Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 47

ตอนที่ 47 ความเชื่อมโยงที่ใฝ่ฝัน

วันต่อมา

ศูนย์กีฬากลางฉินโจว ด้านหน้าสนามการแข่งขันเทนนิสชิงชนะเลิศรายการหนึ่ง ฮั่นฉีซึ่งสวมชุดของนักกีฬาขอบตาหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด พลางหาววอดอยู่นาน

“แย่จัง”

ง่วงนิดหน่อยแฮะ

แม้ว่าเมื่อคืนฮั่นฉีจะปิดไฟนอนด้วยพลังความอดกลั้นอันมหาศาล แต่สิ่งที่ทำให้เขาเศร้าก็คือ หลังจากตนเองปิดไฟนอนแล้ว ในสมองก็ยังเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิส ยิ่งขบคิดก็ยิ่งนอนไม่หลับ ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าสะลึมสะลือไปนานแค่ไหนกว่าจะเข้าสู่ห้วงนิทราได้สำเร็จ

“เตรียมพร้อมได้แล้ว”

เสียงของโค้ชดังขึ้น

หลังฮั่นฉีอบอุ่นร่างกายเสร็จแล้วก็ลงสนาม

นี่เป็นการแข่งขันเทนนิสภายในฉินโจว ผลแพ้ชนะไม่ได้สำหลักสำคัญอะไรมากนัก แต่ฮั่นฉีไม่ค่อยอยากแพ้สักเท่าไหร่ เพราะวันนี้เพื่อนของเขาดูการแข่งขันอยู่ข้างสนามด้วย เขาไม่อยากทำขายหน้าต่อหน้าเพื่อน

ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชมข้างสนาม

การแข่งขันเทนนิสในครั้งนี้ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

คู่แข่งของฮั่นฉีเป็นนักกีฬาอาวุโส ความสามารถไม่ธรรมดา แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นนักกีฬาอาวุโส ดังนั้นสภาพร่างกายของอีกฝ่ายจึงสู้คนหนุ่มอย่างฮั่นฉีไม่ได้ แรงในการหวดลูกเทนนิสจึงค่อยๆ ลดลง

หลังจากรวบรวมสมาธิแล้ว

คะแนนจึงไล่เบียดฮั่นฉีขึ้นมาเรื่อยๆ

ทั้งสองฝั่งจึงค่อยๆ เข้าสู่สภาวะกดดัน

ภายใต้ระดับความสามารถโดยรวมที่สูสีกัน การแข่งขันในช่วงหลังล้วนแต่ใช้ความความตั้งใจและสภาพจิตใจของนักกีฬา และนี่คือสิ่งที่แตกต่างกับคำบรรยายซึ่งเท่และตื่นเต้นเร้าใจในปรินซ์ออฟเทนนิส

ฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ!

ทำไมนึกถึงนิยายอีกแล้ว!

ยังแข่งอยู่เลยนะ!

ฮั่นฉีข่มกลั้นความรู้สึกพิสดารในใจ ยังคงโรมรันพันตูกับคู่แข่ง ผลแพ้ชนะของทั้งสองฝั่งแสนอิหลักอิเหลื่อ ดังนั้นผู้ชมจึงดูแล้วได้อรรถรสมาก บรรดาผู้บรรยายก็ยิ่งคาดเดาทิศทางของการแข่งขันอย่างกระตือรือร้น

“ซับซ้อนเกินคาดเดาจริงๆ”

ผู้บรรยายกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฟอร์มของฮั่นฉีตอนเริ่มเกมเหมือนจะไม่ดี แต่พอการแข่งขันดำเนินไป เขาก็ค่อยๆ หาจังหวะของตัวเองกลับมาได้ และนักกีฬาอาวุโสคู่แข่งของฮั่นฉี พวกเราจะได้เห็นว่าเขาเล่นเทนนิสด้วยประสบการณ์และไหวพริบอย่างไรภายใต้สถานการณ์ที่สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย…”

ลมหายใจหนักหน่วง

การแข่งขันดำเนินมาครึ่งชั่วโมง

ในการแข่งขันเกมที่หก และเป็นเกมตัดสินผลแพ้ชนะ ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเสมอกัน การแข่งขันจะเอียงไปทางฝั่งใดก็ขึ้นอยู่กับเกมนี้แล้ว เพราะฉะนั้นทั้งสองฝั่งจึงระมัดระวังมาก ไม่กล้าบุกอย่างมุทะลุ ความเสี่ยงในการบุกนั้นมีมากเกินไป

‘พลั่ก!’

ฮั่นฉีพลาดไปหนึ่งลูก

ความเสียเปรียบของเขาเพิ่มมากขึ้นในชั่วพริบตา

ภายใต้ความเหนื่อยล้าแสนสาหัส ใบหน้าของคู่แข่งประดับรอยยิ้มโดยไม่ซ่อนเร้น แนวโน้มของการแข่งขันในตอนสุดท้าย เป็นประจักษ์ขึ้นมาหลังจากที่ฮั่นฉีทำพลาดไปหนึ่งลูก

‘อยากแพ้เหรอ’

ชั่วขณะนั้นเองฮั่นฉีก็นึกถึงปรินซ์ออฟเทนนิสขึ้นมา ในนั้นบรรยายภาพการแข่งขันเอาไว้มากมาย หนึ่งในนั้นใช่ว่าจะไม่มีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับฮั่นฉี “ถ้าเป็นหลงหม่าจะทำยังไงนะ”

ฮั่นฉีรู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้ว

ในนิยายมีสถานการณ์การแข่งขันแบบอุดมคติเต็มไปหมด ท่าไม้ตายจำนวนมากดูดีแต่ใช้ไม่ได้ ทว่าที่บ้าไปกว่านั้นก็คือขณะที่เขากำลังจะเสิร์ฟลูกถัดไป อยู่ๆ ก็ตะโกนออกมาว่า

“ทวิสต์เสิร์ฟ!”

นี่ไม่ใช่วิธีเสิร์ฟลูกแบบหน้าตรงทั่วไป ฮั่นฉีเลือกเสิร์ฟลูกด้านข้างอย่างที่บรรยายในปรินซ์ออฟเทนนิส ความเร็วของแร็กเก็ตตัดผ่านพื้นผิวของลูกเทนนิส หวดลูกออกไปโดยส่งผ่านแรงจากการบิดของแขนด้านใน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน