ตอนที่ 418 เก้านักเขียนปะทะฉู่ขวง
และท่ามกลางพายุโหมซัดครั้งนี้ สิ่งที่ดึงดูดสายตาได้มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือนักเขียนนิทานจากเยี่ยน กระแสอันทรงพลังของการ์ตูน ทำให้แทบเห็นเงาอันเปี่ยมไปด้วยความเร่งร้อนของพวกเขาได้ทั่วทุกแห่งหน…
ประชันวรรณกรรม!
นักเขียนนิทานเด็กจากเยี่ยนหลายคนเริ่มเปิดฉากท้าประชันวรรณกรรมกับคู่แข่งที่คิดว่าฝีมือสูสีกัน นอกจากนั้นเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ด้วยการใช้แพล็ตฟอร์มออนไลน์อย่างปู้ลั่วและบล็อกในการเริ่มต้นกระบวนการท้าประลอง
ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา!
เมนชันถึงกันซึ่งๆ หน้า!
นี่คือธรรมเนียมของชาวเยี่ยน!
เมื่อก่อนมีอุปสรรคคือกำแพงทางวัฒนธรรม ความเข้าใจที่ชาวเยี่ยนมีต่อนักเขียนในฉิน ฉี และฉู่นั้นยังมีจำกัด ดังนั้นนับตั้งแต่เมื่อคืนวานเป็นต้นมา ชาวเยี่ยนในแวดวงนิทานหลายคนจึงเร่งรีบทำการบ้าน การประเมินในครั้งนี้อาจไม่ได้ถูกต้องแม่นยำ แต่โดยมากมักไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อเผชิญหน้ากับการประชันวรรณกรรมแล้วควรจัดการอย่างไร
นักเขียนนิทานแทบทุกคนจากทั้งฉิน ฉี และฉู่ล้วนเลือกรับคำท้าโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่เพียงเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้โปรโมตผลงานใหม่ ถึงอย่างไรคุณสมบัติหนึ่งของการประชันวรรณกรรมก็คือสามารถดึงดูดให้ผู้คนแห่มามุงดูได้มาก
ทว่าสถานการณ์ในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งใด
เนื่องจากชาวเยี่ยนที่ส่งคำท้าประชันวรรณกรรมนั้นมีมากเกินไปเหลือเกิน ส่งผลให้เกิดสังเวียนซึ่งเปิดฉากประลองอยู่ทั่วทุกแห่งหน จนผู้คนไม่รู้ว่าควรดูสังเวียนใดดี นั่นทำให้การประชันวรรณกรรมเหล่านี้สูญเสียความสนใจในวงกว้างที่พวกเขาควรได้รับ
‘ประชันวรรณกรรมกันเต็มไปหมด!’
‘ดูไม่ไหวแล้ว!’
‘เห็นชัดๆ ว่านี่เป็นสงครามครั้งสำคัญของนักเขียนนิทาน แต่ฉันกลับรู้สึกตลกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเด็กกำลังทะเลาะกัน นักเขียนนิทานไม่เหมาะกับภาพความดุเดือดแบบนี้’
‘คนเยี่ยนนี่น่ากลัวจริงๆ’
‘สิ่งที่ผมสนใจที่สุดในตอนนี้ก็คือการประชันวรรณกรรมที่อามู่มู่ท้าอาจารย์หยวนหยวน อามู่มู่เป็นหนึ่งในนักเขียนนิทานที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของมณฑลเยี่ยน อาจารย์หยวนหยวนถึงแม้จะเขียนนิทานขนาดยาวเป็นหลัก แต่ครั้งนี้เขียนสปินออฟของเรื่องลูกหมูสามตัว ความทรงจำในวัยเด็กจะมีส่วนช่วยได้มาก’
‘ฝั่งปรมาจารย์อูกุยก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันนะ!’
‘ทางปรมาจารย์อูกุยผมขำแทบแย่ นิทานเรื่องเจ้าเต่าน้อยมีอิทธิพลต่อผู้คน ต่อให้ตัดนักเขียนนิทานที่ยังฝีมือไม่เข้าขั้นออกไปส่วนหนึ่งแล้ว นักเขียนนิทานเบอร์ต้นๆ จากเยี่ยนโจวที่ท้าประชันวรรณกรรมกับปรมาจารย์อูกุยก็มีตั้งหกคน ปรมาจารย์อูกุยเองก็คงบ่นเหมือนกันว่าไม่รู้จะรับคำท้าของใคร’
‘…’
สังเวียนประชันวรรณกรรมเบ่งบานทั่วทุกแห่งหน ผู้เขียนเรื่องเจ้าเต่าน้อยอย่างปรมาจารย์อูกุยก็ตกเป็นเป้าหมายของสาธารณชน และทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากชาวเน็ตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนล้วนคิดว่าปรมาจารย์อูกุยเป็นนักเขียนที่ได้รับคำท้าจากชาวเยี่ยนมากที่สุดในกระแสนิทานครั้งนี้ จู่ๆ ชายคนหนึ่งซึ่งไม่มีใครนึกถึงก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างฉับพลัน
‘หลานเมิ่งชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เป่าเส่าชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘โอวเทียนหมิงชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เทียนจี้ไป๋ชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘เอ้อป้าเมียวชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘อวี้เจ่อจื้ออวี๋ชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
‘อู๋กู้เตอเสี่ยวพั่งชาวเยี่ยนส่งคำท้าถึงฉู่ขวง!’
มีนักเขียนทั้งหมดเจ็ดคนจากมณฑลเยี่ยนที่ส่งคำท้าถึงฉู่ขวงพร้อมกัน และได้ทำลายสถิติคำท้าจากนักเขียนหกคนของปรมาจารย์อูกุย ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนจากทั้งฉิน ฉี และฉู่ต่างตกตะลึง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทันใด
‘อะไรกันครับเนี่ย’
‘เล็งฉู่ขวงกันหมดเลยเหรอ’
‘คนเยี่ยนกลุ่มนี้คงทำการบ้านกันมาไม่ดี คิดว่าฉู่ขวงก็เป็นนักเขียนนิทานฝีมือดีมากคนหนึ่ง ยังไงซะช่วงนี้สื่อต่างๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของฉู่ขวง เพียงแต่คนเยี่ยนกลุ่มนี้คงนึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงไม่ใช่นักเขียนนิทาน ผลงานนิทานของเขาสิริรวมแล้วมีหนึ่งเรื่องถ้วน เพียงแต่ผลงานเรื่องเดียวของเขาสร้างอิทธิพลที่น่ากลัวได้มากทีเดียว’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน