"ไม่เป็นไร..ดูแลแฟนแค่นี้ สบาย^^" สายตาที่มองมาฉันเห็นมันส่อแววเศร้า เชนคงจะเหนื่อยมากจริงๆ
"อดทนนะเชน พี่ฮาวายกลับมาแล้วไทเปดีขึ้นชัวร์^^"
"อื้ม ขนาดวันแรกเรายังรู้สึกได้เลย กัปตันต้นไม้คงบอกเจแปนแล้วสินะว่าไปเจอเรามา"
"ใช่..เขาบอกแล้ว เชนเรื่องที่ผ่านมาน่ะช่างมันเถอะนะ ตอนนี้โฟกัสที่ไทเปดีกว่า เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม^^" เชนยิ้มแล้วเอาศอกค้ำระเบียงมองออกไปข้างนอก
"แต่เจแปนโชคดีนะ ที่ได้กัปตันต้นไม้เป็นแฟน เขาหล่อ รวย นิสัยดี แถมเป็นลูกชายเจ้านายเราอีก^^" ลูกชายเจ้านาย?! ฉันพลาดข่าวอะไรไปรึป่าว พอฉันทำหน้างง เชนเขาก็หัวเราะเบาๆก่อนจะเดินนำเข้าไปนั่งข้างๆไทเป จนฉันต้องรีบตามเข้าไปถาม
"ลูกชายเจ้านายยังไงเชน?"
"เราทำงานที่บริษัทมาสเตอร์มอนสเตอร์ บริษัทของบ้านกัปตันไง^^" พี่ฮาวายตกใจกว่าฉัน เสียงเฮ้ย! ที่ดังขึ้นพร้อมกัน เสียงพี่ฮาวายดังกว่าฉันมาก
"โลกกลมนะ งั้นเชนก็รู้จักใบไม้ล่ะสิ^^" เชนพยักหน้ารัว
"รู้จักๆครับ เจ้านายผม ผมจะไม่รู้จักได้ไง ^^" ฉันนั่งลงข้างๆพี่ฮาวาย เพิ่งนึกได้ว่าพี่ใบไม้เคยบอก..ว่าเดทกับพี่ฮาวายแปปนึง สงสัยพี่ฮาวายจะยังไม่รู้อีก..ว่ากัปตันของฉันเป็นน้องชายพี่ใบไม้
"พี่ฮาวายคะ..เอ่อ กัปตันเขาเป็นน้องชายแท้ๆพี่ใบไม้ด้วยนะ^^" พี่ฮาวายอึ้งกำลังสอง มองฉันสลับกับเชนทันที
"เฮ้ย โลกกลมมาก! สงสัยพี่ต้องได้เจอแล้วล่ะ^^" ฉันยิ้มและขยับไปจับแขนพี่ฮาวาย
"ได้ค่ะ..ได้เจอแน่นอนแต่คงสักพัก เพราะเจแปนมีบินพร้อมเขาพรุ่งนี้ บินตั้งสองวัน เอ้อ..ไทเปอยากได้อะไรไหม? เชน พี่ฮาวายด้วย ไม่คิดค่าหิ้วค่ะ^^" ไทเปยิ้มนิดๆแล้วเปิดนิตยสารใต้โต๊ะให้ฉันดู
"เอาลิปสติกสีนี้ค่ะ ^^" พอไทเปยิ้มออก เชนก็ลูบหัวน้องเล่น ฉันจึงดึงนิตยสารนั้นมาดูแล้วจำลายละเอียดของที่น้องอยากได้ไว้
"เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝากนะ^^" พอฉันปิดนิตยสารเก็บใต้โต๊ะ พี่ฮาวายก็มองนาฬิกาข้อมือ..แล้วหันไปหาไทเป
"พี่ต้องเข้าเวรแล้ว ไว้พี่จะมาหาใหม่นะไทเป^^" แน่นอนรอยยิ้มไทเปหายวับไปกับตา น้องเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด แถมตอนนี้ก้มหน้าก้มตามองนิ้วตัวเองด้วย
"จะไปอีกแล้วเหรอคะ?" ไทเปถามเสียงสั่น จนพี่ฮาวายมองหน้าฉันสลับกับเชน
"เอ่อ..ครับ พี่ต้องไปทำงาน...พี่ไม่หายไปไหนหรอก พี่มาหาแน่นอน หรือไทเปจะไปโรงพยาบาลกับพี่ด้วย ไปไหม^^" ไทเปส่ายหน้าเบาๆไม่ยอมมองพี่ฮาวาย
"ไปทำไมคะ พี่ฮาวายทำงานอะไร? เป็นหมอเหรอคะ?"
"ใช่ อยากไปเที่ยวที่ทำงานพี่ไหม^^?" ช่างคิด ใครจะอยากไปเที่ยวโรงพยาบาล แต่ช่างเถอะ..พี่ฮาวายคงไม่มีอะไรจะชวนไทเปแล้ว
"ไม่ค่ะ ไม่ชอบ" ไทเปตอบน้ำเสียงงอนๆเหมือนเดิม จนพี่ฮาวายลุกขึ้น เดินไปนั่งยองๆง้อเด็ก
"ไทเปเรายังไม่ได้กอดกันเลยนะ" ทันทีที่พี่ฮาวายพูดจบ ไทเปก็หันขวับ..ไปกอดพี่ฮาวายแน่น
"กอดแล้วค่ะ กอดแล้ว..ไทเปไม่อยากให้พี่ฮาวายไปไหน ฮือๆ พี่ฮาวายนิสัยไม่ดีชอบทิ้งน้อง" พี่ฮาวายยิ้มแล้วลูบหัวไทเปปลอบ
"แต่ก่อนพี่นิสัยไม่ดี ตอนนี้พี่นิสัยดีแล้วนะ..ให้โอกาสพี่นะครับ พี่อยากดูแลน้องสาวทั้งสองมากๆ อีกอย่างพี่โสดก้วย นอกจากงานก็มีแต่น้องๆนี่แหละ^^"
ไทเปถอนกอดออกมา แล้วหัวเราะปนน้ำตา
"ฮึกๆ...สมน้ำหน้า ไทเปไม่ให้มีแฟนนะ..เดี๋ยวผู้หญิงคนนั้นแย่งความรักจากพี่ฮาวายไปหมด"
"โอโห..ทำไมแสบแบบนี้ไทเป ไม่อยากมีหลานรึไง พี่แก่แล้วนะ..สามสิบแล้วให้พี่มีเมียเถอะ^^" พี่ฮาวายดึงจมูกไทเป จนน้องสาวคนเล็กทำหน้ายู่
"ก็ได้ค่ะ แต่ต้องผ่านด่านพี่เจแปนกับไทเปก่อน "
ฉันรีบพยักหน้าทันที เห็นด้วยกับข้อนี้
"โอเคๆ ถ้ามี..พี่จะพามาให้น้องๆดูตัว สัญญา" แล้วพี่ฮาวายก็เกี่ยวก้อยดีกับไทเปเรียบร้อย
หลังจากนั้นฉันกับพี่ฮาวายก็บ้ายบายน้องออกมา ไม่อยากจะเชื่อ..พอไทเปออกมาจากห้องกับเชนน้องดีขึ้นมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าอาการแบบนั้นมันจะมาอีกเมื่อไหร่
ระหว่างทางพี่ฮาวายเลยบอกฉันว่า..ถ้าว่างพี่เขาจะชวนน้องออกไปเดินเล่น เพราะยิ่งอยู่ในห้อง..น้องจะยิ่งฟุ้งซ่าน เชนเองเขาก็ต้องมีการมีงานทำ บางทีที่ไทเปคลุ้มคลั่งแบบนั้น..เพราะเชนไม่อยู่ ไม่มีเวลาให้
พอไม่มีเชน ไทเปก็เหงาแล้วควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ต้องหาที่ระบายกับคนนู้นคนนี้ แต่ฉันเห็นนะ..ว่าน้องพยายามฝืนเหมือนกัน ตอนที่กอดขาพี่ฮาวายตอนนั้น..ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ไทเปคงล้วงไข่ไปแล้ว
และเสียงนาฬิกาปลุกที่ดัง ก็ทำฉันตื่นงัวเงียขึ้นมา ก่อนจะรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่า..ร่างใหญ่ที่นอนกอดเมื่อคืน ไม่อยู่แล้ว...
ฉันรีบเปิดผ้าห่มออกแล้วเดินไปหาเขาทุกที่ ทั้งในห้องน้ำ ในครัว โซฟา ไม่มีวี่แวว...จนหันหลังกลับ ฉันก็ไปสะดุดตากับโพสอิทสีส้มที่ติดตรงประตูห้องนอน
ฉันไปรับพรจากย่าก่อนบิน
และเรา..ไม่ควรไปพร้อมกัน
ฉันอ่านมันจบนานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม..ไม่ยอมวางโพสอิทในมือลงสักที จนเสียงนาฬิกาที่ฉันตั้งปลุกไว้ทุกสิบนาทีมันดังขึ้นอีกเรียกสติฉันกลับมา
ฉันจึงไปอาบน้ำแต่งหน้า ก่อนจะเปิดกระเป๋าเดินทางใส่เครื่องสำอางเข้าไป แล้วเรียกแท็กซี่ไปสนามบิน
โชคดีที่ไฟล์ทนี้ฉันบินกับพี่นาเดียร์ ฉันไม่เหงามาก..เพราะคนขับเครื่องบินเขามึนตึงใส่ฉันตั้งแต่เมื่อวาน ฉันกะจะชวนเขาไปกินหมึกดุกดิกกับโซจูริมฟุทบาท ที่เกาหลี แต่ต้องดูสถานการณ์และอารมณ์เขาหลังแลนด์ก่อน ว่ามันจะไปกันรอดไหม
"ไปเกาหลีครั้งไหน ก็ไม่สุขใจเท่าครั้งนี้ เย้ๆ^^" พอฉันลากกระเป๋าเข้าไปเจอพี่นาเดียร์ พี่นาเดียร์ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาฉัน พร้อมกับโชว์ตารางบินใหม่ของตัวเองให้ดู
"นี่ๆเจแปน..พี่ได้ขึ้น Business class แล้วนะ^^" ฉันหยุดเดินแล้วหันไปปรบมือรัวๆ จนพี่นาเดียร์สวมกอดฉันแน่น แล้วเอนซ้ายเอนขวาจนเราสองคนแทบล้มตึงไปด้วยกัน
"ดีใจๆตามพี่มานะ ว่าแต่..กัปตันต้นไม้ไปไหนล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ? วันนี้แฟนใครขับเครื่องบินน๊า^^"
ฉันส่ายหน้าเบาๆ จนพี่นาเดียร์ขมวดคิ้วสงสัย..และค่อยๆหุบยิ้มลง
"อะไร? ทะเลาะกันเหรอ? มานี่มาๆ อย่าคิดมาก..เครื่องแลนด์ที่นู้นก็ไปเที่ยวกันกระหนุงกระหนิง สวีทวี๊ดวิ้ว..ยังไงพี่กับเจแปนก็นอนด้วยกัน ถ้าเจแปนไม่กลับห้องพี่จะรูดซิปปากเงียบกริบเอง กิกิ^^"
"โถ่พี่นาเดียร์ เจแปนยังไม่รู้อารมณ์เขาเลยค่ะ ไม่รู้เขาอารมณ์ไหน ถ้าพ่นไฟใส่เจแปนขึ้นมาทำไง ขอบคุณพี่นาเดียร์มากนะคะ ไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวไม่ทัน^^"
ฉันควงแขนพี่นาเดียร์แล้วเดินลากกระเป๋าเข้าเกต พอขึ้นมาบนเครื่องเก็บกระเป๋าเรียบร้อย..กัปตันต้นไม้ก็ออกมาบรีฟงาน
แน่นอน..เขาไม่มองฉัน ทั้งที่ฉันพยายามมองเขาไม่ละตา เขาก็ยังทำเมินมองไปทางอื่นอยู่นั่นแหละ
เฮ้อ! จะงอนไปถึงไหนเนี่ย หางตาก็ไม่มองกัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน