Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน นิยาย บท 8

ตึก ตึก ตึก ตึก~

หัวใจที่เต้นแรง มันบีบเลือดฉันสูบฉีดหนักขึ้น... ตอนนี้ฉันร้อนผ่าวไปทั้งตัว ริมฝีปากอุ่นๆที่ประกบจูบครั้งแล้วครั้งเล่า มันกำลังทำฉันหายใจติดขัด และทำตัวไม่ถูก

จูบแรก...ทำไมมันอึดอัดแบบนี้ ฉันไม่ไหวแล้ว!ฉันหลับตาปี๋ และรวบรวมแรงทั้งหมดที่มี ดันอกเขาออกไป

ก่อนที่จะเผลอ....

"เพี้ยะ! "

ไม่...ไม่!! ไม่ใช่แบบนี้ ฉันเผลอตบหน้าไคล์ไปเต็มแรง ฉันไม่ได้อยากตบเขา... ฉันแค่ตกใจ! และตอนนี้ไคล์ก็ใช้นิ้วแตะเบาๆที่มุมปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน เขาดูช็อคเหมือนกัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ...

รอยยิ้มที่ฉันเห็นมาทั้งวัน...มันไม่มีอีกแล้ว

"โอเค นี่คือคำตอบใช่ไหม..."

คำตอบอะไรวะ!? ฉันพยายามเดินไปหาไคล์ แต่ไคล์กลับยกมือขึ้น สั่งให้ฉันหยุด

"ไคล์ ฉันไม่ได้ตั้ง..." ฉันทิ้งกระเป๋าลงพื้น และพยายามอธิบาย แต่เขาไม่ฟัง...เขาค่อยๆถอยหลังไปทีละก้าว ทีละก้าว...จนเริ่มไกลจากฉัน

"บาย"

"ไคล์-_-!" เสียงเรียกฉันมันไม่มีประโยชน์ เขาไม่หันกลับมา ไม่พูด ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เหมือนไคล์เขาอยากจะหนีไปไกลๆฉัน เพราะยิ่งฉันพยายามเรียก...เขายิ่งก้าวเร็วขึ้น

ฉันทรุดนั่งกอดเข่าหน้าประตู ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ตกบนพื้น มาดูพวงกุญแจ

เออ ควาย...กูมันควายจริงๆ!!

"ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ...ทำไมไม่บอกก่อนวะว่าจะจูบ คนมันไม่เคย แม่งเอ้ย! กูมันโง่ ฮือๆ"

ฉันคลานเข้าห้องร้องไห้โฮ ไม่มีแรงจะลุก ไม่มีแรงทำบ้าอะไรเลย ไคล์จะรู้สึกยังไงวะ..เขาจะเจ็บไหม? ฉันร้องไห้ไปด่าตัวเองไป จนอยู่ๆฉันได้ยินเสียงรองเท้าหยุดหน้าห้อง...

กริ้ง กริ้ง~ หรือว่าไคล์จะมา! ฉันรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูทันที แต่คนที่มากดกริ่งกับไม่ใช่ไคล์ เขาเป็นผู้ชายสูงๆขาวๆเจาะหู หน้าตาดีคนนึง

"นี่นังชะนี! ฉันชักจะไม่ไหวกับเธอแล้วนะ เมื่อวานก็แหกปาก วันนี้ก็โหยหวน รู้จักเกรงใจชาวบ้านบ้างสิ"

อึก! ฉันกลืนก้อนสะอื้นแทบไม่ทัน ตกใจกับน้ำเสียงท่าทางผู้ชายคนนั้น จนตัวเองสะอึก...อึกๆไม่หยุด

"ฉันขอโทษ อึก พอดี...แม่ง ทำไมฉันต้องอธิบายนายวะ-_-" เขากอดอกและกลอกตามองบน

"ไม่อธิบายฉันก็เห็นหมดย่ะ ว่าจะออกไปข้างกับผัวแต่ดันเจอช็อตเด็ด เธอมันชะนีโง่..ไปตบเขา แทนที่จะลากเข้าห้องไปกินสวยๆ เล่นตัวอยู่ได้! นี่!!..หยุดร้องไห้เสียงดังด้วยนะ! ลำใย!!"

เล่นตัว...

"ฉันเล่นตัวเหรอ? -_-"

"อะไรอีกล่ะย๊ะ!? "

"ที่นายพูดเมื่อกี้.. งั้นฉันถามอะไรหน่อยสิ ที่ผู้ชายทำแบบนั้น คือเขาชอบ..ฉันใช่ไหม?-_-" เขาถอนหายใจ ยาวๆใส่ฉัน และโบกมือโบกไม้ไปมา เขาดูตุ้งติ้งมาก! ทั้งที่เสื้อผ้าหน้าผมแมนโคตร

"เออสิย๊ะ ถ้าไม่ชอบ..เขาคงชกหน้าเธอกลับไปแล้ว" ชอบ?! หัวใจฉันที่ห่อเหี่ยว มันพองโตขึ้นมาอีกครั้ง แต่ชอบแล้วยังไงต่อวะ..กูตบหน้าไคล์จนหน้าเขาหัน

"ฉันต้องทำยังไง..ฉันแค่ตกใจ แล้วพลั้งมือ-_-"

"โอ้ยยยย มันเรื่องของหล่อนย่ะ! ฉันไม่รู้หรอก อย่าเสียงดังอีกนะ !" เขาหมุนตัวจะกลับห้อง แต่ฉันรีบเดินไปขวางทางไว้ก่อน

"เดี๋ยว! ถ้าไม่อยากให้ฉันเสียงดัง นายแนะนำฉันหน่อยดิ-_-"

"ฉัน?" เขาชี้ตัวเอง และถามเสียงสูงปรี๊ด

"ก็นายเป็นผู้ชาย นายน่าจะรู้ดี-_-"

"โอ้ยตาย! หล่อนค๊ะ..ฉันเป็นตุ๊ด ไอ้เรื่องง้อผัว เอ้ย..ง้อชายน่ะ ตุ๊ดอย่างฉันไม่เคยคิดเยอะ....เปย์ไข่ด้วยเงิน^^"

เปย์ไข่ด้วยเงิน -_-!!!!

"แบบไม่ใช้เงินไม่มีเหรอ?..ไคล์ไม่ใช่แมงดา-_-" ผู้ชายคนนั้น เอ่อตุ๊ดคนนั้น..นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกัดฟันมองหน้าฉัน

"ฉันแค่จะมาเตือน..เรื่องหล่อนเสียงดัง! ทำไมฉันต้องมารับฟังและให้คำปรึกษาหล่อนด้วย!"

"เพราะตอนนี้..ฉันไม่รู้จะถามใคร..-_-"

"โว้ย! เออๆ ไม่เปย์ด้วยเงินก็เปย์ตัวไปเลยจ้ะ เขารุกจูบเธอขนาดนั้น แต่ไม่รู้นะ..ว่าเขาจะเอาเธอรึป่าว...เล่นตบเขาจนหน้าหัน ฉันไปละ อย่าเสียงดัง โอเค๊"

เปย์ด้วยตัว..เสียตัวเหรอวะ!? โอ้ยตายเถอะ...ให้กูมีโอกาสง้อเขาก่อน ค่อยคิดเรื่องนั้น! เพราะเมื่อกี้ไคล์ดูโกรธฉันมาก แถมยังถามคำถามแปลกๆฉันอีก

หลังจากที่ถูกตุ๊ดด่า..ฉันก็หมดอารมณ์ดราม่าทันที ก่อนที่จะกลับเข้ามานั่งโง่ๆในห้องแล้วเปิดทีวีดู

กดเปลี่ยนช่อง กดเปลี่ยนช่อง....

โอ้ย! อิผี! หงุดหงิดตัวเองชิบ ฉันไลน์ไปหาเขาดีไหม?..อย่างน้อยก็ไม่เขินมากเท่าไหร่ กูต้องทำอะไรสักอย่างสิวะ!..อย่าปล่อยไว้แบบนี้ ตีสองไคล์ก็บินแล้วนะเว้ย!

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปไลน์ เลื่อนช่องแชทเป็นรอบที่แปด กว่าจะทำใจกดชืื่อเขาได้

LINE -KAI-

ฉัน : เป็นแผลรึป่าว...?

ฉัน : พอดีตกใจ ถ้าเจ็บก็..ขอโทษละกัน

คำว่า'ละกัน'มันดูไม่จริงใจเลยว่ะ แต่ไม่ทันแล้ว..จะลบก็ลบไม่ได้ ฉันจึงเปิดช่องแชททิ้งไว้แบบนั้น เปิดจนจอมันดับไปหลายรอบ ไคล์เขาก็ไม่อ่านไลน์ฉันสักที

ฉันจึงรินไวน์จิบสักพัก..และอาบน้ำเข้านอนปกติ แต่ที่มันไม่ปกติคือมือ! มือแม่งจับโทรศัพท์ตลอดเวลา จนเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขสอง..เวลาที่ไคล์ขึ้นบิน เขาก็ยังไม่อ่านไลน์ฉัน!!

โอ้ยกูจะทำยังไงดี?!...กูพลาดมหันต์ ตอนนั้นกูน่าจะมีสติดึงไคล์เข้าห้อง นั่นไง..เก่งแต่ปากอีกแล้วกู

ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามาปวดหัวมาก...ปวดหัวหนักกว่าเดิมคือไคล์ยังไม่อ่านไลน์ฉัน อะไรวะ?! ปกติเขาอ่านเร็วจะตาย

ถึงบริษัทฉันก็รีบเคลียร์งาน เพราะบ่ายๆตั้งใจจะไปปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งฉันโทรนัดทิชาเพื่อนที่ไม่ปากมากเอาไว้แล้ว ทิชามันเป็นลูกเจ้านายเก่าแม่...ที่ครอบครัวฉันสนิทและรู้จักเป็นอย่างดี

แต่ที่ฉันจำใจเป็นเพื่อนกับมันจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะพี่มันหล่อมากกกก

พอ อันหลังไม่เกี่ยว -_-

"แม่สาวหน้านิ่ง แกจะไปศรีธัญญาหรือไปโรงพยาบาลสัตว์?^^"

เมื่อทิชาเปิดประตูขึ้นรถ มันก็ถามฉันทันที..ก่อนที่จะรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมารัด

"อย่ากวนตีน ฉันจะไปโรงพยาบาลที่แพงที่สุด ไม่อยากให้ข่าวไปถึงหูคนอืื่น-_-"

"จ้า แม่เซเลป แค่ปรึกษาเอง..มันเป็นเรื่องปกตินะแก ใครจะว่าอะไรก็เรื่องของมัน โนสนโนแคร์ ไม่ได้ขอตังค์ใครใช้ อย่าคิดมาก ^^"

"นั่นแก ไม่ใช่ฉัน-_-"

หลังจากนั้น..ทิชามันก็นั่งสงบปากสงบคำ มันเป็นคนเดียวที่นั่งรถกับฉัน..แล้วไม่โหวกเหวกโวยวาย แถมตอนนี้มันยังเทรดหุ้นสบายใจ ไม่มองแม้กระทั่งหน้าฉัน

ไม่นานเราก็มาถึงโรงพยาบาลกัน ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของเพื่อนเจ๊ปลายฟ้า ชื่อน้ำ...อะไรสักอย่าง ช่างเถอะๆ แต่วันนั้นฉันพาเจ๊ปลายฟ้ามา

โอ้ย... แม่ง!! หมอที่ตรวจเจ๊แกหล่อมากกก และยิ่งตอนนี้ฉันกับทิชากำลังนั่งรอพบจิตแพทย์หน้าแผนก ..ที่มีหมอเดินผ่านไปมา แต่ละคนทำเราไม่เป็นอันทำอะไรเลย

ฉันไม่เล่นโทรศัพท์ ทิชามันหยุดเทรดหุ้น เอาแต่นั่งมองผู้ชายและทำตาปริบๆ

"หล่อจัง...^ ^" ทิชาพูดเบาๆและทำหน้าเคลิ้ม...

"วันนั้นพาเจ๊ปลายฟ้ามาตรวจ หล่อกว่าที่เห็นอีก-_-"

"จริงเหรอ? ว้าว..หล่อเหมือนคนนั้นรึป่าว^=^ " ทิชาขยิบตาให้ฉันหันไปมอง เออคนนั้นก็หล่อ...นี่มันโรงพยาบาลหรืออะไรวะ

"รู้สึกว่า..จะหล่อกว่า-_-"

"เชิญคุณกัณณ์รลิน วรพงศ์กุลค่ะ^^" ฉันส่งกระเป๋าสะพายให้ทิชา..ที่ยังมองหมอน้ำลายหก แต่พยาบาลเธอกลับเดินไปหามันอีกคน แล้วเปิดแฟ้ม..

"เชิญเพื่อนสนิทคุณกัณณ์รลินด้วยนะคะ" ทิชายืนขึ้นพยักหน้ารัว มันไม่ถามพยาบาลสักคำ! ว่าอันเชิญมันเข้าไปทำไม

เข้ามาก็เป็นห้องโล่งๆที่มีห้องกระจกเล็กๆแยก ซึ่งฉันถูกพยาบาล..พาไปนั่งที่ห้องเล็กๆนั่นแหละ ส่วนทิชานู้น...มันไปนั่งห้องใหญ่กับหมอ

"รอสักครู่นะคะ จากประวัติที่คุณกัณณ์รลินกรอกมา ..คุณหมออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคนใกล้ตัวค่ะ คุณผู้หญิงคนนั้น เราคิดว่าเป็นคนที่คุณกัณณ์รลินสนิทและไว้ใจที่สุด ไม่งั้นคงไม่ได้มาเป็นเพื่อน..ใช่ไหมคะ?^^"

"ค่ะ สนิทพอตัว-_-" ฉันนั่งเงียบ และพยายามฟัง ว่าหมอถามอะไรทิชา แต่ฟังยังไงก็ไม่ได้ยิน...จนพยาบาลที่อยู่กับฉันเธอนั่งลงข้างๆ แล้วมองเข้าไปในห้องกระจกเหมือนกัน

"คุณกัณณ์รลิน..รู้สึกเกลียดอะไรที่สุดคะ?" ฉันใจจดใจจ่อ..มองทิชาที่คุยกับหมอ จนเผลอตอบพยาบาลไปส่งๆและไม่คิดอะไร

"กรอบ..."

"ใครเป็นคนวางกรอบให้คุณคะ?"

"ทุกคน สภาพแวดล้อม และ ความเป็นพี่คนโต"

"ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ทำไมถึงคิดแบบนั้น?"

"ตั้งแต่เข้าโรงเรียนประจำ ที่กินอยู่เหมือนค่ายทหาร...ฉันเบื่อ ฉันไม่มีความสุข "

"ในนั้น มันแย่มากเลยเหรอคะ?"

"แย่..เป็นสถานที่แย่ๆที่พ่อแม่หลายคนไม่เคยรู้"

"ยังไงคะ มันเป็นโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?"

"โรงเรียน หึ..มันเหมือนโรงเรียนลูกคุณหนู ที่พ่อแม่ส่งลูกไปดัดสันดานมากกว่า ฉันโดนขโมยของ โดนล้อว่าอีหน้าตาย และ ไม่มีใครคบ..."

"ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมไม่บอกพ่อแม่คุณกัณณ์รลินคะ"

"พ่อมองโลกในแง่ดีเกินไป อะไรก็เป็นเรื่องตลกและเป็นบททดสอบ แต่ฉันไม่เคยตลกกับพ่อสักครั้ง..ฉันไม่อยากทดสอบอะไร ฉันอยากเป็นผู้หญิงปกติที่มีความสุขกับสิ่งที่ฉันเลือก แต่ฉัน...ไม่ได้เลือกอะไรสักอย่าง แตกต่างกับน้องชายฝาแฝดฉัน...ที่อยากเรียนกัปตันก็ได้เรียน อยากเรียนที่อเมริกาก็ได้ไป"

"ถ้าเป็นแบบนั้น..ทำไมไม่บอกคุณแม่คะ?"

"ฉันไม่สนิท"

"ค่ะ ตอนนี้คุณชอบอะไรบ้างคะ...คุณชอบอาหารอะไร สีอะไร รู้สึกสนใจอะไรเป็นพิเศษไหม?"

"ฉันไม่รู้ ฉันรู้อย่างเดียว คือฉันชอบผู้ชายคนนึง ผู้ชายคนนั้นเขาชื่อไคล์...ฉันอยากได้เขามาก อยากเป็นเจ้าของเขา เพราะเขาเป็นสิ่งเดียวที่ฉันได้เลือก แต่ไม่รู้..ว่าเขาจะเลือกฉันไหม"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน