ทำไมถึงได้มีร่องรอยบันทึกพระเจ้าไว้ในโลกที่กองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงปกครองอยู่กันล่ะ? ยูอิลฮานรู้ได้ว่าพวกสิ่งที่เรียกว่า ‘บันทึกพระเจ้า’ กลุ่มก้อนบันทึกนภาที่มีสติปัญญาแน่ แต่ว่าเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าบันทึกพระเจ้าพวกนี้จะอยู่ในโลกที่ถูกซ่อน
ไม่สิ บันทึกพระเจ้าอยู่ในโลกที่ถูกซ่อนจริงๆงั้นหรอ? บันทึกพวกนี้บอกว่ายูอิลฮานคือ ‘ผู้มอบอิสรภาพ’ และ ‘ผู้กอบกู้’ ถ้าอย่างงั้นล่ะก็…!
ยังไงก็ตามมันไม่มีเวลามาให้ยูอิลฮานได้คิดแล้ว ตอนนี้โลกเกือบๆเจ็ดพันแห่งกำลังหลอมรวมเข้ามาในดาเรย์พร้อมๆกันแล้ว มิสทิคเธอจะได้เจอกับความรู้สึกที่เหมือนตายทั้งเป็น
“นายท่าน ท่านทำบ้าอะไรอยู่กันนนนนนนน!”ยูอิลฮานได้หยุดคิดในเรื่องอื่นๆทั้งหมดและหลอมรวมโลกอย่างหมดท่า การหลอมรวมโลกหลายพันแห่งพร้อมๆกันกับปรับแต่งมหาภัยพิบัติขั้นที่ 8 ไปพร้อมๆกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ว่าเพราะจำนวนของโลกที่เขาได้จัดการลดลงไปอย่างมากเพราะวิถีแห่งจักรวาลทำให้เขาสามารถจะทำค่อนข้างสบายขึ้น มันค่อนข้างจะเป็นไปได้ทีเดียว
“ค่อนข้างจะเป็นไปได้!?”โอโรจิได้ลูบด้านบนหมวกฟางของมิสทิค ตัวมิสทิคดูเหมือนกับจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา ตอนนี้เธออย่างจะเข้าไปอัดทั้งยูอิลฮานกับโอโรจิพร้อมๆกันให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ว่ามันน่าหงุดหงิดที่เธอทำแบบนั้นไม่ได้เนื่องจากว่าในระหว่างการหลอมรวมโลกเธอจะไม่อาจขยับตัวได้เลย!
“อิลฮาน ตอนนี้เมืองกลายไปเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จำลองไปแล้ววว~”สถานที่หลักในการต่อสู้มาตลอดนั่นคือใจกลางของป้อมปราการผู้พิทักษ์ ป้อมปราการลอยฟ้าและเมือง
สถานที่แห่งนี้เป็ฯที่ที่ได้รับอิทธิพลจากบันทึกของยูอิลฮานมากที่สุด เพราะงั้นมันจึงไม่แปลกเลยที่เมืองจะวิวัฒนาการไปเพราะได้รับมานาและบันทึกใหม่ๆ ยิ่งกว่านั้นอิทธิพลของยูอิลฮานมาจากการสร้างอีกด้วย
ปัญหาเล็กๆก็คืออาณาเขตของมันกำลังขยายออกไปอย่างต่อเนื่องและแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ขยายออกไปจนแทบจะกลายเป็นอาณาจักรมากยิ่งกว่าเมืองแล้ว แต่ว่ายูอิลฮานก็ตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากกับเรื่องนี้…
“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆเลยนะ…”เลียร่าได้ตกตะลึงที่ได้เห็นการวิวัฒนาการภายในดาเรย์ มีโลกหลายพันกำลังถูกดูดเข้ามาและมีมหาภัยพิบัติเกิดขึ้นถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน… หากว่ามันไม่เกิดการเปลื่ยนแปลงขึ้นมันก็คงจะแปลกจริงๆนั่นแหละ!
“ชั้นบรรยากาศเปลื่ยนแปลงไปอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันเห็นสายรุ้งบนท้องฟ้าด้วยล่ะ”ยูอิลฮานได้หันมองไปรอบๆตัวอย่างตั้งใจและตอบคำถามของทุกๆคนที่กำลังตกตะลึงอยู่กลับไป
“…ทุกๆโลกที่ผ่านมหาภัยพิบัติขั้นที่ 8 เป็นแบบนี้กันหมดเลยใชป่ะ?”ในความรู้ของเลียร่า โลกที่เธอรู้จักว่าได้ผ่านมหาภัยพิบัติมามากที่สุดก็คือสวรรค์ เธอได้ยินว่ามันได้กลายเป็นโลกที่เหมาะให้ทูตสวรรค์และพระเจ้าอาศัยอยู่หลังจากผ่านมหาภัยพิบัติไปถึงเก้าหลัง… แต่ว่าหากนำมาเทียบกับดาเรย์ในตอนนี้แล้ว สวรรค์ก็เป็นแค่โลกที่มีขนาดใหญ่นิดๆเท่านั้นเอง
“นี่มันยังใช้คำแทนว่า ‘โลก’ ได้อีกงั้นหรอ? ด้วยมานามากขนาดนี้หากมันเปลื่ยนไปเป็นอะไรอย่างหลุมดำฉันก็จะไม่แปลกใจเลย”เลียร่าได้ขอโทษมิสทิคออกมาทันทีได้เห็นความฉุนเฉียวจากมิสทิค เลียร่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์หรือสกิลในการจัดการดูแลและควบคุมโลก แต่ว่าเธอก็ได้เห็นถึงความพยายามของยูอิลฮานกับมิสทิคที่กำลังจัดการทำให้ดาเรย์เสถียรอยู่แบบนี้ว่ามันมีมากแค่ไหน
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปเธอก็จะได้เห็นหมู่เมฆที่สร้างขึ้นจากมานากำลังลอยตัวอยู่ กลุ่มเมฆพวกนี้ดูเหมือนกับเมฆธรรมดาๆ แต่ว่าริงๆแล้วนี่คือกับดักเวทมนต์ที่ได้เปลื่ยนรูปร่างไปเพื่อใช้หยุดและโจมตีศัตรูที่เข้ามาใกล้ด้วยพลังมานาภายในที่มี ทุกๆคนที่บุกรุกเข้ามาในดราก้อนเนสจะกลายมาเป็นเป้าหมายของกับดักเหล่านี้
สายรุ้งที่พาดยาวอยู่ก็เป็นเหมือนกับกระจกแห่งการทำลายในรูปแบบธรรมชาติ เมื่อไหร่ที่ยูอิลฮานต้องการ สายรุ้งพวกนีก็จะดูดพลังงานรอบๆเข้ามาเป็นแหล่งพลังยิงเข้าใส่ศัตรู!
ไม่ใช่แค่นี้แต่ยังมีจุดแสงน้ำไม่ถ้วนที่ปรากฏขึ้นมาเหมือนดาวบนท้องฟ้าที่ล้วนคือระเบิดมานา และพายุเฮอริเคนฝั่นโลหะที่พัดอยู่ตามส่วนต่างๆของดาเรย์เป็นกับดักธรรมชาติที่จะจัดการกำจัดสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่คิดร้ายกับมังกรอีกด้วย!
นอกไปจากนี้กับดักที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติมีอยู่ทั่วทั้งส่วนต่างๆมากมายในดาเรย์ ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ไม่อาจจะหลีกหนีไปโดยไร้แผลได้
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ยูอิลฮานตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้นเลย มันก็แค่เป็นผลจากการวิวัฒนาการหลังจากที่ได้หลอมรวมโลกจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามาและมหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจนสะท้อนบันทึกของเขาออกมากลายเป็นแบบนี้
เพราะกับดักพวกนี้ต่างก็รุนแรงถึงชีวิต และมีรูปร่างภายนอกที่ดูงดงามทำให้สมาชิกดราก้อนเนสได้มีเวลาพักหลังจากผ่านการต่อสู้รุนแรงมาอย่างคาดไม่ถึง พวกเขาได้อุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อได้มองไปรอบๆโลก
“งดงาม…”คาริน่า มาเลเทสต้า ไมเคิล สมิธสัน และทาคากากิ อสึฮะทุกๆคนที่รอดปลอดภัยได้กลายมาเป็นมังกรที่แท้จริงท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงแล้ว
ตามปกติแล้วการสะสมค่าประสบการณ์จนกลายมาเป็นคลาส 5 มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่ว่าสิ่งที่พวกเขาได้เจอมามันยังใช่ ‘ปกติ’ อีกงั้นหรอ?
พวกเขาได้เอาชีวิตรอดท่ามกลางสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนับไม่ถ้วน เวทย์ชั้นสูง และเทคนิคระดับสูง เพราะงั้นมันจึงเป็นธรรมดาที่หากพวกเขารอดก็จะพัฒนาขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิตคลาส 5!
“ไมเคิล”ทาคากากิ ฮสึหะได้เบื่อหน่ายกับการมองดูคู่รักที่สวีตหวานกันตลอดเวลาแม้แต่ในสนามรบแล้ว เธอได้หันหน้าไปหายูอิลฮานที่เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความอยู่รอดของเธอ
“ท่านซูซาโนะ ฉัน… ท่านซูซาโนะ?”
เธอได้พยายามจะเข้าไปหายูอิลฮานแต่แล้วก็หยุดอยู่กลางทาง ยูอิลฮานได้อยู่จุดสูงสุดในป้อมปราการลอยฟ้า ดวงตาทั้งสองข้างของเขาปิดอยู่และมีชั้นเปลวเพลิงโปร่งแสงป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนเขาอยู่
เธอได้ยอมแพ้ที่จะเข้าไปหาเขาและถอยออกมา เธอคิดว่าแค่ได้มองดูอยู่ห่างๆก็พอแล้ว
‘ฟู่…’
คนที่กำลังถูกพูดถึงในตอนนี้กำลังสูดหายใจช้าๆและเฝ้าดูทั้งโลกจากภายในตัวเขาอยู่
แรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่มาจากมหาภัยพิบัติขั้นที่ 8 และการหลอมรวมโลกจำนวนมากมายที่ได้เริ่มสงบลง ผลที่ตามมาก็คือการที่ยูอิลฮานได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลอีกครั้งหนึ่ง เลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้งจนไปถึง 650 แล้ว
โชคดีที่ว่ามันไม่ได้มีอะไรอย่างการสร้างร่างกายใหม่แบบครั้งที่แล้วอีกแล้ว เพียงแต่ว่าในครั้งนี้ได้มีพลังเวทย์จำนวนมหาศาลได้เริ่มไหลออกมาจากร่างของเขา มันทำให้เขาไม่มั่นคงในตัวเองมากๆ เขารู้สึกเหมือนกับเขากลายเป็นมัวเมาในอำนาจและบ้าคลั่งไปกับพลังของเขา
เพราะเลเวลที่เพิ่มขึ้น 50 เลเวลในครั้งเดียว ทำให้เขากระทั่งสงสัยว่าการเพิ่มเลเวลเร็วๆแบบนี้จะเกิดปัญหาหรือไม่ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาเลยแม้แต่นิด ความแข็งแรงกระดูกของเขาได้เพิ่มขึ้น เลือดของเขาได้หนาแน่นมากยิ่งขึ้น มวลกล้ามเนื้อของเขาได้มีมากขึ้นและผิวหนังของเขาได้หนาแข็งด้วย ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เขาสังเกตุเห็นได้และมันชัดเจนจนทำให้เขาต้องตัวสั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี