Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 314

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 314
บทที่ 314 – ก็เหมือนๆกับฉันนั่นแหละ (6)

เมื่อก่อนยูอิลฮานก็เคยได้สร้างกับดักแห่งการทำลายมาหลายต่อหลายอัน เขากระทั่งปรับแต่งพวกมันตามแนวทางของเขาอีกด้วยซ้ำไป

แน่นอนเรื่องพวกนั้นได้ทำให้ทูตสวรรค์ต้องตกตะลึง แต่ว่าสำหรับยูอิลฮานในตอนนี้เขาอายเกินที่จะพูดว่ากับดักแห่งการทำลายที่เขาสร้างขึ้นพวกนั้นเป็นฝีมือของเขา

‘ไม่ใช่แค่เพื่อจะเอาชนะพระเจ้าเท่านั้น ฉันจะต้องสร้างดันเจี้ยนขึ้นมา… ป้องกันการแทรแซงจากภายนอกพร้อมทั้งดักจับมอนสเตอร์ทุกๆตัวที่เข้ามาได้อย่างอิสระ’

พอคิดดูแล้วนี่มันดูน่าสนใจจริงๆ ในตอนแรกที่เขาได้สร้างดันเจี้ยน เขาก็แค่ทำมันขึ้นเพื่อความปลอดภัยกับชีวิตตัวเองก็เท่านั้น แต่ว่ามาในตอนนี้เขากำลังจะทำมันตามใจตัวเองในฐานะที่เป็นหัวหน้ากองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงคนที่ห้า

“ฟู่… ดีมาก”

ส่วนหนึ่งของค้อนที่ตีลงไปบนทั่งได้แยกออกมาจากค้อนและกลายมาเป็นของเหลวถูกดูดเข้าไปภายในเตาหลอม และกลายเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งที่ผสมเข้ากับโลหะภายในเตาหลอมนั่น ริมฝีปากของยูอิลฮานได้โค้งขึ้นมาเป็นรอยยิ้มเล็กๆ

“ใช่แลว อย่าปฏิเสธมานา แกต้องเหนือกว่ามานาและเก็บมานาเอาไว้”

โลหะผสมที่เกิดจากอัตราส่วนจำนวนมากภายในเตาหลอมได้เปลื่ยนไปมาระหว่างความเป็นของแข็ง ของเหลว และแก๊ซอย่างอิสระ

เนื่องจากมันได้เกิดขึ้นมาจากโลหะจำนวนนับไม่ถ้วนและรวมไปถึงสิ่งที่ไม่ใช่โลหะด้วย จึงทำให้ยากที่จะเรียกมันว่า ‘โลหะผสม’ แต่ถึงแบบนั้นมันก็คือโลหะอย่างแน่นอน จากประสบการณ์๕วามรู้ของยูอิลฮานที่ได้จัดการกับโลหะมาจำนวนนับไม่ถ้วนได้ทำให้เขามั่นใจ

“ก่อนหน้านี้ฉันเปลื่ยนแปลงได้แค่เฉพาะสิ่งที่มีอยู่แล้วเท่านั้น”

ภายในที่ทำงานนี้ได้เต็มไปด้วยเสียงดังของค้อนที่กระทบกับโลหะดังสะท้อนออกมานับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่ายูอิลฮานเขาจะไม่ได้สะบัดแขนเลยสักนิด แต่ว่าเสียงก็ไม่ได้หยุดลง นี่มันเพราะว่าโลหะผสมได้ปรับเปลื่ยนรูปร่างและถูกบีบอัดลงไปในทุกๆครั้งที่ทำเสียงออกมา ทุกๆครั้งที่ค้อนตกลงไปกระทบความหนาแน่นของมานาภายในโลหะได้มากยิ่งขึ้น

“ยังไงก็ตามตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว”

สกิลประกาศิตได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว สกิลนี้คือสกิลที่จะทำให้เขาสลักความตั้งใจของเขาลงไปเป็นความจริงของโลกได้ ‘นี่ไม่ใช่คำสั่งเด็ดขา’ หรือ ‘สกิลพลังคำพูด’ อย่างที่ได้เห็นจากนิยายแฟนตาซีเก่าๆ สกิลนี่มันลึกซึ้งและล้ำลึกกว่านั้นมาก คนที่จะเข้าใจมันได้มีเพียงแค่ผู้ที่มีสายตาที่มองผ่านโลกและเห็นในทุกๆสิ่งเท่านั้น

“แกจะฟื้นตัวและกลืนกิน”

โลหะผสมได้ปล่อยแสงแสบตาออกมาและเริ่มเผาไหม้ เพลิงนิรันดร์ที่หายใจและเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียวกับยูอิลฮานได้ส่งเจตจำนงและมานาเข้าไปในโลหะผสมเพื่อเปลื่ยนแปลงมัน

[ย่ะห์]

เมื่อได้รับมานาไปโลหะผสมได้ขยับไปมาขณะที่อยู่กลางอากาศและเริ่มกลายเป็นจังหวะที่รุนแรงยิ่งขึ้น เปลื่ยนรูปร่างไปมากมายหลายต่อหลายครั้ง ในเวลาเดียวกันนี้ชั้นภายในของมันก็ถูกแบ่งออกเป็นร้อย พัน หมื่น แสนและแม้กระทั่งล้านชั้นโดยที่ในแต่ล่ะชั้นก็มีวงเวทย์ถูกสลักเอาไว้

“แกจะต้องดึงดูดและกักขัง”

ถัดจากชั้นของโลหะได้มีอีกชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นมาพร้อมๆกับที่เขาพูด มันกำลังถูกเติมเต็มฟังก์ชั่นการทำงานของมันในฐานะอาร์ติแฟคที่สร้างดันเจี้ยน

ด้วยความรู้ที่กว้างขวาง ประสบการณ์และมานาของยูอิลฮานได้ทำให้ขั้นตอนการสลักพลังลงไปเสร็จลงในเวลาไม่นาน

“แกจะต้องขัดขวางและควบคุม”

นี่คือประกาศิตสุดท้ายของเขาแล้ว คมมีดลับที่เขาได้ลับคมเอาไว้เพื่อที่จะจัดการพระเจ้า เนื่องจากฟังก์ชั่นที่ละเอียดอ่อนที่สุดและทรงพลังที่สุดของมันได้ทำให้การเปลื่ยนแปลงเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ไม่ว่าจะยังไงในท้ายที่สุดมันก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน

วัตถุดิบที่ขาดไปได้ถูกเตาหลอมเสริมเข้ามา ส่วนวัตถุดิบส่วนเกินก็ถูกส่งกลับคืนเช่นกัน โลหะผสมได้หมุนวนอยู่กลางอากาศและในท้ายที่สุดก็แข็งตัวลง แต่ในทางกลับกันแสงที่มันปล่อยออกมาได้น่าพิศวงยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม และหลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีมันก็ไม่มีการเปลื่ยนแปลงอีกต่อไปแล้วทำให้เพลิงนิรันดร์ได้แยกตัวออกมาจากการสร้าง

[กับดักแห่งการฟื้นคืนเสร็จสมบูรณ์]
[กับดักแห่งการฟื้นคืน]
[ระดับ – เทพ]
[อาร์ติแฟคที่ถูกยูอิลฮานจ้าวแห่งดราก้อนเนสสร้างขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่มี มันจะดึงดูดและควบคุมมอนสเตอร์ที่อ่อนแอ เสริมพลังให้กับพวกมัน และกระทั่งผลิตมอนสเตอร์ทุกชนิดที่มีในบันทึกของยูอิลฮาน และยังมีพลังในการควบคุมที่เหนือกว่ามานา ไม่มีใครจะควบคุมมันได้นอกจากพลังของยูอิลฮาน นี่คือสิ่งที่สมบูรณ์แบบในตัวแล้ว แต่ว่าอาร์ติแฟคนี่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของทั้งหมด]

อิชจาร์ไม่อาจจะทนเงียบได้อีกต่อไป

[นี่มันถูกสร้างแทบจะในทันทีเลย]
[งดงามจริงๆ]
“แน่นอนอยู่แล้ว ก็ดูสิว่าใครเป็นคนทำมันขึ้นมา?”

ยูอิลฮานได้ยิ้มอย่างพอใจออกมาและเอาอาร์ติแฟคที่สมบูรณ์แล้วมาวางลงบนฝ่ามือ ยังไงก็ตามหลังจากได้เห็นโลหะผสมในรูปร่างลูกบาศก์มิสทิคก็ถามออกมา

[นายท่าน นี่รวมการเอนชานท์วิญญาณเข้าไปด้วยแล้วหรอ? แต่ทำไมฉันถึงได้ไม่รู้สึกถึงจิตวิญญาณจากมันเลยล่ะ?]
“ก็แน่สิ ฉันยังไม่ได้เอนชานท์จิตวิญญาณอะไรเข้าไปนี่นา”
[ทั้งๆที่นายท่านใช้การเอนชานท์วิญญาณไปแล้วเนี้ยนะ?]

[นี่ท่านไปถึงระดับที่สร้างวิญญาณได้แล้วงั้นหรอนายท่าน!?]
“ยังหรอ หากฉันทำได้ฉันก็คงกลายเป็นผู้สร้างคนใหม่ไปแล้ว แต่สำหรับการหว่านเมล็ดพันธ์เล็กๆลงไปพอทำได้อยู่”
[ฉันคิดว่าท่านจะเป็นผู้สร้างคนใหม่ไปซะแล้วสิ…]

[แต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกแปลกๆกันนะ? ฉันรู้สึกเหมือนกับสตินึกคิดของฉันกำลังจดจ่ออยู่กับมันล่ะ]
“แน่สิ เมล็ดพันธ์วิญญาณยังควบคุมอาร์ติแฟคนี่ไม่ได้ เพราะงั้นฉันก็เชื่อมต่อเธอเข้าไปด้วยไง สุดท้ายแล้วป้อมปราการลอยฟ้ากับป้อมปราการผู้พิทักษ์จะทำหน้านี่เป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่แล้วก็จะเกิดใหม่ขึ้นเป็นตัวควบคุมอาร์ติแฟคทั้งหมดนี่ผ่านเธอไงล่ะ”

[นี่นายท่านทำบ้าอะไรลงไปเนี้ย!]
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใจเย็นก่อนนะมิสทิค”

“คิดว่าฉันจะให้ร่างกายเธอฟรีๆงั้นหรอ? นี่คือราคาที่เธอจะต้องจ่ายแลกมาก! ไม่เป็นไรหรอกนะ เธอทำได้อยู่แล้ว เธอจะกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ควบคุมดันจี้ยนทั้งหมดเชียวนะ!”
[อย่าเอาฉันไปเป็นตัวตนยิ่งใหญ่อะไรนั่นมัวๆตามที่นายท่านต้องการสิ!]
“จริงๆนะ นั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันฝันเอาไว้ตั้งแต่ที่ฉันได้สร้างป้อมปราการลอยฟ้าแล้ว!”
[งั้นก็อย่ามาซ่อนเรื่องแบบนี้เอาไว้สิ!!!]

[ฉันเจ็บหัวแล้วนะ! นายท่านบ้าที่สุด!]
“อดทนเอาไว้ ลองคิดถึงร่างกายของเธอดูสิ! ร่างกายสุดสวยเพรียวบาง แล้วก็มีพลังในการควบคุมเครือข่ายที่เชื่อมต่อจิตสำนึกจำนวนนับไม่ถ้วน!”
[นี่ที่จริงนายท่านสร้างร่างกายให้ฉันนั่นมันก็เพราะท่านอยากจะให้ฉันควบคุมดันเจี้ยนทั้งหมดสินะ?]
“ใช่สิ”
[ท่านมันปีศาจ!]

“นี่คืออาร์ติแฟคที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านพระเจ้า ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะใช้เร็กน่าทำอะไร แต่ว่าในโลกที่มีกับดักแห่งการฟื้นคืนอยู่ เขาจะไม่อาจแทรกแซงกับดักแห่งการทำลายใดๆได้”
[นายท่าน พอมาคิดดูแล้วตอนแรกที่ท่านใช้ประกาศิตสร้างกับดักแห่งการฟื้นคืน ท่านได้พูดว่า ‘ฟื้นฟูและกลืนกิน’ ไม่ใช่หรอ?]
“ใช่แล้ว เมื่อกับดักแห่งการฟื้นคืนทำงาน มันจะทำการดูดมานารอบๆตัวมาเพื่อเพิ่มขนาดของมันเหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตและสุดท้ายก็จะสร้างกับดักแห่งการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ด้วยการครอบคลุมกับดักแห่งการทำลาย หรือพูดอีกอย่างก็คือแค่มีหนึ่งอันต่อหนึ่งโลกก็พอแล้ว!”

[แล้วโดยปกติแล้วกับดักแห่งการฟื้นคืนอันใหม่ทุกๆอันก็จะมีเมล็ดพันธ์วิญญาณอยู่ด้วยใช่ไหม?]
“ฉันก็คิดแบบนั้นนะ”
[แล้วเพื่อเป็นการควบคุมกับดักแห่งการฟื้นคืน เพราะงั้นพวกมันก็จะเชื่อมต่อเข้ากับสตินึกคิดของฉันในทันทีถูกไหม?]
“มิสทิค… เธอนี่มันฉลาดจริงๆเลยนะ ฉันเลือกถูกจริงๆที่ให้เธอมาเป็นแกนกลางของระบบนี้”
[ท่านมันปีศาจ! ปีศาจร้าย! ซาตาน! ท่านมันสัตว์ประหลาด! พวกโรคจิต!]
“ตอนนี้ฉันกำลังคิดจะสร้างร่างกายให้เธอแล้วล่ะ”
[…]

“แต่ว่าฉันไม่คิดจะใช้เรื่องนี้มาเป็นเหงื่อล่อให้เธอทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อหรอกนะ”
[ถ้างั้น…]
“ร่างกายของเธอน่ะ ฉันจะทำให้มันยอดเยี่ยมจนมากพอที่จะสามารถควบคุมดันเจี้ยนทั้งหมดได้และกระทั่งต่อสู้ได้ด้วยตัวเองด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี