มีรอยยิ้มที่หายากบนพระพักตร์ของเซี่ยหวนอวี่ ซึ่งทำให้ลั่วชิงเหยียนตะลึงเล็กน้อย และใช้เวลานานกว่าจะกลับมารู้สึกตัว เสด็จแม่ของเขา? น่าจะหมายถึงฮองเฮาฮวา ลั่วชิงเหยียนก้มศีรษะลงเล็กน้อย และครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "พ่ะย่ะค่ะ"
พูดจบก็สั่งให้ขบวนกองเกียรติยศและบรรดาขุนนางกลับไปที่วังก่อน เขานำเซี่ยหวนอวี่ภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์วังหลวงและทหารรักษาพระองค์ไปยังจวนรุ่ยอ๋อง ซึ่งตอนนี้ควรจะเป็นจวนรัชทายาท เมื่อเซี่ยหวนอวี่ลดม่านรถลง ลั่วชิงเหยียนก็ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย และสั่งให้ผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆเขาไปรายงานที่จวนก่อน หลังจากครุ่นคิดแล้วเขาก็กล่าวว่า "มิต้องให้พระชายาออกมารับเสด็จด้วยตัวเอง แค่ให้พ่อบ้านนำคนรับใช้ไม่กี่คนมารออยู่ที่ประตูจวนก็เพียงพอ"
เมื่อมาถึงจวนรัชทายาท เซี่ยหวนอวี่ลงจากรถม้าก่อนแล้วหันหลังกลับ ยื่นพระหัตถ์เข้าไปในรถม้า หลังจากนั้นไม่นาน มือข้างหนึ่งก็เอื้อมไปจับพระหัตถ์ของเซี่ยหวนอวี่ แล้วค่อยๆก้าวออกจากรถม้าอย่างช้าๆ
คือฮองเฮาฮวา
ฮองเฮาฮวาแลดูไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แม้แต่อยู่ในขบวนเสด็จกลับวังอย่างยิ่งใหญ่ก็ตามแต่ นางสวมชุดสีขาวนวลที่ปักดอกไห่ถัง หวีด้วยมวยตกหลังม้า และมีปิ่นระย้าลวดลายดอกไห่ถังที่ทำจากเงิน ซึ่งดูสง่างามมาก
ฮองเฮาฮวาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่แผ่นป้ายหน้าประตูที่เขียนว่า "จวนรัชทายาท" นางเม้มริมฝีปากและยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเสด็จเข้าไปพร้อมกับเซี่ยหวนอวี่
เซี่ยหวนอวี่พยุงฮองเฮาฮวาไปตลอดทาง ทำให้ลั่วชิงเหยียนต้องเหลือบมองหลายครั้ง เซี่ยหวนอวี่เป็นถึงฮ่องเต้ แม้ว่าจะเป็นฮองเฮาก็ตาม แต่การเดินเคียงข้างกันเยี่ยงนี้ ค่อนข้างไม่ถูกระเบียบนัก
แต่ทว่าลั่วชิงเหยียนก็ไม่ส่งเสียงเตือนใดๆ
"ข้าได้ยินมาว่า พระชายารัชทายาทถูกคนขังไว้ในห้องเก็บแข็ง ทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด เด็กแข็งแรงหรือไม่ พระชายารัชทายาทเป็นอย่างไรบ้าง?" เซี่ยหวนอวี่หันศีรษะ มองไปทางลั่วชิงเหยียนด้วยรอยยิ้ม
ลั่วชิงเหยียนก้มศีรษะลง สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงนัก ตอบเบาๆว่า "เพียงแค่ร่างกายแลดูตัวเล็กเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีอะไรผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ หมอบอกว่า เป็นเรื่องปกติของเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะตัวเล็ก เพียงแค่บำรุงในวันหน้าก็เพียงพอ ชางเอ๋อร์ปลอดภัยดี เพียงแต่ลำบากตอนคลอดลูกเล็กน้อย พักนี้มักจะเหนื่อยง่าย"
"เช่นนั้นก็ดี" เซี่ยหวนอวี่ยิ้มด้วยท่าทางดูที่มีความสุขมาก
แต่ฮองเฮาฮวาเบาๆว่า "อยู่ไฟหลังคลอดลูกมักจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้นต้องพักผ่อนให้มาก มันจะดีต่อร่างกาย อย่าได้ทำงานหนัก ดวงตาไม่ควรใช้มากเกินไป หนังสือควรอ่านน้อยลง อีกทั้งไม่ควรโดนลมในช่วงอยู่ไฟ มิเช่นนั้นจะหลั่งน้ำตาพร้อมสายลม ต้องให้ความสำคัญกับการกินมากขึ้น ดื่มน้ำซุปให้มากขึ้น ซุปไก่ ซุปปลา ซุปขาหมู และซุปกระดูกหมู ควรเคี่ยวให้หลากหลาย แต่อย่าได้ใส่เกลือ"
เซี่ยหวนอวี่ไม่รู้ว่ามีข้อห้ามมากมายเช่นนี้ ก้มศีรษะแล้วยิ้มไปมองฮองเฮาฮวา "ไม่ใส่เกลือก็ไม่มีรสชาติใดๆสิ กินได้อย่างไรกัน"
ฮองเฮาฮวาเหลือบมองเซี่ยหวนอวี่ ไม่ได้ตอบรับใดๆ เซี่ยหวนอวี่ไม่สนใจมากนัก "คลอดลูกเป็นเรื่องที่ลำบากนัก ห้ามอย่างนั้นห้ามอย่างนี้"
มาถึงเรือนหนานย่วน หยุนชางก็ลงมาข้างล่างแล้ว ฉินยีและแม่นมก็อุ้มเป่าเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆเช่นกัน เมื่อเห็นเซี่ยหวนอวี่และฮองเฮาฮวาเข้ามา ก็รีบคำนับ พูดว่า "ถวายพระพรฝ่าบาท"
เซี่ยหวนอวี่โบกมือตามความประสงค์และตรัสว่า "ต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน ไฉนต้องเกรงใจเยี่ยงนี้?"
หลังจากพูดแล้วเขาก็มองไปที่เด็กในแขนของแม่นม ยิ้มและตรัสว่า "นี่คือลูกขอวเจ้าหรือ อุ้มมาให้ข้าดูหน่อยสิ"
หยุนชางรีบอุ้มลูกด้วยตัวเองแล้วเดินไปหาเซี่ยหวนอวี่ เซี่ยหวนอวี่เอื้อมมือออกไปอุ้มเด็ก หยุนชางมองไปที่เขาที่ไม่เชี่ยวชาญนัก สีพระพักตร์ของดูประหลาดใจเล็กน้อย สักพักก็พูดว่า "ตัวเล็กจริงๆ ตัวเล็กๆ"
ฮองเฮาฮวามองจากด้านข้าง ขมวดคิ้วและหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ เอื้มมือของนางออกไปอุ้มเป่าเอ๋อร์ "มีใครอุ้มเด็กเช่นเดียวกับพระองค์กัน เด็กจะอึดอัดไม่สบายมาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง