เมื่อคิมเยซอลได้ลืมตาขึ้นมาเธอก็ได้พบกับทะเลเพลิงไร้จุดสิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นข้างหน้า ข้างหลัง บนหัว ข้างล่าง ข้างบน ซ้ายและขวาต่างก็เต็มไปด้วยทะเลเพลิงสีแดงฉาน เธอได้กลัวว่าตัวเองจะถูกเผาจนตายอยู่ครู่นึ่ง แต่ไม่นานนักเธอก็เริ่มสับสนเพราะเธอกลับรู้สึกสบายแทน
เธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนและนึกขึ้นได้ถึงระหว่างการกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงผ่านอ่างแห่งปาฏิหาริย์
ในที่สุดเธอก็นึกขึ้นได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ยูอิลฮานจะต้องเปิดใช้ประกาศิตพร้อมการสร้าง จากนั้นก็โยนอ่างแห่งปาฏิหาริย์ให้ปกคลุมทั้งน่านฟ้า เพราะแบบนี้เองทำให้ดาเรย์กับเอิร์ธได้เริ่มเชื่อมต่อกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ? เธอรู้สึกกลัวเพราะเธอไม่ได้เห็นใครรอบๆตัวเลย ยังไงก็ตามมันน่าแปลกที่เธอยังคงรู้สึกได้ถึงมือของเฮเรียน่ากับมือของเอิลต้าที่จับมือกับเธออยู่อย่างชัดเจน
เดี๋ยวนะ มืองั้นหรอ?
“เอิลต้า เฮเรียน่าได้ยินฉันไหม”นี่อาจจะเป็นพื้นที่มิติที่ถูกอ่างแห่งปาฏิหาริย์สร้างขึ้นมาก็ได้ แม้กระทั่งในตอนนี้ก็ยังมีฉากที่น่ากลัวอย่างมานาได้ยุ่งเหยิงวุ่นวายและสสารกับสิ่งมีชีวิตไร้สสารกำลังหลอมรวมเข้าด้วยกันอยู่ ยูอิลฮานได้เลือกที่จะใช้วิธีนี้เพื่อปกป้องสมาชิกดราก้อนเนสทุกๆคน
[คุณได้หยุดการคิดคำนวน ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ปรารถนาที่จะให้วงเวทย์นี้เสร็จสมบูรณ์ ท่านจอมเวทย์ได้โปรดเร่งมือ]คิมเยซอลได้พยายามจะคงสติเอาไว้และเริ่มการคำนวนวงเวทย์ต่อไป เธอจะต้องคำนวนมวลทั้งหมดของพลังงานรวมไปถึงพื้นที่ผิวและแกนกลางของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นมาหลังจากที่ยูอิลฮานได้บีบอัดทั้งดาเรย์ และเธอยังต้องทำวงเวทย์ให้เสร็จก่อนหน้านั้นอีกด้วย
[วงเวทย์ทั้งสองจะกลายเป็นหนึ่งเดียว คุณจะต้องประทับตราตำแหน่งศูนย์กลางโลก]
เสียงประกาศิตจากลูกชายของเธอได้ดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ความสามารถในการสร้างที่เขามีได้เพิ่มพลังให้กับเจตจำนงผู้พิทักษ์ในทันที ไม่นานนักคิมเยซอลก็รู้ว่าวงเวทย์ทั้งสองนั่นหมายถึงอะไร นั่นก็คือวงเวทย์เอลฟ์โบราณที่ปกคลุมทั้งดาเรย์หรือก็คือพรม กับร่างกายของเจตจำนงผู้พิทักษ์
[อ๊ากกกกกกกกก ก้อนพลังบ้าคลั่งกับบันทึกนี่มันคืออะไรกัน! ก่อนหน้าที่ฉันจะเป็นวงเทย์ ฉันคือโกเล็ม! นี่นายมาเอาภาระหนักขนาดนี้มาให้กับฉันเลยงั้นหรอ! ยูอิลฮานนายเป็นทั้งนายท่านและศัตรูที่น่ารังเกียจที่สุดของฉัน! ทั้งๆที่ฉันมายืนข้างเดียวกับนายแล้วนายก็ยังให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับความเข็บปวดที่ไม่อาจจะพูดอะไรได้]จอมเวทย์ทั้งสองคนได้ร่วมมือกันแล้ว เจตจำนงผู้พิทักษ์ก็ยังยอมรับในความตั้งใจของพวกเขาต่อให้มันจะต้องเจ็บปวดจนแทบจะเสียสติไปก็ตาม มันได้กัดฟันปักหลักอยู่ภายในโลกที่กำลังฝักตัว
[โลกคือสิ่งที่ฉันอยากจะปกป้อง อยากที่จะได้เห็นมัน…!]
***
คังมิเรย์ก็ถูกโยนเข้าไปในมิติสีแดงฉานเช่นกัน เธอได้ยิ้มออกมาแห้งๆพร้อมทั้งรู้สึกได้ถึงมานาของเธอที่เชื่อมต่ออยู่กับประตูมิติ
ประตูมิติกำลังกดดันเธอเหมือนกับว่ามันจะหดลงและปิดตัวได้ตลอดเวลา และเธอจะต้องใช้มานาจำนวนมหาศาลเพื่อคงสภาพมันเอาไว้โดยไม่มีสักเสี้ยววินาทีใดที่จะได้พักเลย เธอรู้สึกเหมือนเธอจะเป็นลมไปก่อนที่ประตูมิติจะปิดลงไปด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่ายังไงคังมิเรย์ก็ไม่ยอมแพ้ เธอคือเจ้าแห่งมานา และเป็นจอมเวทย์มิติ หากว่าเธอคงสภาพเวทย์ๆเดียวไม่ได้ ถ้างั้นเธอก็ไม่มีสิทธิเรียกตัวเองว่าจอมเวทญ์อีกต่อไปแล้ว
“เพราะไม่มีใครช่วยเขา เขาก็เลยต้องเตรียมทุกๆอย่างที่ทำได้ด้วยตัวเองสินะ…”
หลังจากที่เธอพึมพัมคำพูดที่ยูอิลฮานพูดขึ้นมาในครั้งก่อนจบเธอก็หัวเราะออกมา ครั้งหนึ่งเธอเคยสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้สนใจในตัวยูอิลฮาน แต่พอมาคิดดูแล้วนี่มันชัดเจนมากๆ คังมิเรย์กับยูอิลฮานค่อนข้างจะคล้ายๆกัน
‘ทุกๆคนต่างก็พยายามมาประจบและทำทุกๆอย่างให้ฉันก็เพราะอยากได้การสนับสนุนจากครอบครัวฉัน เพราะงั้นการที่จะตัดสินใจในคุณค่าของตัวฉันเองเลยเป็นเรื่องยาก’
เธออยากที่จะถูกยอมรับด้วยความสามารถเธอเพียงอย่างเดียว เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัว จากพ่อ จากพี่ชาย หรือจากเพื่อนๆของเธอ เธออยากที่จะยืนหยัดด้วยพลังของตัวเองและพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าแรงจูงใจในการทำจะแตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วการกระทำของคังมิเรย์กับยูอิลฮานก็คล้ายๆกัน น่าขำจังเลยเนอะ
‘นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมฉันถึงได้สนใจเขา ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว’
จริงๆแล้วแล้วเธอคิดว่าเหตุผลมันไม่ได้สำคัญอีกแล้ว แต่หลังจากที่ได้รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้เธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ในเวลาเดียวกันนี้ความมั่นใจบางอย่างหรอความคิดที่ว่ามันจะไม่มีปัญหาก็ได้เข้ามาในร่างกายของเธอ
ถึงการคงสภาพเวทย์ ‘วิถึแห่งจักรวาล’ เอาไว้จะทำให้เธอปวดหัวมากๆก็ตามแต่คังมิเรย์ได้ฝืนยิ้มออกมา เธอได้ยกคทาขึ้นสูงและหลังตาลงหลังจากที่ลูบมงกุฏบนหัวตัวเอง
“ในเมื่อการเชื่อมต่อสองมิติเข้าด้วยกันได้ ถ้างั้นการทำให้ทั้งสองมิติเป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นไปได้เหมือนกัน ให้ฉันช่วยนายเองนะอิลฮาน ฉันจะช่วยนายสร้างความหวังขึ้นมาเอง”
พลังเวทย์หลากสีได้ปรากฏขึ้นมาด้านบนวิถีแห่งจักรวาล ความพยายามของเธอได้มากเกินกว่าแค่การเชื่อมต่อสองมิติแล้ว แต่เป็นการหลอมรวมสองมิติให้กลายเป็นหนึ่ง
***
นายูนาที่ก็ถูกโยนเข้าไปในมิติสีแดงฉานเหมือนกันก็ไม่ได้ตกใจเลยสักนิด พลังแห่งปาฏิหาริย์ของเธอในตอนนี้ได้เชื่อมต่อเข้ากับยูอิลฮานอย่างใกล้ชิดและเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
“หืม?”
แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาใจยิ่งกว่านั่นก็คือจิตวิญญาณที่ได้เข้ามาหาเธอผ่านปาฏิหาริย์ที่เธอสร้างขึ้น เธอรู้สึกคุ้นเคยกับจิตวิญญาณดวงนี้มากๆและมันยังให้ความอบอุ่นมากและแสดงถึงความงามที่เรียบง่ายออกมา
[ยูนา ฉันยังไม่ตาย]นี่คือเหตุผลที่ทำให้นายูนาได้รับพรมา นายูนายังได้พูดเสริมขึ้นมาอีก
“ฉันคิดว่าฉันงดงามกว่าท่านแล้วล่ะท่านหญิงเรย์น่า”เรย์น่าดูจะคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา
[เธอไม่อาจจะได้เข้ามาด้วยแค่ใบหน้าได้ ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าแค่ใบหน้ากพอแล้ว แต่ดูจะไม่ใช่แบบนั้น]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี