ตอนที่ 38
"ให้ผมโอนเงินเข้าบัญชีของภูวดลเลยไหมครับ"
"ไม่ต้อง มันอยากได้เงินมันต้องทำงานแลกจะเอาคำว่าป่วยมาเป็นข้ออ้างไม่ได้ คนที่ไม่มีแขนไม่มีขาคนตาบอดยังรู้จักทำงาน มันเกิดมาครบสามสิบสองแท้ๆถ้ามันคิดได้แค่นี้ก็ปล่อยมันไป ถือว่ากูช่วยเหลือมันมาเยอะแล้ว ยิ่งกูช่วยมันยิ่งไม่ยอมทำอะไรจะนอนรอเงินโอนเข้าบัญชีอย่างเดียว"
"ตอนนี้คุณเหมันต์รู้เรื่องแล้วนะครับ ทางนั้นก็สุดจะทนกับภูวดลแล้วเหมือนกันครับ เมื่อสามวันก่อนเหล่าแม่บ้านคนเก่าคนแก่ก็ย้ายกลับบ้านเกิดกันหมดแล้วครับตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่ภูวดลคนเดียว"
"..."
"หลายวันแล้วที่คุณเหมันต์เอาอาหารมาให้ภูวดลทานถึงที่คฤหาสน์ของมัน แต่ตอนนี้ทางคุณเหมันต์ไม่มาส่งข้าวให้ภูวดลหลายวันแล้วครับมีเพียงแค่คนใช้ที่บ้านของคุณเหมันต์เป็นคนเอาข้าวมาส่งให้ภูวดลตามคำสั่งของคุณเหมันต์ครับ"
"..."
"ขนาดกินข้าวลงท้องของตัวเองแท้ๆมันยังต้องให้คนอื่นมาประเคนให้ถึงที่ทำอย่างกับตัวเองมีเงินมีอำนาจเหมือนเมื่อก่อน"
"..."
"ภูวดลมันโคตรเห็นแก่ตัว ขนาดมันจะกินข้าวลงท้องของมันแท้ๆยังให้คนอื่นลำบากเอามาประเคนให้ถึงที่" ทั้งที่บ้านของภูวดลและเหมันต์ไม่ได้ไกลกันมากแต่ภูวดลก็ไม่ยอมเดินไปเอากับข้าวเองรอให้แค่ทาง
เหมันต์มาส่งข้าวส่งน้ำให้ถึงที่คฤหาสน์ของตัวเองทั้งที่ตอนนี้ภูวดลไม่ได้มีทั้งอำนาจและเงินทองหลงเหลือแล้ว ภูวดลในตอนนี้มีเพียงแค่คฤหาสน์ที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวและชิ้นสุดท้าย
แม้จะไม่มีเหมือนเมื่อก่อนภูวดลก็ยังคงทำตัวเป็นคุณชายเหมือนเดิมไม่ยอมปรับตัวไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองรอเพียงแค่พี่ชายอย่างเหมันต์ประเคนทุกอย่างมาให้โดยที่ตัวเองไม่ต้องเหนื่อย
จนเหมันต์เองก็สุดจะทนเอือมระอากับภูวดลเต็มที หากจะทิ้งก็ทิ้งไม่ลงยังไงก็เป็นพี่น้องกัน แม้เหมันต์จะโกรธภูวดลที่เห็นแก่ตัวทำให้ครอบครัวที่อบอุ่นมาตลอดสิบแปดปีของภูวดลเองพังลงเพราะความตัณหาของภูวดลก็เถอะ
แต่เหมันต์ก็ไม่เคยคิดที่จะทิ้งน้องชายไปไหนยังไงเหมันต์ก็จะยังคอยดูแลภูวดลตลอดไปจนกว่าเขาจะดูแลภูวดลไม่ได้
"ทำอย่างกับตัวเองเป็นคนพิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้" ศิลาเอ่ยเสียงเข้มก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในห้องนอนที่มีน้ำหนาวนอนพักกลางวันอยู่บนเตียงนอน
@หลายวันต่อมา
@บริษัทSTONE
"นอนรอเฮียอยู่ตรงนี้ก่อนเฮียขอเข้าไปประชุมแค่สองชั่วโมง" ศิลาที่นั่งพิงหัวเตียงนอนอยู่เอ่ยบอกน้ำหนาวที่นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียงนอนข้างๆกายของเขาภายในห้องทำงานของเขา
"ศิลาหนูขอไปด้วย" น้ำหนาวละใบหน้าออกจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือก่อนจะสวมกอดเอวสอบของศิลาเอาไว้หลวมๆ
"หนูจะไม่เบื่อเหรอ"
"หนูล้อเล่น หนูจะนอนรอศิลาอยู่ตรงนี้"
"นอนรอเฮียอยู่ห้องนี้ไปก่อนอีกสองชั่วโมงเดี๋ยวเฮียกลับมาแล้วค่อยไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน" ศิลากดจูบหนักๆลงบนหน้าผากมนของน้ำหนาวด้วยความรู้สึกที่แสนรักแสนหวงแหน
"หนูรักศิลา" น้ำหนาวบอกรักศิลาพลางส่งยิ้มหวานให้เขาจนตาหยี
"เฮียก็รักหนู" ศิลาเอ่ยบอกรักน้ำหนาวก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างอ่อนโยนลิ้นสากค่อยๆสอดเข้ามาเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กอย่างหยอกล้อก่อนจะค่อยๆถอนจูบออกจากอย่างอ้อยอิ่ง
"เฮียไปประชุมแล้ว นอนรอเฮียอยู่ที่นี่อย่าไปวิ่งซนที่ไหน" ศิลาเอ่ยบอกน้ำหนาวอีกครั้งพลางใช้มือหนาขยี้เส้นผมดำขลับของเธอเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะหยิบเสื้อสูทสีดำราคาแพงบนหัวเตียงนอนขึ้นมาพาดบนบ่าแกร่งของตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องนอนตรงไปที่ห้องประชุมใหญ่ทันที
RrrrrrRrrrr~
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของน้ำหนาวดังขึ้นทำให้น้ำหนาวที่เพิ่งเผลอหลับไปเมื่อครู่สะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมามือบางควานหาโทรศัพท์มือถือที่กำลังแผดเสียงอยู่ด้วยอาการงัวเงีย น้ำหนาวจ้องมองเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย
วาวา : ฮัลโหลหนาว นี่เราวาวานะ
น้ำหนาว : อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ
วาวา : เรามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยน่ะเกี่ยวกับพ่อ หนาวออกมาคุยกับเราหน่อยได้ไหม
น้ำหนาว : ตอนนี้เหรอคะ
วาวา : เรารอหนาวอยู่ข้างล่างหลังบริษัทนะ แอบมามาคนเดียวไม่ต้องบอกใครล่ะ อย่าเพิ่งให้ใครเห็นหนาวนะเพราะเรื่องที่เราจะพูดมันเป็นความลับ
น้ำหนาว : ค่ะ
(น้ำหนาวตอบกลับคนปลายสายด้วยความงุนงงเล็กน้อย ศิลายังไม่ได้บอกน้ำหนาวกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยไม่อยากทำให้น้ำหนาวไม่สบายใจอีกทั้งเธอยังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ด้วย)
วาวา : รีบลงมานะเรารอที่หลังบริษัท อย่าให้ใครเห็นนะ
"..." น้ำหนาวจ้องมองน้ำผลไม้ในขวดอย่างชั่งใจถึงความทรงจำของเธอจะยังไม่กลับมาแต่ก็ไม่กล้าดื่มน้ำที่วาวาให้มาด้วยศิลาเคยกำชับเอาไว้ว่าห้ามรับของหรือดื่มน้ำที่คนอื่นยื่นให้นอกจากเขาแค่เพียงคนเดียว
แต่ทว่าน้ำหนาวในเวอร์ชั่นนี้กลับเป็นคนขี้เกรงใจครั้นจะปฏิเสธที่จะดื่มน้ำผลไม้ของวาวาก็จะดูไร้มารยาทมากเกินไป เธอคิดว่ายังไงวาวาก็เป็นพี่สาวต่างแม่ของเธอคงจะไม่มีพิษมีภัยอะไรต่อเธอ
"ไม่ดื่มเหรอ เราไม่ใส่ยาพิษลงไปหรอกน่าเราไม่ใจร้ายกับเพื่อนที่น่ารักแถมยังเป็นน้องสาวต่างแม่ของเราอีกด้วย..ดื่มสิอร่อยนะเดี๋ยวเราป้อน" วาวาแย่งขวดน้ำผลไม้ออกมาจากมือบางของน้ำหนาวแล้วป้อนใส่ปากให้น้ำหนาวพร้อมกับใช้มือกดขวดน้ำผลไม้และศีรษะของน้ำหนาวเข้าหากันอย่างแรงบังคับให้น้ำหนาวดื่มน้ำผลไม้จนเกือบจะหมดขวด
"แค่กๆแค่กๆ ขอบคุณนะ อร่อยมากเลยวาวาทำเองเหรอ" น้ำหนาวที่โดนวาวาบังคับให้ดื่มน้ำผลไม้เอ่ยขอบคุณตามมารยาทพลางน้ำตาคลอรู้สึกหวาดกลัวในการกระทำของวาวาที่กดศีรษะบังคับให้เธอดื่มน้ำผลไม้จนเธอสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง
"เปล่าทำเอง น้ำผลไม้ฉันซื้อมาส่วนยาขับเลือดฉันเป็นคนผสมเองกับมือแล้วก็ใส่ลงไปในขวดผลไม้เอง" วาวาเอ่ยพลางเหยียดยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน
"ฮึก!" น้ำหนาวโค้งตัวงอด้วยความทรมานปวดที่บริเวณท้องเธอนั่งทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
"อึก วาวา" น้ำหนาวเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าเลือดสีแดงสดมากมายไหลออกมาจากช่องคลอดของเธอจนเปรอะเปื้อนพื้นและเรียวขาสวยจนแดงฉาน
"หึ ยังไงฉันก็จะตายเพราะโรคบ้านี้อยู่แล้วเอาลูกในท้องแกไปอยู่เป็นเพื่อนฉันในนรกก็คงจะดีไม่น้อย"
"ฮึก วาวา อึก เจ็บท้อง" น้ำหนาวพยายามที่จะคลานเข้าไปที่ประตูแต่ทว่า วาวากลับเอาตัวไปยืนบังประตูขวางทางเอาไว้ไม่ให้น้ำหนาวเข้าไปได้
"หึ โชคดีนะขอให้ดวงดีรอดไปได้ทั้งแม่ทั้งลูก" วาวาเอ่ยอย่างประชดประชันพลางเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเข้ามานั่งภายในรถยนต์คันหรูอย่างอารมณ์ดี
"หึ ไหนๆ ฉันก็จะตายเพราะโรคอัปรีย์นี้อยู่แล้วจะถูกศิลาฆ่าตายหรือจะตายเพราะโรคเอดส์ก็ตายเหมือนกัน" วาวาเอ่ยก่อนจะเหยียบคันเร่งขับรถออกมาจากหลังบริษัทของศิลาในทันทีปล่อยให้น้ำหนาวนอนทรมานอยู่กับพื้นเพียงคนเดียววาวาจ้องมองสีหน้าทรมานของน้ำหนาวผ่านกระจกรถอย่างเลือดเย็นไม่มีความรู้สึกสงสารสักนิด
@ทางด้านของศิลา
"โอนเงินไปไหน" ศิลาพึมพำกับตัวเองเบาๆพลางขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งเมื่อข้อความการโอนเงินออกเด้งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของเขา
"ขออนุญาตครับนาย" นาวาเสียมารยาทเดินเข้ามาหาผู้เป็นนายด้วยท่าทางร้อนรนท่ามกลางเหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของศิลา
"มีอะไร" ศิลาตวัดตามองลูกน้องคนสนิทที่เสียมารยาทเข้ามาขัดจังหวะการประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเขาที่กำลังออกความคิดเห็นกันอย่างเคร่งเครียด
"นายหญิงไม่ได้อยู่ในห้องครับ" นาวาเอ่ยกระซิบบอกที่ข้างใบหูของผู้เป็นนาย "ตอนนี้บอดี้การ์ดของเรากำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่ครับ"
ศิลาขบกรามแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินออกมาจากห้องประชุมใหญ่ในทันทีทำเอาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่างงุนงงกับท่าทางดุดันฉุนเฉียวของผู้บริหารใหญ่อย่างศิลาที่ไม่เคยทิ้งการประชุมกลางคันแบบนี้มาก่อนเป็นครั้งแรกที่เหล่าผู้ถือหุ้นได้เห็นท่าทางฉุนเฉียวของศิลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: FIERCE MAFIA พิษรักแฟนเก่า