“อ่า โอเค”
เมื่อยูอิลฮานได้หันหน้าไป มอนสเตอร์ก็ได้หัวเราะออกมา
[นายคิดว่าฉันกำลังโกหกงั้นหรอ?]มันเป็นเรื่องที่เขาได้รู้เรื่องนี้ ยูอิลฮานไม่ได้มีความสามารถในการสร้างชีวิตจากความว่างเปล่า ยังไงก็ตามมอนสเตอร์ก็ยังพูดต่อไป
[แล้วด้วยสัญชาตญาณของนาย นายก็รู้ว่าจะทำอะไรต้องทำเพื่อที่ไปในระดับที่สูงกว่านี้ไม่ใช่หรอกหรอ?]ใช่แล้ว ยูอิลฮานได้รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไมถึงต้องมีกองกำลังอยู่ด้วยล่ะ? แล้วโลกที่อยู่ใต้การปกครองเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะ? จะต้องทำอะไรเพื่อที่จะยกระดับพลังขึ้นไปอย่างต่อเนื่องงั้นหรอ? ในตอนนี้ยูอิลฮานรู้ในวิธีอื่นนอกจากการเพิ่มเลเวลไปอย่างไร้จุดหมายแล้ว
โลกไงล่ะ เขาจะต้องครอบครองโลกจำนวนมาก
“นายอยากจะให้ฉันเข้าร่วมในสงครามแย่งชิงโลกระดับสูงงั้นหรอ?”ลิ้นสีแดงหลายแฉกของเขาได้ยื่นออกมาเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาย และตวัดไปมา
หลังจากนั้นคำพูดที่ยูอิลฮานไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ยินจากปากสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ดังออกมา
[พันธมิตร]
ยูมิลได้บีบมือยูอิลฮานแน่น ในตอนนี้ยูมิลกำลังบอกนัยๆว่าเขาไม่ต้องการจะอยู่ฝ่ายเดียวกับสัตว์ประหลาดน่ากลังตนนี้ ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็พบว่านี่มันเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจมากทีเดียวสำหรับหัวหน้ากองกำลังเกิดใหม่ที่มีพลังน้อยที่สุด
“เอ๋ พันธมิตรสินะ”ยูอิลฮานรู้ในเป้าหมายนี้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องฟังอะไรอีก
“ลบล้างสวรรค์สินะ”ยูอิลฮานได้แต่จบด้วยการหัวเราะออกมา
“แล้วนายไม่คิดว่าฉันจะไปหาซาตานงั้นหรอ?”ยูอิลฮานก็แค่คิดเล่นๆไปเท่านั้น เขาไม่ได้คิดจริงๆอยู่แล้วว่าเขาจะไปเป็นพันธมิตรกับกองทัพจรัสแสง จริงๆแล้วการที่พวกนั้นมาปกป้องเขายิ่งทำให้เขารำคาญด้วยซ้ำไป ยูอิลฮานปกป้องตัวเขาเองได้อยู่แล้ว แต่เจ้าพวกนั้นกลับมาทำอะไรไร้ประโยชน์ไปซะได้
ยูอิลฮานไม่เคยคิดถึงสถานการณ์ที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือเลยสักนิด นั่นมันก็เพราะตลอดเวลาเขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกมาก่อน เพราะแบบนี้ถึงทำให้เขาแข็งแกร่ง เพราะแบบนี้ถึงทำให้เขายืนได้โดยลำแข้งตัวเอง ยืนได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น
เพราะแบบนี้ทำให้
“ขอโทษด้วยนะแต่ฉันขอปฏิเสธในข้อเสนอนี้”
เขาไม่จำเป็นต้องให้มอนสเตอร์นี่ช่วย
“ฉันจะทำตามการตัดสินใจของฉันเอง โลกล่มสลายงั้นหรอ? นายไม่มีอะไรกินงั้นหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉันนี่ ตราบใดที่โลกของฉันยังคงอยู่ฉันก็ไม่มีปัญหานี่ แล้วกหากพวกนายหรือใครมายุ่งย่ามกับฉันถ้างั้นฉันก็แค่จะลบพวกนายออกไป ฉันคิดว่านายคงจะเข้าใจในตัวฉันผิดไปแล้วนะ นายรู้อะไรไหม? ตัวฉันน่ะเป็นคนแบบ”
เขาได้ยิ้มออกมา
“เล็กจ้อยมากๆเลยนะ”สำหรับการยืนอยู่ต่อหน้าตัวตนข้างหน้าเขานี้ ยูอิลฮานรู้สึกได้เลยถึงความต่างของพลัง
ในตอนนี้เขาไม่อาจจะเอาชนะตัวตนข้างหน้านี้ได้แน่ๆ เหตุผลที่ยูอิลฮานเอาชนะมิคาเอลได้นั่นมันก็เพราะว่าเขามีข้อได้เปรียบเรื่องธาตุเท่านั้นเอง แต่ว่าหากเป็นการเอาชนะมอนเตอร์บ้าที่ปล่อยแรงกดดันมานาทรงพลังแบบนี้ออกมาจากร่างกายได้โดยไม่ใช้อาร์ติแฟคหรือข้อได้เปรียบด้านธาตุมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้
“แต่ว่าฉันก็ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก ฉันกระทั่งป้องกันไม่ให้นายเข้ามาในโลกของฉันได้”มอนสเตอร์ได้ยิ้มออกมา ปากใหญ่ๆของเขาได้เปิดกว้างออกมาจนเห็นฟันจำนวนมากภายในปากและหัวเราะออกมา
[นายก็จะรู้ได้เอง คนพวกนั้นน่ะน่ารังเกลียดยิ่งกว่าฉันอีก ต่อให้นายอยู่เฉยๆสงครามก็จะเข้าไปหานายเอง จำข้อเสนอนี้ของฉันเอาไว้ให้ดี ฉันจะรอคอยคำตอบจากนายนะ]
ประตูปราสาทได้เปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ยูอิลฮานได้หันหน้าไปพร้อมกับยูอิล มอนสเตอร์ก็ยังคงหัวเราะออกมา
[มันคงจะไม่นานนักหรอก]ประตูปราสาทได้ปิดลงและแรงกดดันที่น่ากลัวก็ได้หายไปพร้อมๆกับปราสาท สกิลสวนกลับของยูอิลฮานก็ได้มาถึงเลเวล 69 แล้ว
[จบแล้วหรอ? จบแล้วสินะ?]เหล่านักล่าที่รอให้ยูออิลฮานหมดธุระได้พุ่งเข้ามาโจมตียูอิลฮานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แน่นอนว่า ‘เล่น’ นั่นน่าจะหมายถึงการกินเนื้อของคนๆนั้นไป ยูอิลฮานก็ได้ยิ้มกลับไปเช่นกันและจัดการกวัดแหว่งหอกของเขา
ค่าประสบการณ์ได้หลั่งไหลเข้ามาในทนัที แต่ว่าการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำแบบนี้ทำให้ไม่ได้ค่าประสบการณ์มากนัก
“ฉันบอกว่าช่องเก็บของฉันเต็มไปแล้วไง พวกนายนี่ไม่ฟังกันเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี