Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 298

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 298
บทที่ 298 – ความสำเร็จ (8)

“อ่า โอเค”

เมื่อยูอิลฮานได้หันหน้าไป มอนสเตอร์ก็ได้หัวเราะออกมา

[นายคิดว่าฉันกำลังโกหกงั้นหรอ?]
“อ่า ใช่ แบบนั้นแหละ”[พระเจ้าได้ตายไปแล้ว ฉันจะกินเขา ในเวลาเดียวกันซาตานก็เป็นคนที่รับใช้พระเจ้าจนถึงท้ายที่สุด ส่วนสวนอาทิตย์อัสงดงก็เป็นแค่ผู้ชม นับตั้งแต่เริ่มต้นมีแค่นายเท่านั้นยูอิลฮานที่ได้เข้าไปถึงขอบเขตการสรรสร้างนอกจากตัวพระเจ้าเอง ฉันมั่นใจในเรื่องนี้หลักจากได้เห็นการคืนชีพของเฮเรียน่า]
“สำหรับเรื่องนั้นฉันก็แค่หลอมจิตวิญญาณครึ่งหนึ่งของเธอเข้าไป…”
[ใช่แล้ว นายยังไม่ถึงระดับนั้น ทั้งพลังของนาย มานาของนาย บันทึกของนาย ทุกๆอย่าง แต่แน่นอนว่านายได้มาถึงในระดับที่ทำให้เราทุกคนต้องตกตะลึงแล้ว]

มันเป็นเรื่องที่เขาได้รู้เรื่องนี้ ยูอิลฮานไม่ได้มีความสามารถในการสร้างชีวิตจากความว่างเปล่า ยังไงก็ตามมอนสเตอร์ก็ยังพูดต่อไป

[แล้วด้วยสัญชาตญาณของนาย นายก็รู้ว่าจะทำอะไรต้องทำเพื่อที่ไปในระดับที่สูงกว่านี้ไม่ใช่หรอกหรอ?]
“…”

ใช่แล้ว ยูอิลฮานได้รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไมถึงต้องมีกองกำลังอยู่ด้วยล่ะ? แล้วโลกที่อยู่ใต้การปกครองเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะ? จะต้องทำอะไรเพื่อที่จะยกระดับพลังขึ้นไปอย่างต่อเนื่องงั้นหรอ? ในตอนนี้ยูอิลฮานรู้ในวิธีอื่นนอกจากการเพิ่มเลเวลไปอย่างไร้จุดหมายแล้ว

โลกไงล่ะ เขาจะต้องครอบครองโลกจำนวนมาก

“นายอยากจะให้ฉันเข้าร่วมในสงครามแย่งชิงโลกระดับสูงงั้นหรอ?”
[นายได้เข้าร่วมแล้ว ฉันก็แค่อยากจะให้นายรุกมากขึ้นเพื่อเป้าหมายของนาย]
“เพื่อที่จะสร้างอะไรมาให้นายกินน่ะหรอ?”
[ถูกแล้ว ในตอนนี้เรากำลังเจรจากันอยู่ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ]

ลิ้นสีแดงหลายแฉกของเขาได้ยื่นออกมาเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาย และตวัดไปมา

หลังจากนั้นคำพูดที่ยูอิลฮานไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ยินจากปากสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ดังออกมา

[พันธมิตร]

ยูมิลได้บีบมือยูอิลฮานแน่น ในตอนนี้ยูมิลกำลังบอกนัยๆว่าเขาไม่ต้องการจะอยู่ฝ่ายเดียวกับสัตว์ประหลาดน่ากลังตนนี้ ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็พบว่านี่มันเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจมากทีเดียวสำหรับหัวหน้ากองกำลังเกิดใหม่ที่มีพลังน้อยที่สุด

“เอ๋ พันธมิตรสินะ”
[ถึงแม้ว่านายจะเป็นกองกำลังที่มีจำนวนน้อยที่สุด แต่ว่านายก็สามารถจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระที่สุดในหมู่เทพด้วยกัน ไม่มีใครจะเพิกเฉยตัวนายได้ แน่นอนวาฉันก็ด้วย ฉันอยากที่จะมีความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันกับนาย]
“ช่วยพูดให้ชัดหน่อยสิ”
[เป้าหมายแรกก็คือกวาดล้างกองทัพจรัสแสงแล้วก็สวนอาทิตย์อัสดง จากนั้นเราก็จะแบ่งโลกของกองกำลังทั้งสองกองกำลังนั่นเท่าๆกัน ฉันก็จะได้มีมานาที่มากพอจะคงสภาพตัวเองได้ ส่วนนายก็จะเพิ่มระดับพลังได้เช่นกัน ส่วนเป้าหมายต่อจากนั้นคือ….]

ยูอิลฮานรู้ในเป้าหมายนี้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องฟังอะไรอีก

“ลบล้างสวรรค์สินะ”
[ดูดกลืนสวรรค์และทำให้โลกของนายเป็นโลกลำดับที่หนึ่ง นายก็น่าจะกลายเป็นพระเจ้า นายจะกลายเป็นผู้สร้างคนใหม่! และจากนั้นฉันก็จะเป็นศัตรูของนาย]
“แล้วนี่นายจะไม่สวมหนังแกะแล้วพูดอะไรอย่างเป็นพันธมิตรไปตลอดกาลงั้นหรอ?”
[นี่มันคือธรรมชาติของฉัน ฉันซื่อสัตย์กับความปรารถนา แค่คิดว่าผู้สร้างคนใหม่จะมีรสชาติยังไงก็ทำให้ฉันคลั่งแล้ว]

ยูอิลฮานได้แต่จบด้วยการหัวเราะออกมา

“แล้วนายไม่คิดว่าฉันจะไปหาซาตานงั้นหรอ?”
[ถ้านายพูดแบบนั้นเพราะนายจำได้ว่าเทวดาตกสวรรค์พยายามจะปกป้องนายล่ะก็นะ… คนๆนั้นจะไม่มีการร่วมมือใดๆแน่ นั่นมันก็เพราะนายสมบูรณ์แล้ว มันก็เหมือนกับคนที่กำลังรอให้พิซซ่าในเตาอบสุกดีนั่นแหละ หากว่าพิซซ่านั่นสุกแล้วนายคิดว่าคนๆนั้นจะปล่อยทิ้งไว้งั้นหรอ?]
“เป็นการเปรียบเทียบที่สมกับเป็นนายดีนะ”

ยูอิลฮานก็แค่คิดเล่นๆไปเท่านั้น เขาไม่ได้คิดจริงๆอยู่แล้วว่าเขาจะไปเป็นพันธมิตรกับกองทัพจรัสแสง จริงๆแล้วการที่พวกนั้นมาปกป้องเขายิ่งทำให้เขารำคาญด้วยซ้ำไป ยูอิลฮานปกป้องตัวเขาเองได้อยู่แล้ว แต่เจ้าพวกนั้นกลับมาทำอะไรไร้ประโยชน์ไปซะได้

ยูอิลฮานไม่เคยคิดถึงสถานการณ์ที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือเลยสักนิด นั่นมันก็เพราะตลอดเวลาเขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกมาก่อน เพราะแบบนี้ถึงทำให้เขาแข็งแกร่ง เพราะแบบนี้ถึงทำให้เขายืนได้โดยลำแข้งตัวเอง ยืนได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น

เพราะแบบนี้ทำให้

“ขอโทษด้วยนะแต่ฉันขอปฏิเสธในข้อเสนอนี้”

เขาไม่จำเป็นต้องให้มอนสเตอร์นี่ช่วย

“ฉันจะทำตามการตัดสินใจของฉันเอง โลกล่มสลายงั้นหรอ? นายไม่มีอะไรกินงั้นหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉันนี่ ตราบใดที่โลกของฉันยังคงอยู่ฉันก็ไม่มีปัญหานี่ แล้วกหากพวกนายหรือใครมายุ่งย่ามกับฉันถ้างั้นฉันก็แค่จะลบพวกนายออกไป ฉันคิดว่านายคงจะเข้าใจในตัวฉันผิดไปแล้วนะ นายรู้อะไรไหม? ตัวฉันน่ะเป็นคนแบบ”

เขาได้ยิ้มออกมา

“เล็กจ้อยมากๆเลยนะ”
[เล็กจ้อยงั้นหรอ? งั้นนายก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในคนเล็กจ้อยนั่นแหละ แต่ว่านะนายในตอนนี้น่ะ… จะปกป้องโลกและคนของนายได้งั้นหรอ?]
“อืมม สำหรับตอนนี้มันก็คงจะยากนะ”

สำหรับการยืนอยู่ต่อหน้าตัวตนข้างหน้าเขานี้ ยูอิลฮานรู้สึกได้เลยถึงความต่างของพลัง

ในตอนนี้เขาไม่อาจจะเอาชนะตัวตนข้างหน้านี้ได้แน่ๆ เหตุผลที่ยูอิลฮานเอาชนะมิคาเอลได้นั่นมันก็เพราะว่าเขามีข้อได้เปรียบเรื่องธาตุเท่านั้นเอง แต่ว่าหากเป็นการเอาชนะมอนเตอร์บ้าที่ปล่อยแรงกดดันมานาทรงพลังแบบนี้ออกมาจากร่างกายได้โดยไม่ใช้อาร์ติแฟคหรือข้อได้เปรียบด้านธาตุมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้

“แต่ว่าฉันก็ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก ฉันกระทั่งป้องกันไม่ให้นายเข้ามาในโลกของฉันได้”
[ไม่หรอก ฉันไม่ได้คิดที่จะสู้กับนายเลย ฉันก็แค่อยากจะให้นายฟังในข้อเสนอของฉัน เพราะว่าในเร็วๆนี้]

มอนสเตอร์ได้ยิ้มออกมา ปากใหญ่ๆของเขาได้เปิดกว้างออกมาจนเห็นฟันจำนวนมากภายในปากและหัวเราะออกมา

[นายก็จะรู้ได้เอง คนพวกนั้นน่ะน่ารังเกลียดยิ่งกว่าฉันอีก ต่อให้นายอยู่เฉยๆสงครามก็จะเข้าไปหานายเอง จำข้อเสนอนี้ของฉันเอาไว้ให้ดี ฉันจะรอคอยคำตอบจากนายนะ]

ประตูปราสาทได้เปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ยูอิลฮานได้หันหน้าไปพร้อมกับยูอิล มอนสเตอร์ก็ยังคงหัวเราะออกมา

[มันคงจะไม่นานนักหรอก]
“ฮึ่ม”

ประตูปราสาทได้ปิดลงและแรงกดดันที่น่ากลัวก็ได้หายไปพร้อมๆกับปราสาท สกิลสวนกลับของยูอิลฮานก็ได้มาถึงเลเวล 69 แล้ว

[จบแล้วหรอ? จบแล้วสินะ?]
[งั้นก็มาเล่นกับเราได้แล้ว]

เหล่านักล่าที่รอให้ยูออิลฮานหมดธุระได้พุ่งเข้ามาโจมตียูอิลฮานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แน่นอนว่า ‘เล่น’ นั่นน่าจะหมายถึงการกินเนื้อของคนๆนั้นไป ยูอิลฮานก็ได้ยิ้มกลับไปเช่นกันและจัดการกวัดแหว่งหอกของเขา

ค่าประสบการณ์ได้หลั่งไหลเข้ามาในทนัที แต่ว่าการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำแบบนี้ทำให้ไม่ได้ค่าประสบการณ์มากนัก

“ฉันบอกว่าช่องเก็บของฉันเต็มไปแล้วไง พวกนายนี่ไม่ฟังกันเลย”
“พ่อครับ กลับกันเถอะ ผมง่วงแล้ว”
“ได้เลย ตอนนี้พ่อก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”

“ถ้างั้นเรากำลังจะไปไหนกันหรอครับพ่อ?”
“แน่นอนสิว่าต้องเป็นที่ดาเรย์”

“ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ปัญหาเล็กๆนะครับพ่อ!”
“นี่ลูกเริ่มต่อล้อต่อเถียงพ่อแล้วนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี