“อ่า…”
มิสทิคได้มองร่างตัวเองในกระจกและส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ ภาพที่สะท้อนกลับมาคือร่างของหญิงสาวงดงามดูบอบบาง เธอมีเรือนผมสีดำราวกับเส้นไหมพร้อมด้วยนัยน์ตาสีม่วงอ่อนที่ให้ความรู้สึกที่ลึกลับ มันดูไม่เหมือนกับนิสัยตามปกติของมิสทิคที่ชอบไร้สาระเลย!
แม้กระทั่งตัวมิสทิคเองเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อและจ้องเขม็งที่กระจก ในทุกๆครั้งที่อารมณ์เธอเปลื่ยนไป สีหน้าของเธอก็จะเปลื่ยนตามไปด้วย เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่านี่คือร่างของเธอที่อยู่ในกระจกแน่ แต่ว่าเธอก็คิดว่ามันยังยากจะยอมรับ
“เป็นไปได้ยังไงที่ท่านทำร่างกายที่งดงามแบบนีได้ด้วยร่างของพวกผู้ชายเน่าเหม็น… ยิ่งกว่านั้นนี่คือฉันจริงๆน่ะหรอ? อ่า…”
แม้กระทั่งน้ำเสียงที่เธอพูดออกมายังไม่คุ้นหูเลย ความรู้สึกที่กล่องเสียงสั่นเป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้พบเจอมาก่อนเลย นี่มันก็เพราะว่าเธอได้ถูกยูอิลฮานฆ่าไปในทันทีที่เกิดขึ้นมา
“สุดยอดมาก… แม้แต่เสียงก็ยอดเยี่ยม ลำคอก็งดงาม กระดูกก็งดงาม อกกับเอวก็ด้วย”ยูอิลฮานได้บ่นมิสทิคที่ยืนอยู่หน้ากระจกจับไปทั่วทุกๆส่วน เนื่องจากร่างใหญ่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากเทวทูตคลาส 7 กับหินพลังเวทย์คลาส 7 การสร้างมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ถึงขนาดที่ว่าหลังจากทำเสร็จแล้วเขาถึงกับรู้สึกล้าเล็กๆ
สำหรับโอโรจิอย่างน้อยก็มีจุดที่คล้ายๆกันในร่างก็คือทั้งโอโรจิกับอิชจาร์ต่างก็เป็นสายพันธ์หนึ่งของมังกร แต่ว่ามิสทิคที่เกิดขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงบนโลกของเขาทำให้ตัวเธอไม่ได้มีจุดเชื่อมอะไรกับเทวทูตรทรยศที่อาศัยอยู่ในสวรรค์เลย เพราะแบบนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างขึ้นมาให้เข้ากับเธอ
“หยุดแก้ผ้าชมตัวเองได้แล้ว ไปหาเสื้อใส่ซะมิสทิค”พิกเมเลียนคือประติมากรที่เป็นชายผู้ตกหลุมรักในผลงานของตัวเขาเอง เขาคือต้นแบบของโอตาคุคนแรกในโลกใบนี้
แน่นอนว่ายูอิลฮานก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความรู้สึกรักในผลงานที่ตัวเองได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างขึ้นมา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกรักในแง่ของเรื่องเพศอะไรแบบนั้น เพราะงั้นถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกผูกพันเล็กๆและรู้สึกพึงพอใจหลังจากสร้างร่างเปลือยเปล่าของมิสทิคขึ้นมา แต่อารมณ์ทางเพศของเขาก็ไม่ได้ขยับแม้แต่นิดเดียว
“ฉันทำเสื้อไว้ให้เธอแล้วด้วยเหมือนกัน นี่คืองานชิ้นเอกของฉันเชียวนะ เพราะงั้นจงดีใจซะที่ได้รับมันไป”มิสทิคได้ใช้มือข้างหนึ่งของเธอปิดร่างกายของเธอเอาไว้และใช้อีกมือรับเสื้อผ้ามาจากยูอิลฮาน เธอได้อุทานออกมาในทันทีที่เธอรับมาแต่กลับไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมันเลย แต่ว่าสิ่งที่ยิ่งกว่านั้นอีกก็คือข้อมูลที่อยู่ในตัวอาร์ติแฟค
จากภายนอกมันดูเป็นแค่ชุดเดรสสีขาวธรรมดาที่ดูเรียบง่าย แต่ตัวตรจริงๆในภายในก็คือชุดเกราะที่มีพลังป้องกันมหาศาลที่ได้มาจากขนปีกของรามิเอลกับไดเอล นี่มันไม่ใช่เกราะธรรมดาๆเลย
“ฉันได้เอาเอกลักษณ์ของพวกคนทรยศมาใช้สร้างมันขึ้นมา ในตอนที่เธอตั้งสมาธิไปกับการควบคุมป้อมปราการลอยฟ้า ป้อมปราการผู้พิทักษ์หรือกับดักแห่งการฟื้นคืน ชุดนี่ก็จะยังเป็นสีขาว แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอเข้าไปสู่การต่อสู้มันจะกลายไปเป็นสีดำ เอาไว้เดี๋ยวเธอก็ลองไปดูข้อมูลเอาเองอีกทีนะ… แล้วก็นี่หมวกฟาง”หมวก ‘ฟาง’ นี่ได้ทำขึ้นมาจากขนปีกที่เหลืออยู่กับเอลฮาซา เพราะงั้นจึงเป็นธรรมดาที่มันจะต้องอยู่ระดับเทพเหมือนกัน และเมื่อมิสทิคได้ใส่มันลงไปทำให้ตอนนี้เธอเป็นเหมือนกับหญิงสาวร่ำรวยที่กำลังมาเดินเล่น ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจในผลงานของตัวเองและพูดกับมิสทิคที่กำลังจับหมวกฟางอยู่
“เธอก็แค่ต้องใส่มันเอาไว้ในตอนที่ควบคุมสิ่งต่างๆภายในป้อมปราการลอยฟ้า มันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดคำนวนโดยรวมของเธอขึ้นมา”ตอนนี้การควบคุมป้อมปราการทั้งสองแห่งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกแล้ว ไมใช่แค่นั้นเธอยังรู้สึกเหมือนกับว่าเธอสามารถจะควบคุมกับดักแห่งการฟื้นคืนนับพันที่มีอยู่ในตอนนี้ได้แล้วด้วย แต่จริงๆแล้วก็คือกับดักแห่งการฟื้นคืนก็มีฟังก์ชั่นในการควบคุมตัวเองอยู่ด้วยทำให้นี่มันเป็นไปได้ แต่นี่ก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี มิสทิคได้ยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ยูอิลฮานได้ทำตามสัญญา
“ขอบคุณนะนายท่าน ท่านได้ใช้ความพยายามอย่างมากเลย… แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงดีในเมื่อนายท่านคือคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก”คำพูดเบาๆนี้ได้ทำให้ใบหน้าของมิสทิคแดงขึ้นมาทันที
“ทะ ท่านกำลังพูดอะไรกัน! ทำไมฉันจะต้องไปหาโอโรจินั่นด้วยล่ะ? มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ฉันไม่ได้สนใจเจ้างูนั่นซักนิด! เขาก็แค่ทำให้ฉันรำคาญเพราะเขาเอาแต่แกล้งฉันอยู่ตลอด!”ยูอิลฮานได้พูดออกมายิ้มๆ หลังจากมิสทิคได้เห็นใบหน้าของเขาที่ทำเหมือนรู้ทุกอย่างแล้วได้ทำให้เธอสิ้นหวังขึ้นมา เธอพ่ายแพ้แล้ว
“ฉันมันโง่เอง โง่ที่ถูกคนงี่เง่าหลอกเอาได้…”
เธอได้เดินออกไปช้าๆและกางปีกมังกรขาวออกมาจากหลัง ถึงแม้ว่าระดับพลังของร่างกายเธอจะสูงมากๆแล้ว แต่เนื่องจากระดับพลังวิญญาณเธอยังไม่สูงถึงระดับนั้นก็เลยทำให้เธอยังอยู่ที่คลาส 6
[มังกรขาว…?]นี่คือเรื่องจริง อิชจาร์ได้เงียบลงไปทันที ยังไงก็ตามมิสทิคน่าสงสารเกินกว่าจะรู้ตัวและไปหาโอโรจิด้วยตัวเอง! มาพอคิดดูแล้วว่าหลังจากนี้เธอจะโกรธขนาดไหน เขาก็คิดว่านี่มันน่าสนุกแล้ว
“เอาล่ะ ถ้างั้นฉันก็น่าจะวางรากฐานไว้ให้สำหรับอุปกรณ์ของโอโรจิสินะ? ร่างกายของเครสเช่นและฮิวลูทูน… ฟู่ว เครสเช่นมีหินพลังเวทย์อยู่ด้วย โชคดีจริงๆเลย”อิชจาร์มังกรแห่งความสิ้นหวังได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขัดยูอิลฮานอีก ยูอิลฮานคือผู้ปกครองที่อยู่ห่างไกลจากตัวเขาเองทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ!
“ท่านหลอกฉัน นายท่านนนนนนนนน!”
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที มิสทิคที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศก็ได้กลับมาพร้อมกับโอโรจิที่สีหน้าปลงๆ ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมามองทั้งสองคน พร้อมกันด้วยอ่างแห่งปาฏิหาริย์ที่เปิดรอโอโรจิอยู่
“ฉันรู้สึกเหมือนกับทั้งร่างฉันละลายไปหมดทั้งตัวเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี