บรู๊คไม่ได้ถามเรื่องราวที่เธอเป็นข่าวเกี่ยวกับการลอกเลียนแบบที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน คิดๆดูแล้วก็เชื่อมั่นลูกศิษย์ของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเรื่องอะไรที่สามารถอธิบายได้ชัดเจนในคำสั้นๆบนโลกออนไลน์ ต่อให้บรู๊คไม่เชื่อก็รอถามหลังจากที่กลับมาก็ได้
ประภัสสรนั่งอยู่ในห้องรับแขกไม่ได้ไปไหน และก็ไม่ได้ขึ้นชั้นบนไปช่วยนันท์นรีด้วย ถนิตหาโอกาสที่จะพูดไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปชั้นบน
ทันทีที่เขาไป รสิกาถึงได้รู้สึกว่าการหายใจของตัวเองเหมือนจะสบายขึ้นมาก
"ได้ยินมาว่าคุณรสิกาเรียนมาจากอาจารย์บรู๊ค ตอนนี้ยังมีสตูดิโอเป็นของตัวเองด้วย ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยจริงๆ" จู่ๆประภัสสรก็พูดคุยกับรสิกา
รสิกาละสายตาจากแท็บเล็ต และจ้องมองไปที่ใบหน้าเมตตาอ่อนโยนของคุณหญิงประภัสสร: "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าโชคดีที่คุณบรู๊ครับไว้เป็นลูกศิษย์เท่านั้นเอง"
ประภัสสรยิ้มเล็กน้อย: "คุณรสิกาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ นันท์ของเราเลือกมากมาตั้งแต่เด็ก ในเมื่อหล่อนให้คุณรสิกาออกแบบชุดให้กับหล่อนได้ นั่นก็หมายความว่าความสามารถของคุณรสิกาดีมาก"
"คุณหญิงชมเกินไปแล้วค่ะ"รสิกากล่าวอย่างสุภาพ
"คุณรสิกาแต่งงานหรือยัง?"คุณหญิงประภัสสรถาม
แต่งงาน......
คำนี้ทำให้รสิการู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงออกบนใบหน้า: "ฉันหย่าแล้วค่ะ"
"หย่าเหรอ?"คุณหญิงประภัสสรประหลาดใจมาก"ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดเรื่องที่กระทบจิตใจของคุณ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องกระทบจิตใจฉันเลยค่ะ"รสิกาหลุบตาลง
ประภัสสรกับนันท์นรีให้ความรู้สึกที่เหมือนกันมากกับรสิกา เหมือนเป็นคนนิสัยแบบเดียวกัน คมในฝัก
บางทีคุณหญิงประภัสสรก็รู้เรื่องราวครั้งก่อนที่นันท์นรีสงสัย ดังนั้นครั้งนี้คุณหญิงประภัสสรถึงได้สอบถามเธออย่างอ้อมค้อม
ว่ากันว่าตระกูลมหาเศรษฐีนั้นลึกลับเท่าทะเล ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
ผู้หญิงของตระกูลสิทธิอัศวกุลนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
"คุณรสิกาอายุน้อยๆ ในเมื่อหย่าร้างแล้ว เคยคิดที่จะหาคนใหม่มั้ย?"คุณหญิงประภัสสรก็ถามอีก
"ตอนนี้ยังไม่คิด"รสิกาพูดว่า"อยากจะทุ่มเทความตั้งใจทั้งหมดให้กับการทำงานมากกว่า"
"งั้นคนในครอบครัวไม่เร่งเร้าเหรอ?"
"ฉันไม่มีครอบครัว"น้ำเสียงของรสิกาเยือกเย็นลงเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฝากแผลไว้ในใจคุณ