึง 500 โลก และยูอิลฮานก็ได้ฆ่าคนทรยศไปนับหมื่น ไม่เคยมีใครเลยที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงมากขนาดนี้ในเวลาสั้นๆแต่ยูอิลฮานกลับทำมัน!

[นี่คือโลกสุดท้ายแล้วที่อยู่ในการดูแลของเรา ไม่ว่าสวรรค์จะมากแค่ไหนแต่ว่าจำนวนของโลกระดับสูงก็มีจำกัดเหมือนกัน]
“ถ้างั้นการเป็นพันธมิตรกันก็จบแค่นี้สินะ? ยินดีที่ได้ร่วมงานนะ”
[ยังไงก็ตาม นายยังไม่ได้เจอกับทูตสวรรค์ทุกๆคน]

ดวงตาราฟาเอลได้เป็นประกายขึ้นมา

[นายก็น่าจะรู้นะว่ามีทูตสวรรค์มากมายได้เข้าร่วมในสงครามต่อสู้กับกองกำลังอื่น]
“นี่นายกำลังตั้งใจที่จะกำจัดกองทัพจรัสแสงจริงๆงั้นสินะ?”
[แน่นอนสิ เพราะแบบนั้นทำให้เราต้องทำให้รากฐานของเรามั่นคงไงล่ะ แต่ว่าหากมีคนทรยศอยู่ในกลุ่มคนที่ร่วมการต่อสู้จะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ? แล้วหากว่าคนทรยศนั่นเป็นคลาส 7 ด้วยแล้วล่ะก็?]
“เรื่องมันก็จะเลวร้ายสินะ?”
[ถูกแล้ว เพราะงั้นตอนนี้เราจะไปหาคนพวกนั้นกัน วิธีการก็เหมือนกับที่ผ่านๆมา นายก็แค่ต้องฆ่าคนทรยศ]
“ทั้งๆที่ทูตสวรรค์กับเทวดาตกสวรรค์จะกำลังสู้กันอยู่เนี้ยน่ะหรอ?”
[ใช่แล้ว]

ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

“ดูน่าสนใจดีนะ”
[นายดูจะชอบมากเลยสินะ ถ้างั้นเราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย]

ราฟาเอลได้เปิดประตูมิติขึ้นมาแล้ว เลียร่าได้จับไหล่ของยูอิลฮานเอาไว้เพราะเธออดจะห่วงเขาไม่ได้

“ฉันคิดว่านายจะกดดันตัวเองเกินไปแล้วนะอิลฮาน นายจะต้องทำถึงขนาดนี้จริงๆน่ะหรอ?”
“ใช่แล้ว ในเมื่อฉันเป็นคนเริ่มเรื่อง ฉันจะต้องได้เห็นตอนจบของมันด้วย”

แม้ว่าเขาจะตอบเลียร่าด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย แต่ว่าภายในหัวของเขากำลังมีความคิดมากมายอยู่ภายในหัว สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ก็คือเขาอาจจะได้เจอกับสิ่งที่ราฟาเอลต้องการ ราฟาเอลจะต้องวางกับดักบางอย่างเอาไว้แน่นอน

ยังไงก็ตามหากว่าเขาไม่ไปต่อ เขาก็คงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้เพราะเขาได้ปล่อยเบาะแสที่เขาเจอไป ยูอิลฮานไม่ชอบที่จะรอคอยในสิ่งที่ไร้เป้าหมายแบบนั้น

“เลียร่า กลับไปรวมกับคนอื่นๆเถอะ นับจากนี้ไปมันจะอันตรายนิดหน่อย”

เพราะว่าทูตสวรรค์คนอื่นๆอ่านจะใช้เธอได้ – เขาไม่อาจจะพูดแบบนี้กับเธอได้ แต่ว่าเลียร่าก็พอเข้าใจว่าเขาอยากจะบอกอะไร

“โอเค นายจะไปกับฉันด้วยใช่ไหม?”
“ไม่ล่ะ เลเวลสกิลของฉันได้เพิ่มสูงขึ้นจนพอจะส่งคนอื่นไปได้แล้ว เพราะงั้นฉันจะตามไปหลังจากจบเรื่องแล้ว”
“…แล้วนั่นมันเมื่อไหร่กันล่ะ?”
“เดี๋ยวก็ถึงเวลานั้นเองแหละ”
“โอเค”

ยูอิลฮานได้จูบเลียร่าเบาๆและเปิดใช้สกิลข้ามมิติ ด้วยเลเวล 87 ของสกิลข้ามมิตินี้ได้ทำให้เขาสามารถจะส่งเธอไปในโลกอื่นได้อย่างสบายๆ ราฟาเอลที่เห็นแบบนี้ได้ยิ้้มแห้งๆออกมา

[มาแสดงความรักหวานชื่นกันแบบนี้เลยงั้นหรอ ฉันสูญเสียความรู้สึกแบบนั้นไปนานแล้ว]
“นั่นคงแย่น่าดูเลยนะ”

ยูอิลฮานได้ส่งเสียงขึ้นจมูกขึ้นมาและเข้าไปประตูมิติพร้อมกับยูมิลทันที

อีกด้านหนึ่งของประตูมิติคือสนามรบระหว่างทูตสวรรค์กับเทวดาตกสวรรค์! ในโลกใบนี้มีพลังงานสีดำหนาแน่นลอยอยู่ และภายในสงครามนี้จำนวนของทูตสวรรค์กับเทวดาตกสวรรค์ก็ดูจะไม่มีสิ้นสุดลง แม้กระทั่่งยูอิลฮานก็อดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึงกับภาพนี้

ท้องฟ้าสูงและกว้างจนเกินไป ผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล บางทีโลกของเขาที่เปลื่ยนแปลงไปอีกร้อยครั้งก็อาจจะกลายมาเป็นแบบนี้ก็ได้ แล้วโลกขนาดใหญ่แบบนี้ยังไม่ใช่่ฐานทัพหลักของกองกำลังอีกงั้นหรอ?

ที่ยิ่งน่าตกใจไปกว่านั้นก็คือสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่กำลังต่อสู้กันในส่วนต่างๆของทั้งผืนดินและท้องฟ้า ทูตสวรรค์กับเทวดาตกสวรรค์มีมากที่สุด แต่ว่ากองกกำลังปีศาจวิบัติกับสวนอาทิตย์อัสดงก็มีมากไม่ด้อยไปกว่ากันนัก ยูอิลฮานกระทั่งคิดว่าหากมีคนมาบอกเขาว่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดมารวมกันที่นี่่เขาก็เชื่อ

“ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงมากขนาดไหนกันนะ…?”
[นับตั้งแต่ที่เพื่อนของนาย คังมิเรย์ได้เปิดประตูมิติไปสู่โลกเบื้องล่าง พวกเราก็ได้รับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับโลกต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพจรัสแสง โลกนี่คือโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแล้วที่เราได้เจอ โลกใบนี้ได้เผชิญกับมหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 ไปแล้วทำให้มันเกิดการวิวัฒนาการขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง แถมดลกนี้ก็ยังมีการเชื่อมต่อโดยตรงกับโลกเบื้องล่างอีกด้วย]
“เหตุผลที่พวกนายไม่ไปโลกเบื้องล่างตรงๆเลยคือ…”
[นายก็น่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วนี่]

แน่นอนว่านี่ก็เพื่อที่จะลดพลังโดยรวมของกองทัพจรัสแสง นี่เป็นเหตุผลที่มีกองกำลังอื่นๆนอกจากกองทัพสวรรค์ที่มาก่อความวุ่นวายขึ้นที่นี่ด้วย!

[แล้วคนทรยศล่ะ? นายมองเห็นพวกนั้นไหม?]
“แน่นอนสิ มีเยอะเลยนะ แต่ว่าฉันไม่เห็นคลาส 7 เลยนะ… นายไปช่วยพรรคพวกของนายที่น่าสงสารเถอะ ฉันจะเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง”
[ด้วยความสามารถในการซ่อนตัวของนายที่น่าทึ่งสินะ… โอ้]

ก่อนที่ราฟาเอลจะพูดได้จบลง ยูอิลฮานก็เข้าไปในสนามรบพร้อมกับยูมิลแล้ว ด้วยความประสานกันของทั้งสองคนทำให้ความเร็วสูงขึ้นและพวกเขาก็ได้ใช้มานาปกปิดตัวตนไป ราฟาเอลที่เห็นแบบนี้ได้แต่พึมพัมออกมาอย่างตกใจ

[ความสามารถของเขาหลอกได้แม้กระทั่งสัมผัสของฉัน… แต่ว่าในคราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่]

ระหว่างเขามาในสนามรบยูอิลฮานก็ได้มองไปรอบๆโดยไม่พูดอะไรออกมาอยู่ครู่หนึ่ง ภาพที่เขาให้ในตอนนีก็คือเลือดหลากสีของสมาชิกแต่ล่ะกองกำลังได้กระจายกันออกมาเต็มไปหมด…

[พ่อครับ พ่อหาคนทรยศไม่เจอหรอ?]
“ไม่หรอก พ่อก็แค่กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ”

เมื่อไม่นานมากนี้กองกำลังอื่นๆทั้งหมดยังไปรวมตัวกันโจมตีกองทัพสวรรค์อยู่เลย แต่แล้วแค่เพราะการเปิดประตูมิติเล็กๆน้อยๆกลับทำให้กองกำลังอื่นๆหันมาทุ่มกำลังโจมตีกองทัพจรัสแสง

สำหรับกองทัพปีศาจวิบัติที่สมองมีแต่กล้ามเนื้อนั้นข้ามไปได้เลย แต่ว่าเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสวนอาทิตย์อัสดงถึงได้เปลื่ยนจุดยืนและหันมาโจมตีกองทัพจรัสแสง พวกเขาทำไปเพื่ออะไรกันล่ะ? พวกเขาทั้งหมดก็แค่อารวาดไปตามใจแค่เพราะนี่เป็นการทำลายกองกำลังอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองงั้นหรอ?

ถ้าอย่างนั้นมันก็ดูจไม่ต่างไปจากกองทัพปีศาจวิบัติเลยนี่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้เลยก็คือพวกกองกำลังทั้งหมดคือกองกำลังที่ยูอิลฮานจะต้องจัดการให้ได้ในสักวันหนึ่ง

“…มาเริ่มกันเถอะมิล”
[ได้เลยครับพ่อ!]

[อึก!?]
[ร่องหน… อ๊าากกก!]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับ…][พ่อครับ ผมได้ค่าประสบการณ์มาเรื่อยๆเลย]
“รู้ไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้หรอกนะ มันเป็นเรื่องปกติ”

“นี่คือเวลาสำหรับการบุกตะลุย”
[พ่อครับจำนวนของศัตรูกำลังเพิ่มมากขึ้น นี่มันเยอะมาเลย]
“…ระวังพวกมันหน่อยๆก็พอลแล้ว ตอนนี้และมิลบุกได้เลย”
[ครับผม!]

[ปีกที่ 2 แห่งกองทัพจรัสแสง อนาเฟียมาแล้วสินะ เจ้านกโง่เขลา ฉันจะเด็ดขนแกออกมาเอง]
“ปีกที่ 2 แห่งกองทัพจรัสแสง…”

[ดีเลยอนาเฟีย ฉันกำลังรอให้นายมาที่นี่อยู่เลย]
[…มิคาเอล!?]

[ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เราคอยอยู่สักที… เวลาที่นายท่านได้มอบคำสั่งมา คำสั่งให้ฉันฆ่า ‘เขา’]
[ผู้บัญชาการที่ 1 แห่งกองทัพปีศาจวิบัติ เคสเช่น… ให้ตายสิ]

[ฝันไปเถอะมิคาเอล ต่อให้ไม่มีพลังจากท่านหญิงลาไซน์ ฉันก็จัดการแกได้ง่ายๆ กับสวรรค์กรวงๆของนายคิดว่าจะทำอะไรได้งั้นหรอ?]
[ในตอนนี้สวรรค์ได้อยู่ในสภาพที่บริสุทธิสะอาดที่สุดแล้วนับตั้งแต่ที่ซาตานได้เกิดขึ้นมา นายอาจจะตกใจก็ได้นะ แต่ว่าสวรรค์ในปัจจุบันนี้ปลอดภัย พวกเราได้มีผู้ช่วยมีดีมา]
[…]

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี