เซี่ยซื่อเห็นลักษณะของซูซืออวี้ก็รู้สึกไม่ยอม จับแขนของเขาและพิงอยู่บนร่างกายของเขา
"นายท่าน ก็แค่ที่ดินสามแปลงเท่านั้น?มีอะไรมากหรือ?ท่านยอมรับเถอะเจ้าค่ะ!"
"พวกนั้นไม่เหมือนกัน ทีดินสามแปลงนั้นควรเป็นของหนานอี"ซูซืออวี้พูดอย่างจนปัญญา
ดวงตาของเซี่ยซื่อปรากฏความโหดเหี้ยมขึ้นมา แต่บนใบหน้ากลับปรากฏสีหน้าที่เศร้าโศก ใช้ผ้าปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมา
"ข้ารู้ว่าเจ้าก็คือรังเกียจว่าหว่านเอ้อร์เป็นลูกสาวของอนุภรรยา อะไรล้วนไม่คำนึงถึงนาง อะไรล้วนเป็นของหนานอี!ข้าว่าข้าก็ดีต่อหนานอีอยู่นะ แต่......นายท่าน ท่านยุติธรรมหน่อยได้ไหมเจ้าคะ?"
ซูซืออวี้เห็นนางร้องไห้ก็รู้สึกใจอ่อนลงมา"เจ้าพูดอะไรเนี่ย ข้าเคยมองหว่านเอ้อร์เป็นลูกของอนุภรรยาที่ไหน?ข้าไม่ได้ลำเอียง และก็ไม่ใช่ว่าไม่ยุติธรรม ที่ดินสามแปลงนั้นเป็นสินเดิมที่แม่ของหนานอีเหลือไว้ให้นาง หนังสือปีนั้นก็ยังอยู่ เขียนอย่างชัดเจนมาก นี่......"
"แต่ร้านค้าสามร้านค้าของข้ายังให้หนานอีแล้ว นี่มันจะนับยังไงล่ะ?นางเอาของข้าไปได้ ข้าเอาของนางไปไม่ได้หรือ?ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องอื่นนะ เป็นงานแต่งของหว่านเอ้อร์นะเนี่ย!"
ซูซืออวี้เห็นนางร้องไห้ก็รู้สึกรำคาญใจ แต่ก็มีความหวั่นไหวแล้ว เซี่ยซื่อเห็นว่าเขาเริ่มหวั่นไหว ก็พิงอยู่บนร่างกายของเขาอย่างอ่อนแรงอีกทีหนึ่ง"นายท่านเจ้าคะ หลายปีนี้พวกเราก็เป็นคนจัดการที่ดินเอง หนานอีแค่จะแต่งงานออกไปก็คิดจะเอาไปเปล่าๆแบบนี้ได้ยังไงล่ะเจ้าคะ?และอีกหนึ่งอย่าง เรื่องมันผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้นางยังเด็กอยู่ เรื่องนี้ก็คงไม่รู้หรอก......"
"อย่างนี้ละกัน รอตอนนางแต่งงาน ก็ให้เงินมากหน่อยกับนาง ส่วนข้าก็ให้เครื่องประดับอีกชุดหนึ่งแก่นาง ท่านว่าได้ไหมเจ้าคะ?"
นางร้องไห้ไปด้วยขอร้องไปด้วย ซูซืออวี้ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ และยังได้ดมกลิ่นหอมเบาบางบนร่างกายของนางด้วย รู้สึกสดชื่นมาก ในที่สุดก็พยักหน้ายอมรับ เซี่ยซื่อพิงอยู่ในอ้อมอกของเขา แอบรู้สึกดีใจ ซูหนานอี ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะแข่งกับข้าได้ยังไง!สิ่งของของข้า ไม่ใช่ว่าเอาไปได้ง่ายๆ!
สำหรับสิ่งนี้ซูหนานอีไม่รู้เลย หลังจากที่เล่นลูกแก้วกับหยุนจิ่งไปสักพักหนึ่ง นางก็คิดจะไปเยี่ยมลู่ซือหยวนสักเที่ยวหนึ่ง ก็เลยเรียกหยุนจิ่งออกจากบ้านด้วยกัน
หยุนจิ่งนำพวกลูกแก้วใส่เจ้าไปในถุงหอม ใส่จนถุงเต็มๆ แล้วยื่นมือไปตบเบาๆ ยิ้มอย่างพอใจ
ซูหนานอีพาเขาออกจากจวน ตอนที่ผ่านสวนจู่ๆก็ได้ยินมีคนพูดคุยกัน
ทั้งสองคนเลยหยุดเดิน ซูหนานอีกฟังอย่างตั้งใจ อุ้ย นี่เป็นซูหว่านเอ้อร์ไม่ใช่หรือ?ทำไมยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งล่ะ?
นางรีบจับมือหยุนจิ่งหาที่ซ่อนไว้ มองทะลุผ่านช่องว่างของใบไม้ก็เห็นซูหว่านเอ้อร์กำลังยืนอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนหนึ่ง ในมือจับผ้าเอาไว้ ร่างกายใกล้ชิดกับผู้ชายมากนัก
ผู้ชายคนนั้น......ก็คือหลี่ชูยวี่ไม่ใช่หรือ?
สองคนนี้ไม่อยู่เรือนหน้า มาที่สวนทำอะไร?
ได้ยินแต่ซูหว่านเอ้อร์พูดว่า"ต้นนี้ชื่อแสงจันทร์งาม อยู่ใต้แสงจันทร์จะสวยงามมาก เป็นท่านพ่อของข้าใช้เงินจำนวนมากซื้อมาจากเมืองยูนนาน และให้ข้าเป็นคนดูแล ข้าใช้เวลานานมากถึงเลี้ยงมันได้ดีเช่นนี้เจ้าค่ะ"
ซูหนานอีรู้สึกน่าขำ ซูหว่านเอ้อร์นี่ก็ช่างพูดโกหกเก่งจริงๆเลย นางไม่ทำลายดอกไม้มันก็ดีไปถึงไหนแล้ว เมื่อไหร่เคยดูแลดอกไม้เหล่านี้?หน้าด้านจริงๆ
หลี่ชูยวี่ก้มหน้าไปดูดอกไม้ต้นนั้น เงียบขรึมไปสักพักหนึ่ง ค่อยๆพูดว่า"ใช่หรือ?งั้นเจ้าก็เก่งจริงๆเลยนะ แม้กระทั่งดอกไม้ที่เลี้ยงยากเช่นนี้ยังเลี้ยงได้ดี ใช้ปุ๋ยอะไรหรือ?"
"ปุ๋ย?"ซูหว่านเอ้อร์ตะลึง นางจะรู้พวกปุ๋ยได้ยังไงล่ะ หลบหลีกของพวกนั้นยังไม่พอเลย"เออ ใช้พวกธรรมดาเท่านั้นเอง"
นางคิดจะผ่านหัวข้อนี้ไปเร็วๆ แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่ชูยวี่กลับมีความสนใจกับหัวข้อนี้ยิ่งนัก"ใช้พวกธรรมดาไม่ได้หรอด ดอกไม้ต้องการสารอาหารจำนวนมาก และหล่อเลี้ยงอย่างช้าๆจึงจะสวยงาม"
"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง"
ซูหนานอีฟังอยู่ในที่ไกล แม้ว่าอยู่ห่างไกล นางมองไม่เห็นสายตาของหลี่ชูยวี่ แต่รู้สึกว่าสายตาของเขาเย็นชามาก และคำพูดของเขาก็แหลมคมราวกับดาบ
หยุนจิ่งอยู่ข้างๆของนาง ไม่ได้สนใจพวกเขาสองคนพูดอะไร ความสนใจอยู่ที่ซูหนานอีคนเดียว
เขาก้มหน้าเห็นถุงหอมบริเวณเอวของนาง รู้สึกว่ากลิ่นพิเศษมาก เขาก้มหน้าไปดม จู่ๆก็จามออกมา
คราวนี้ สองคนที่อยู่บริเวณไกลล้วนได้ยินการเคลื่อนไหวแล้ว
"ใครอยู่ที่นั่น!"หลี่ชูยวี่หันหน้าอย่างกระทันหัน สายตาเต็มไปด้วยฆาตกรรม
ซูหนานอีใจเต้นเล็กน้อย รู้สึกตกใจ แต่ไม่ได้กลัวเลย ยังไงนี่ก็อยู่ในบ้านของนาง ทำไมนางต้องหลบๆซ่อนๆล่ะ?นางเด็ดดอกไม้ออกมาดอกหนึ่ง แล้วเดินออกมาพร้อมกับหยุนจิ่ง
"ซู......"ซูหว่านเอ้อร์เห็นว่าเป็นนาง กำลังคิดจะเรียกชื่อของนาง แต่ก็เปลี่ยนการเรียกทันที"พี่สาว?"
"พี่สาว เจ้าทำไม......ซ่อนอยู่ตอนนั้นกับท่านอ๋องทำอะไร?"
ซูหนานอีเห็นว่านางมาใส่ร้าย รู้สึกน่าขำมาก สายตามองไปที่หลี่ชูยวี่ จู่ๆก็รู้สึกว่าสองคนนี้เหมาะสมกันอยู่ ล้วนชอบปลอมตัว
นางหัวเราะอย่างเย็นชา"อะไรคือซ่อน?นี่เป็นบ้านของข้าเอง ข้าจะไปไหนต้องซ่อนหรือ?ยังไง?หรือว่าสวนนี้เจ้าเหมาลงมาแล้ว พวกเราห้ามเข้า?"
ซูหว่านเอ้อร์กัดฟัน"ข้ากับคุณชายหลี่......ได้รับคำสั่งของท่านพ่อท่านแม่จึงมาที่นี่"
"ข้าเดินเล่นในบ้านของตัวเอง ไม่ต้องได้รับคำสั่งจากใครๆหรอก"ซูหนานอีพูดอย่างไม่ตั้งใจ แต่ทุกคำล้วนโดนจุดอ่อนของนาง"เตือนเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เซี่ยซื่อเป็นแค่อนุภรรยา จะเรียกว่าแม่ไม่ได้"
สีหน้าของซูหว่านเอ้อร์แดงขึ้นมาทันที รีบมองไปดูหลี่ชูยวี่ตาหนึ่ง กลัวว่าเขาจะรังเกียจอีก
สายตาของหลี่ชูยวี่ย้ายมาที่ซูหนานอี เหมือนไม่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้นี้เลย
"คุณหนูซู......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ