Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 326

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 326
บทที่ 326 – วันสิ้นโลก (2)

ถึงแม้ว่าแต่ล่ะกองกำลังจะมีการปะทะกันครั้งใหญ่อยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่ากองกำลังเหล่านั้นจะปล่อยให้โลกต่างๆว่างเปล่าไปซะหมด ยังไงก็ตามมิเรย์ไม่ได้สร้างประตูมิติแค่แห่งเดียว แต่เธอได้ได้สร้างประตูมิติหนึ่งร้อยบานที่เชื่อมต่อไปในโลกที่ต่างกันหนึ่งร้อยโลก

[นะ นี่มันอะไรกัน!?]
[ท่านซาตานเพิ่งจะ… บ้าเอ้ย นี่มันคนที่ฉันรู้จักนี่!]
[ยูอิลฮาน เป็นยูอิลฮาน! เวรเอ้ย พวกเขารู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว!]

หากมีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงสิบคนในแต่ล่ะโลกก็รวมเป็นพันคน และหากมีร้อยคนต่อหนึ่งโลกก็จะรวมเป็นหนึ่งหมื่นคน นี่มันเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าที่กองกำลังในปัจจุบันของดาเรย์จะเผชิญหน้าได้ แต่โชคดีที่ว่าที่ดาเรย์มียูเรียลที่อยู่ในคลาส 8 รวมไปถึงคนอื่นๆที่มีพลังเทียบเท่าคลาส 7 อยู่เป็นจำนวนมาก

[นับจากนี้ต่อไปมานาของพวกนายจะไม่มีวันหมดลง]

ยูอิลฮานได้พูดต่อไปทั้งๆที่มองดูสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ยังอ้าปากค้างอยู่

[เพราะงั้นโจมตีไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องสนใจผลข้างเคียง ฉีกกระชากทุกๆอย่างที่เข้ามา ส่วนที่เหลือฉันจะจัดการให้เอง]

เมื่อยูอิลฮานพูดจบเขาก็ได้ขว้างหอกเพลิงในมือออกไป เมื่อมาถึงหน้าประตูมิติหนึ่งร้อยบานหอกก็ได้แยกออกเป็นเจ็ดอันและเข้าไปฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงภายในประตูมิติแต่ล่ะบาน ผลจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้ก็คือ

[ได้รับอำนาจเหนือโลกระดับสูงฟอลเลนอีดิทที่ถูกปกครองโดยกองทัพจรัสแสง กำลังดำเนินการหลอมรวม]
[ได้รับอำนาจเหนือโลกระดับสูงดีเชสที่ถูกปกครองโดยกองทัพสวรรค์…]
[ได้รับอำนาจเหนือโลกระดับสูง….]

เขาสามารถจะรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกดาเรยืได้เลย ประตูมิติที่เชื่อมไปสู่เจ็ดโลกไดด้ปิดลงจากการเสียเจ้าของไปในทันที และโลกระดับสูงเหล่านี้ก็ได้มีเจ้าของคนใหม่พร้อมปรากฏขึ้นมาข้างๆดาเรย์และเริ่มการหลอมรวมเข้ากับดินแดนนี้

นี่คือการหลอมรวมมิติขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีหัวหน้ากองกำลังคนไหนเคยคิดเคยฝันมาก่อน! นี่แหละคือสิ่งที่ยูอิลฮานกำลังทำ

“อ๊ากกกกก ปวดหัวววว”
“ทนไว้มิสทิค ยังมีโลกเหลืออยู่อีก 22,993 โลก”
“โอโรจิ เจ้าบ้าาาา!”

มีโลกระดับสูงเจ็ดโลกกำลังหลอมรวมเข้ากับดาเรย์ มันไม่มีทางที่เธอจะไม่ได้รับภาระทางจิตใจแน่อยู่แล้ว! ยูอิลฮานได้รับเอาภาระส่วนใหญ่มาไว้กับตัวเขาเองมากเท่าที่สกิลปกครองของเขาสามารถจะจัดการได้ มีแค่บางส่วนที่เขาไม่อาจจะจัดการได้เท่านั้น เขาถึงจะส่งไปให้มิสทิค

ยังดีที่เขาได้อัพเกรดตัวเธอขึ้นมาก่อน แล้วก็ยังดีที่เขาได้ทำอาร์ติแฟคระดับเทพให้กับเธอ!

“โลกได้กว้างใหญ่ขึ้นแล้ว”
“ในที่สุดแล้วฉันก็ได้เข้าใจสิ่งที่หัวหน้ากำลังทำอยู่ นี่มัน…!”

พรมได้ขยายออกไปดูดซับผืนดินใหม่ที่หลอมรวมเข้ากับโลกด้วยความเร็วที่สูงมาก และมานาที่ถูกพรมดูดมาก็ถูกส่งมาให้ยูอิลฮาน มิสทิคแล้วก็คนอื่นๆ

พรมได้เปิดใช้งานเวทย์ๆหนึ่ง นี่คือเวทย์การดูด เป็นการฝืนดูดเอาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกทั้ง 93 โลกที่ถูกประตูมิติเชื่อมต่อเพื่อดึงคนพวกนี้กลับมาที่ดาเรย์!

“จะไม่มีใครรอดไปได้!”

ฉากที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตูมิติได้ถูกพลังแห่งการดูดดูดเข้ามาที่ดาเรย์โดยไม่อาจจะต่อต้านได้เลย

พวกเขาต่างก็ตื่นตระหนกและตกใจ ยิ่งหลังจากได้เห็นสมาชิกดราก้อนเนสมองมาที่พวกเขาด้วยจิตสังหารก็ได้ทำให้พวกเขารู้สึกถึงอันตรายแล้ว แต่ว่านี่ก็สายเกินไปแล้วด้วย

“ทุกคนบุกกกกกกกกกก!”
“โอ้วววววววววว!”
[กรรรรรรรรรรรรรร!]

เสียงตะโกนจากเลียร่าเป็นการให้สัญญาณทำให้ทุกๆคนพุ่งออกไปข้างหน้า ภาพที่เหล่าคนนับพันได้พุ่งเข้าไปปะทะกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงโดยไร้ซึ่งความกลัวแม้แต่นิดเดียวได้เกิดขึ้นมาตรงหน้านี้

[ต้นกล้าพวกนี้บ้าไปแล้ว…!]
[นี่นายตั้งใจจะทำให้ทุกๆกองกำลังเป็นศัตรูนะ! ที่นี่พวกเราอาจจะแพ้ แต่ว่ากองทัพที่ท่านซาตานนำจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน…]
“ไว้ติดต่อหัวหน้าพวกนายได้ค่อยมาพูดนะ!”
[มะ ไม่นะ! ตอนนี้ท่านซาตาน….]
“ย๊ากกกกกกกกกกก!”

หอกคลื่นกระแทก เวทย์น้ำแข็ง เพลิงจากมังกร รวมไปถึงกงจักรน้ำที่ตัดส่วนต่างๆ ทั้งทูตรสวรรค์และเทวดาตกสวรรค์ก็ยังต่อสู้กลับมาเพราะไม่อยากจะตายที่นี่ แต่ว่าปัญหาของพวกเขาก็คือสนามที่ต่อสู้กันก็คือที่ดาเรย์

“อึก… พวกนายแกร่งขึ้นแล้ว บุกไป!”
“พวกเราแกร่งขึ้น!?”
“นี่มันพลังของพรม!”

ด้วยสกิลจ้าวมิติทำให้ยูอิลฮานสามารถจะลดพลังของผู้บุกรุกทั้งหมดที่เขามาได้ และเขายังสามารถจะเพิ่มพลังให้กับทุกๆคนที่ปกป้องดาเรย์ได้ด้วย

นอกไปจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากสกิลประจักษ์แจ้งและพรมทำให้มังกรที่มีเลเวลเกือบจะถึง 250 อยู่แล้วได้ถูกเสริมพลังขึ้นไปจนสามารถจะกัดฉีกกระชากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงจนตายได้เลย!

“พวกเราทำได้! พวกเราเอาชนะได้!”
“ขับไล่พวกมันไป! ฆ่าพวกมัน! ดาเรย์กำลังขยายตัว!”

ทุกๆครั้งที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงในโลกใบหนึ่งได้ถูกกำจัดออกไปจนหมด อำนาจในการควบคุมโลกใบนั้นจะถูกส่งต่อมาให้ยูอิลฮานและโลกใบนั้นก็จะหลอมรวมเข้ากับดาเรย์ในทันที พรมก็ยังเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในทุกๆครั้งที่มันขยายขนาดออกไป และเพราะมีมานามากขึ้นจากการหลอมรวมทำให้มันคนอื่นๆทรงพลังขึ้นอีก

“หัวฉันรู้สึกเหมือนจะระเบิดแล้ว! อ๊ากกกก! โอโรจิ โอโรจิ!!!”
“ชิ นายท่าน! ฉันคิดว่าเธอคนนี้ใกล้จะตายแล้ว”
“ฉันก็คิดว่าฉันก็ใกล้จะตายแล้วเหมือนกัน ให้ตายสิ! อ๊ากกก! เละเทะไปหมดแล้ว! มันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำนะ!”

เมื่อประตูมิติได้หายไปประมาณสามสิบบาน นั่นก็หมายความว่ามีโลกระดับสูงประมาณสามสิบโลกได้หลอมรวมเข้ากับดาเรย์ เพราะแบบนี้ทำให้ในที่สุดก็เกิดมหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 ขึ้นจากการที่มีมานาถูกสร้างขึ้นมาจากการหลอมรวมจำนวนมากและการพัฒนาขึ้นของดาเรย์!

ยูอิลฮานได้มองลงไปที่เปลือกโลกที่กำลังสั่นไหวและรู้ได้ว่านี่มันถึงเวลาที่เขาจะต้องเปิดใช้ไพ่ใบแรกที่เก็บไว้แล้ว เขาได้ตะโกนออกมาโดยไม่ลังเลใดๆ

[คงสภาพป้อมปราการเอาไว้! โลกใบนี้จะวิวัฒนาการขึ้นเป็นป้อมปราการรบ! ฉันได้ตัดสินใจทิศทางการเติบโตของโลกแล้ว เพราะงั้นต้องคงสภาพปัจจุบันของโลกใบนี้เอาไว้!]

ประกาศิตของยูอิลฮานดูจะไม่มีผลอะไรกับภายนอกเลย แต่ยังไงก็ตามนี่มันจะทำให้สิ่งต่างๆน่ากลัวยิ่งขึ้น โลกใบนี้กำลังอยู่ภายใต้มหาภัยพิบัติขั้นที่ 7 และแทบไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น!

โลกใบนี้ก็แค่ขยายขนาดขึ้นตามที่ยูอิลฮานต้องการเท่านั้น ความหนาแน่นของมานาในชั้นบรรยากาศได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นและสร้างเป็นมานาส่งไปให้ยูอิลฮานผ่านประกาศิตมากขึ้น

เมืองได้ขยายขนาดขึ้นมา และป้อมปราการผู้พิทักษ์และป้อมปราการลอยฟ้าที่เชื่อมต่อกับเมืองก็ได้วิวัฒนาการเพิ่มพลังขึ้นเช่นกัน มิสทิคที่เป็นศูนย์ของระบบทั้งหมดนี้ได้แต่ต้องกัดฟันเอาไว้ ยูอิลฮานก็ได้ปลอบเธอออกมา

“หลังจากเธอทนผ่านเรื่องนี้ไปได้มันจะดีขึ้นเอง!”
“โกหก นายท่านโกหก!”

โลกที่กว้างใหญ่อยู่แล้วได้ขยายขนาดขึ้นตลอดเวลาและความหนาแน่นของมานาก็กำลังเพิ่มขึ้น ฝั่งผู้คนของดาเรย์ที่กำลังสู้อยู่ได้ถูกเสริมพลังมากขึ้นตลอดเวลา ในขณะที่ฝั่งที่ถูกบังคับดูดเข้ามาในดาเรย์ได้อ่อนแอลงตลอดเวลา

“ห้านาทีแล้วนะ! อิลฮาน พวกเรายังจัดการประตูมิติไปได้ไม่ถึงครึ่งเลย… เราจะไปกันต่อเลยไหม”
“ฝากด้วยนะมิเรย์”

“เปิดอีก! มาอีกหนึ่งร้อยบาน”
“อ๊าาา โอเค!”
“ท่านหญิงเรย์น่าาาาา! ทำอะไรซักอย่างที! นี่มันบ้ากันไปหมดแล้ววววว!”

[จู่ๆเกิดอะไรขึ้นกัน… อย่าบอกนะว่ามีศัตรูบุกมาโลกนี้ด้วย…?]
[นั่นมันอะไรน่ะ? ไม่นะ ฉันเหมือนเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน… ยู ยูอิลฮาน!? อย่าบอกนะว่าที่นี่คือ!?]

“สู้! สู้แล้วก็อย่าตาย! พวกเราต้องทำแบบนี้อีกสองร้อยกว่าครั้ง!”
“พวกเราจะตาย… ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราจะตายจริงๆแน่”

[นี่มันอะไรกัน! บ้าเอ้ยย! บ้าสุดๆ!]
“ฆ่าพวกมัน!”

“สิ่งสำคัญเลยก็คือตอนนี้พวกนายแกร่งขึ้นแล้ว! บุก!”
“เขาบ้าไปแล้วววว!”
[สารเลว… กล้ามาทำแบบนี้กับเรา! ฉันไม่ให้อภัยแกแน่ ฉันจะลงทัณฑ์แกแทนซาตานเอง!]

[เพลิงแห่งนรกจงลุกไหม้ เพลิงหายนะ]
“มันไม่ได้ผลหรอก!”
[หา… ฮ่าห์!]

“กรี๊ดดดด!”
“ชิ การมารับการโจมตีแทนคนอื่นนี่ฉันไม่ชอบเลยแหะ”
[ฮ่าห์!]

[มานาแปลกๆนี่… มังกรงั้นหรอ? นายมันไม่ใช่พวกเลือดบริสุทธิ์แต่เป็นเลือดผสม!]
“ใช่แล้ว ฉันเป็นพวกเลือดผสมนั่นแหละ… แต่นายรู้อะไรไหม ตามหนังน่ะพวกที่ชอบเอาแต่พูดเรื่องเลือดแท้เลือดผสมน่ะมักจะตายก่อนเป็นคนแรกนะ!”

[คำสาปนี้เจาะผ่านการป้องกันเวทย์ของฉันมาได้? ไม่มีทางน่า ฉันไม่ยอมรับ!]
“ไม่ต้องยอมรับหรอก ก็แค่ตายๆไปซะก็พอ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี