Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 333

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนที่ 333
บทที่ 333 – วันสิ้นโลก (9)[มหาภัยพิบัติขั้นที่ 9 บนโลกระดับสูงดาเรย์ได้เสร็จสิ้น]
[คุณได้ดูดซับบันทึกและมานามาจากโลกใต้การปกครองของคุณ ค่าสเตตัสทั้งหมดและมานาเพิ่มขึ้น 300][ยูอิลฮาน]
[หัวหน้าแห่งดราก้อนเนส เลเวล 748
[พลังกำลัง – 1,754 ความคล่องแคล่ว – 1,545 พลังชีวิต – 1,443 พลังเวทย์ – 3,559]
[สกิลใช้งาน – ประจักษ์แจ้ง(การร่วงหล่น, โลหิตมังกร, การสอดประสานมนุษย์มังกร) เลเวล 87, วิถีทางไร้ขอบเขต(หอกสะบั้นจักรวาล, หอกไร้วิถึ, เทวะกำลัง, ชำแหละ, ขุด, ความแม่นยำสัมบูรณ์) เลเวล 65, หัตถกรรมมานาเลเวลสูงสุด, ประกาศิต (ปกครอง, บันทึก) เลเวล 88, ข้ามมิติ(กระโดด) เลเวล 97, จ้าวมิติเลเวล 99, สวนกลับเลเวล 87]
[สกิลติดตัว – ช่างตีเหล็กเลเวลสูงสุด, วิศวกรรมเวทย์เลเวลสูงสุด, ทำอาหารเลเวลสูงสุด, การปรับตัวของนักท่องมิติเลเวล 99, บัญชาลูกเรือเลเวล 99]

คังมิเรย์ได้เงยหน้าขึ้นมาพูด

“ไม่มีโลกเหลือแล้ว”
“จริหรอ?”

ยูอิลฮานได้ย้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจ แต่คังมิเรย์ก็ยังหยักหน้าอย่างมั่นใจเช่นเดิม

“ไม่มีเหลือแน่นอน ไม่เหลือแม้แน่โลกเดียว หากจะมีเหลือก็มีแต่โลกหลักแล้วล่ะ”
“ฟูู่…”

ยูอิลฮานได้ถอนหายใจยาวออกมาก่อนที่จะก้มหน้าลงและเงยขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้ทุกๆคนกำลังมองมาที่เขาอยู่

เมื่อสามสิบชั่วโมงก่อนคนที่นี่ส่วนใหญ่ยังเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอยู่เลย แต่พอมาในตอนนี้มันกลับยากที่จะมองหาคนที่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแล้ว ยูอิลฮานรับประกันได้เลยว่าเมื่อสามชั่วโมงก่อนเป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายรุนแรงอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้น

“ทุกๆคนคงเหนื่อยกันสินะ”
“ใช่ครับ”

ทุกคนได้ตอบกลับมาตรงๆ โดยเฉพาะมิสทิคที่แทบจะลงไปกองกับพื้นแล้ว เธอได้ก้าวข้ามคลาส 7 มาเป็นคลาส 8 แล้วจากการที่เธอคือศูนย์กลางควบคุมทั้งโลกและเชื่อมต่อเข้าบมันทึกนับไม่ถ้วน แต่ถึงเธอจะแกร่งยังไง ความเหนื่อยล้าของเธอก็ยังมากยิ่งกว่าความแกร่งของเธออยู่ดี

“ฉันรอดมาจากเรื่องบ้าๆนี่ได้ยังไงกันนะ…?”
“นั่นก็เพราะอาร์ติแฟคที่ฉันทำให้เธอไงล่ะ”
“ฉันจะอัดนาย นายท่าน”

เธอได้เหวี่ยงหมัดออกมาพร้อมๆกับที่พูด แต่ว่ายูออิลฮานก็ได้หลบออกมาอย่างง่ายดาย

“ให้ตายสิ โอโรจิ”
“ถึงธอจะมองฉันแบบนั้นก็เถอะนะ ฉันอ่อนแอกว่าเธอ นั่งกินป็อบคอร์นเฉยๆเถอะนะ”
“มาดูกัน พ่อ…”

ยูอิลฮานได้ปล่อยมิสทิคกับโอโรจิเอาไว้และหันไปใช้สกิลข้ามมิติอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เป้าหมายปฏิเสธเขา ยูอิลฮานได้คิดเอาไว้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้และส่ายหัวออกมา

ในตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าซาตานได้ทำอะไรบางอย่างกับบันทึกพระเจ้า หากว่าซาตานคือศัตรูที่อันตรายที่สุดจริงๆ ถ้างั้นต่อให้พ่อใช้ไพ่ตายทั้งหมดพ่อก็ไม่อาจจะสู้ได้… ให้ตายสิ ถ้าพ่อกลับมาพร้อมกับแบบถ้างั้นอย่างน้อยเราก็จะได้ร่วมมือกันจัดการซาตาน ดื้อจริงๆเลย!

“ถ้าพ่อตาย ผมจะทำให้พ่อตายอีกครั้งให้ดู”
“นายจะไปทำอะไรกับคนที่ตายได้ยังไงกันล่ะ?”
“หึหึ”

ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาโดยไม่ตอบอะไรกลับไป แต่ว่าเลียร่ากลับรู้สึกขกลุกขึ้นมา

โลกระดับสูงสองหมื่นสามพันใบ เขาได้รับบันทึกของโลกนับไม่ถ้วนนี้รวมไปถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ในฐานะที่เขาคือผู้ปกครองดาเรย์และหัวหน้าดราก้อนเนส ส่วนประกอบต่างๆของโลกและกองกำลังจะถูกส่งมาให้กับเขาเอง ต่อให้ยูอิลฮานบอกว่าเขาสร้างโลกทั้งใบได้เอง เลียร่าก็เชื่อ

ในท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้ตั้งใจถามกับเขาขึ้นมา

“อิลฮาน นายยังไม่ใช่พระเจ้าใช่ไหม?”
“ไม่หรอก ยังไม่ใช่ อาจจะนะ”
“หาาา”

เธอไม่น่าถามเลย นี่มันยิ่งทำให้เธอกลัวกว่าเดิมอีก! หลังจากยูอิลฮานได้เห็นเลียร่าตัวสั่นเขาก็หัวเราะออกมา ในช่วงอายุของเธอแล้ว เธอก็น่าจะโตมากพอแล้ว แต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปทูตสวรรค์คนนี้ยิ่งดูเด็กลง แน่นอนว่านี่มันก็ทำให้เธอดูน่ารัก

“หากว่าการได้โลกจำนวนนับไม่ถ้วนมามันทำให้ฉันเป็นพระเจ้า ถ้างั้นพวกเทพคนอื่นๆก็คงได้เป็นพระเจ้ากันนานแล้ว อย่างพระเจ้าสวรรค์ไงล่ะ… แต่แน่นอนฉันก็ไม่ได้บอกว่าการหลอมรวมโลกให้เป็นหนึ่งมันไม่มีผลใดๆ แต่ว่านะเลียร่า ฉันยังไม่เข้าใจมัน ฉันคือผู้สร้างที่ยังไม่สมบูรณ์แล้ว ฉันมันก็แค่พวกลูกครึ่งนั่นแหละ”

หน้าเลียร่าได้บึ้งออกมา ยิ่งเธอคุยกับเขาเท่าไหร่ ระยะห่างที่เธอรู้สึกก็ยิ่งมากขึ้นและทำให้เธอเป็นกังวล

“เมื่อก่อนนายจะปฏิเสธเสมอ แต่ในตอนนี้นายไม่ปฏิเสธแล้ว ลูกครึ่งนั่นมันก็หมายความว่าครึ่งหนึ่งก็สมบูรณ์แล้วนี่”
“แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอีกครึ่งหนึ่งจะถูกเติมเต็มได้เมื่อไหร่ มันอาจจะเป็นไม่กี่วินาทีข้างหน้า หรือไม่ก็หลายยุคสมัย บางทีพวกระดับเทพทุกๆคนต่างก็อยู่ในระดับนี้กันทั้งนั้นก็ได้”

นี่คือเรื่องโกหก ยูอิลฮานรู้ดีว่าตัวเขาเป็นคนที่พิเศษมากในพวกระดับเทพด้วยกัน การหลอมรวมโลกเข้าด้วยกันมันมีความพิเศษอยู่แล้ว ในทุกๆครั้งงที่มีโลกถูกเพิ่มเข้ามาในดาเรย์ เขาก็จะรู้สึกได้ถึงพื้นฐานบางอย่างที่เปลื่ยนไปในตัวเขา นี่อาจจะมีแค่เขาเท่านั้นก็ได้ที่จะเป็นไปได้

บางทีนี่อาจจะไม่ใช่การวิวัฒนาการ แต่เป็นกระบวนการย้อนกลับสู่ต้นกำเนิดแห่งเวลา? หากว่าหลอมรวมทุกๆอย่างเข้ามาจนในที่สุดกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน บางทีนั่นอาจจะเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ให้เขาก็ได้? ยูอิลฮานทั้งหวาดระแวงและคาดหวังในเรื่องนี้

แต่หากจะมีอะไรที่เขามั่นใจนั่นก็คือในตอนนี้มันไม่มีอะไรให้เขาต้องกลัวแล้วเหตุผลเดียวที่เขาไม่ได้ทำให้ทุกๆอย่างจบลงในตอนนี้ก็เพราะเขาพยายามที่จะทำทุกๆอย่างให้ไม่มีการบาดเจ็บล้มตาย

“ยังไงก็ตามเราได้ดูดเอาโลกระดับสูงทั้งหมดที่เป็นของกองกำลังอืนๆนอกจากสวนอาทิตย์อัสดงเข้ามาใช่ไหม? อ่อ ยกเว้นโลกหลักด้วย?”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าจุดเริ่มต้นของทุกๆกองกำลังคือโลกหลักของพวกเขา? โลกหลักพวกนั้นคือที่ที่มีพลังทั้งหมดของกองกำลังนั้นอยู่ และเป็นที่ที่หัวหน้ากองกำลังเกิดมา ฉันรู้ว่าที่ดาเรย์แห่งนี้ได้วิวัฒนาการขึ้นมาเกินขีดสุดแล้ว แต่ว่านั่นมันไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะกันได้ด้วยปริมาณของบันทึก อย่างได้ดูถูกโลกอย่างสวรรค์ เอลโลคาทร่าและโลกเบื้องล่างเชียวล่ะ”
“เลียร่า มันไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก ฉันไม่ได้จะบอกให้เธอไม่ระวังตัวนะ แต่ว่าอย่าได้ดูถูกตัวเองเลย มันมีความเป็นไปได้อยู่มากมาย เปิดตาเธอและมองดูสถานะในปัจจุบันของที่รักดีสิ เขาไม่ใช่เด็กที่เธอเคยรู้จักอีกแล้วนะเลียร่า”
“ครั้งแรกที่ฉันเจอเขา เขายังอายุยิบอยู่เลย!”
“ยัยงี่เง่านี่”

เฮเรียน่ามีมุมมองในสถานการณ์ต่างไปจากเลียร่าเล็กน้อง ในสายตาของเธอ พลังที่ยูอิลฮานครอบครองอยู่แกร่งยิ่งกว่าใครๆ มากยิ่งกว่าความโลภที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าเขาแกร่งที่สุดซะอีก

“ที่รัก ทีรักจะเริ่มเลยไหม?”
“ไม่ล่ะ”

“ฉันไม่ยอมความเสี่ยง ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นการเอาชีวิตไปเสี่ยงไหม แต่ว่าในสถานการณ์ที่พ่อของฉันกับคนอื่นๆต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ฉันก็จะไม่ประมาทให้โอกาสศัตรูแน่”
“ฉันจะทำตามคำพูดของที่รัก มีอะไรที่ต้องการก็บอกฉันได้เลย”

“นายทำทุกอย่างมากเกินไปแล้วนะ! พวกเราได้พยายามที่จะช่วยนายอยู่นะอิลฮาน!”
“ฉันไม่ได้บอกว่าพวกเธอไม่ได้ช่วยฉันเลย จริงๆแล้วพวกเธอได้ช่วยฉันมากกว่าที่ฉันได้ช่วยพวกเธออีก”

“นี่มันเป็นบุคลิกของฉันน่ะ บุคลิกที่ฉันไม่อาจจะทิ้งไปได้ต่อให้จะทิ้งทุกๆอย่างไปก็ตาม
จะเกิดอะไรขึ้น? หรือจะมีอะไรอีก? ฉันควรจะเตรียมตัวกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงใช่ไหม?ฉันกังวลว่าหากไม่มีใครช่วยฉันและฉันได้เตรียมการหลายๆอย่างไปมากมาย…
และสุดท้ายก็จบลงด้วยความโดดเดี่ยวเพราะไม่มีใครอยากจะช่วยฉัน…
ต่อให้หลังจากทำทุกๆอย่างแล้วกลายมาเป็นแบบนี้…ฉันกลัวว่าในตอนนั้นฉันได้พลาดอะไรบางอย่างไป…
นิสัยที่มองทุกๆอย่างในแง่ร้ายของฉันนั่นมันก็เพราะฉันไม่อยากจะเจ็บปวด…
คาดหวังว่ามันจะล้มเหลว…
ฉันพยายามที่จะทำเป็นใจเย็น…
เตรียมตัวทุกๆอย่างเพื่อที่จะทำเป็นใจเย็นได้…
สุดท้ายก็จบลงด้วยความเงอะงะเพราะฉันไม่ได้เรียนรู้อะไรจากคนอื่นเลย…

นั่นมันทำให้ฉันอยากที่จะยอมแพ้ในทุกอย่าง…
แต่ว่าฉันก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะไม่มีใครให้ฉันหนีไปหา…
ไม่มีใครที่จะแบกรับภาระของฉัน…
ในท้ายที่สุดฉันก็ยังจะต้องทำทุกๆอย่างด้วยตัวเอง…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี