Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 316

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 316
บทที่ 316 – ก็เหมือนๆกับฉันนั่นแหละ (8)

เนื่องจากโลกส่วนใหญ่ที่ยูอิลฮานได้ไปมาได้ถูกรวมเข้ากับดาเรย์ สิ่งแรกที่ยูอิลฮานทำคือการติดตั้งเอากับดักแห่งการฟื้นฟูติดตั้งไปในดาเรย์สองสามชิ้น

เนื่องจากว่ามหาภัยพิบัติขั้นที 6 เป็นเรื่องที่รุนแรงมากๆทำให้กับดักแห่งการทำลายส่วนใหญ่ต่างก็เสียพลังไปและหยุดนิ่ง มีอยู่ภูมิภาคหนึ่งที่มีกับดักแห่งทำลายที่อยู่ติดๆกันทำงานขึ้นมาพร้อมๆกันในคราวเดียวทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นจากการล้นของมานา

“โอ้ มีมานาล้นออกมาตั้งหลายอัน ไปบอกคนอื่นด้วยนะถ้าใครได้รับเศษโลหะระดับสูงมาก็เอามาให้ฉัน”
“เข้าใจแล้วนายท่าน”

เมื่อก่อนตอนที่มีการล้นของมานาเกิดขึ้นบนโลกและมีโอโรจิโผล่ขึ้นมาในภูมิภาคญี่ปุ่นด้วย นี่คือหนึ่งในอันตรายที่มากที่สุดที่เขาเจอในเวลานั้น แต่ว่าพอมาในตอนนี้ยูอิลฮานกับพรรคพวกได้กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตแล้ว การล้นของมานานั้นไม่มีค่าอะไรในสายตาพวกเขาเลย

จะมีก็แค่ฮาคาเนี่ยมที่ถูกดูบซับไปกับมอนสเตอร์กลายพันธ์ภายใต้การล้นของมานาเท่านั้นที่น่ารำคาญนิดๆ!

“ดาเรย์นี่ใหญ่ขึ้นมากจริงๆ อ๊าา ฉันหวังว่าฉันจะได้ไปเก็บกวาดดูรายระเอียดทั้งหมดได้นะ…”
“ต่อให้ท่านจะเร็วแค่ไหนนั่นันก็เป็นไปไม่ได้”
“ฉันรู้แล้วล่ะ ถ้างั้นก็แยกกันไป”

ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปพร้อมๆกับโยนกับดักแห่งการฟื้นคืนออกไปบนท้องฟ้า ด้วยสกิลประกาศิตของเขาได้ทำให้กับดักแห่งการฟื้นคืนทั้งห้าอันกระจายออกไปตามสถานที่ต่างๆภายในดาเรย์ หลังจากเขาได้เปิดใช้งาน ‘พรม’ เพื่อตรวจสอบสภาพกับดักแห่งการทำลายที่กระจายอยู่ทั่วทั้งดาเรย์อยู่แล้วและจากนั้นก็จัดการย้ายตำแหน่งบางอัน

นี่แหละ

“ดีล่ะ มันกำลังเริ่มแล้ว”

กับดักแห่งการฟื้นคืนที่ได้กระจายไปทั่วทั้งดาเรย์ทั้งหมดได้เริ่มเชื่อมต่อพลังเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเพื่อที่จะยับยั้งพลังของกับดักแห่งการทำลาย แม้กระทั่งกับดักแห่งการทำลายที่สร้างดันเจี้ยนขึ้นมาแล้วก็ยังพังลงไปและกลับคืนสู่สภาพเดิม มอนสเตอร์จากภายในได้กลายมาเป็นอิสระด้วยความรู้สึกที่สับสนแต่หลังจากนั้นพวกมันที่สัมผัสได้ถึงออร่าสงครามที่มีอยู่ในดาเรย์ก็เริ่มออกวิ่งกัน เพราะแบบนี้เองทำให้กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดในได้หยุดการทำงานลงและรอคอยการเปิดใช้งานอีกครั้ง

“ฟู่… ดีล่ะ มาต่อกันเลย”

มิสทิคที่รู้สึกได้แบบนี้ได้หันหน้าไปมองและตั้งสมาธิขึ้นมาหลังจากจับหมวกฟางขึ้นมาใส่ ในตอนนี้เองมานาที่ถูกกับดักแห่งการฟื้นคืนที่กระจายอยู่ตามมุมต่างๆทั่วโลกได้เริ่มเปลื่ยนมาเป็นกับดักแห่งการทำลาย

กับดักแห่งการทำลายที่กำลังดูดกลืนมานาและสสารรอบๆตัวได้ถูกมานาจากกับดักแห่งการฟื้นคืนกลืนกินทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงพื้นฐานไป โอโรจิได้แต่ตกใจกับการควบคุมมานาที่น่าทึ่งนี่ของมิสทิค

“โฮ่… ควบคุมมานาได้ยอดมาก”
“เพราะไอเทมเสริมน่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
“เงียบหน่อยสิ ฉันใช้สมาธิอยู่”

กระบวนการต่างๆได้เป็นไปอย่างราบรื่นต่างจากคำพูดของเธอ กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดที่กระจายอยู่ทั่วดาเรย์กำลังวิวัฒนาการขึ้น! วิวัฒนาการจากกับดักแห่งการทำลายไปเป็นกับดักแห่งการฟื้นคน – มีคำสั่งใหม่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากที่ทำการปฏิเสธในบันทึกดั้งเดิมที่เคยมีมาตลอดและพัฒนาขึ้นไปตามความต้องการของยูอิลฮาน!

แน่นอนกระบวนการนี้ได้ดูดกลืนมานาภายในดาเรย์ไปเป็นจำนวนมหาศาล แต่ว่านี่ก็แค่ทำให้การเกิดของมอนสเตอร์ลดช้าลงเพราะงั้นนี่ไม่ใช่เรื่องแย่เลย

[สกิลประกาศิตได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 56]
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 85]
[สกิลการปรับตัวนักท่องมิติได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 83]
[สกิลบัญชาการลูกเรือได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 89]“ทำได้ดีมากมิสทิค! มาทำมันให้จบๆไปก่อนที่จะไปโลกอื่นกันเถอะ!”
“โอ้ คลื่นมานาดูน่าประทับใจมาก”
“เงียบไปทั้งคู่เลย!”

เพราะการกระทำที่ยิ่งใหญ่ของมิสทิคนี้ได้ทำให้แม้กระทั่งสกิลของยูอิลฮานก็ยังพัฒนาขึ้นมาเองอย่างาก ในตอนนี้เองได้มีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวเขา

‘งั้นถ้าเป็นสมาชิกดราก้อนเนสฆ่าศัตรูล่ะ…’

เขาได้ปิดตาลงทำการวิเคราะห์บันทึกของตัวเอง จากนั้นก็พบกับคำตอบอย่างรวดเร็ว ที่เขาได้รับมามันไม่ใช่แค่บันทึกจากศัตรูแต่ยังรวมไปถึงค่าประสบการณ์จำนวนเล็กน้อยอีกด้วย ในตอนนี้เนื่องจากว่ามังกรในสังกัดดราก้อนเนสได้ทำการต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ทำให้บันทึกของเขาถูกเก็บสะสมมากขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

‘เพราะแบบนี้สินะถึงได้ทำให้หัวหน้าของแต่ล่ะกองกำลังอยู่ในระดับที่ต่างไปจากสมาชิกอย่างสิ้นเชิง’

เขาได้เผลอพึมพัมออกมา หัวหน้าของแต่ล่ะกองกำลังต่างก็เป็นตัวตนที่น่ากลัวกันทั้งนั้น เขารู้ถึงมันได้ตั้งแต่ที่ได้เห็นความโลภแล้ว

พัฒนาขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดจากการกระทำของสมาชิก… นี่มันหมายความว่าหัวหน้ากองกำลังใหม่ล่าสุดคนที่ 5 ของยูอิลฮาน เป็นคนที่เสียเปรียบมากที่สุด

เดี๋ยวสิ

ถ้างั้นทำไมมิคาเอลถึงมีพลังได้เทียบเท่ากับซาตานที่เป็นหัวหน้ากองทัพจรัสแสงได้ล่ะ?

‘หรือว่านั่นเป็นเรื่องโกหกกันนะ?’

ไม่สิ จากที่ได้เห็นถึงความหยิ่งยโสของมิคาเอลแล้วเขาไม่น่าจะเป็นคนที่โกหกในเรื่องแบบนี้

‘มันจะเป็นไปได้ไหมนะที่พระเจ้าได้ทิ้งบันทึกและสิทธิทั้งหมดไว้ให้มิคาเอลจัดการดูแล’

แต่ว่ามิคาเอลก็อ่อนแอจนเกินไปที่จะเป็นแบบนั้น ไม่ว่ามิคาเอลจะเสียเปรียบในด้านธาตุกับยูอิลฮานยังไง เขาก็ไม่น่าจะแพ้ยูอิลฮานง่ายๆแบบนี้ ถ้างั้นก็เหลืออยู่อีกแค่คำตอบเดียวแล้ว

การแบ่งแยก

‘พอมาคิดดูแล้วถึงราฟาเอลจะถูกฉันฆ่าไป แต่เขาก็ทรงพลังมากจริงๆ เขามีพลังในการรักษาที่เหนือยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตคลาส 7 ใดๆไปจนเทียบกันไมติดเลย หากว่าสถานการณ์ในตอนนั้นไม่ได้เข้าข้างฉัน ฉันก็คงไม่มีโอกาสได้ฆ่าเขาแน่’

“นายท่านทำไมท่านถึงขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ? ดูผู้หญิงคนนั้นคร่ำครวญสิ มนุษย์เรื่องนี่ว่าปรากฏการณ์ใช่ไหม?”
“แน่สิ นี่คือฉากที่ฉันพลาดไม่ได้ แต่ว่านะเธอจะยิ่งคร่ำครวญมากยิ่งกว่านี้อีกแน่ เพราะงั้นฉันมีโอกาสอีกมากที่จะดูมัน โอโรจิช่วยเตรียมป็อบคอร์นทีสิ”
“ฉันสาบานเลยว่าจะจัดการพวกนายสองคน”

“ดีล่ะ ถ้างั้นมาดูกันว่ากับดักได้ผลดีไหม”
“ฮึ่ม นี่ท่านกำลังดูถูกความสามารถของฉันงั้นหรอ?”

[หืม!?]
[ก๊าวซซซ นั่นมันกับ…]
[ข้าต้านทานไม่ได้…!]
[ทั้งๆที่ฉันคิดจะต้าน…!]
[นี่มันโศกนาฏกรรม!]

“การเล่นซ่อนแอบจบลงแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
“นายท่านเลวร้ายที่สุด”
“โอ้วว ฉันรู้ถึงพลังแล้วแต่ว่านี่มัน…. เจ้าพวกนี้ถูกดึงดูดกันจนหมดไม่ว่าจะเลเวล 250 หรือ 270 ก็ตาม”
“ในเมื่อถึงขนาดสามารถขังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคลาส 4 เลย”
“สิ่งมีชีวิตชั้นสูง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี