ไม่ใช่เพลงภาษาอังกฤษหรอกหรือ?
นี่คือการแขวนหัวแพะแต่ขายเนื้อสุนัขดีๆ นี่เอง?
ทุกคนล้วนถูกชื่อเพลงทำให้ไขว้เขว!
เซี่ยนอวี๋ทำให้ชาวฉู่อิจฉาราวกับกินเลมอนจนเปรี้ยวเข็ดฟันซะที่ไหนกันล่ะ เห็นชัดๆ ว่าเซี่ยนอวี๋ยื่นส้มหวานให้ชาวฉู่กิน ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเท่าการหักมุมเช่นนี้แล้ว!
ใครบอกว่าเซี่ยนอวี๋พูดเพลงภาษาฉู่ไม่ได้?
ผลงานเพลง ‘Lemon’ เป็นเพลงฮิต ครองอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลง!
นี่คือเพลงภาษาฉู่เพลงแรกที่หลินเยวียนร้องบนบลูสตาร์!
นี่คือผลงานชิ้นเอกซึ่งคว้าแชมป์บนบิลบอร์ดชาร์ตในประเทศญี่ปุ่นถึงสองปีซ้อน!
ทำลายสถิตินับไม่ถ้วนในแดนปลาดิบ!
ทันทีที่ออกมาก็กลายเป็นเพลงฮิต ซิงเกิลเดียวคว้าแชมป์ไปหกสมัย จนได้รับรางวัลมากมายในฐานะผลงานคลาสสิก!
และผลงานเพลงนี้เอง
ปัจจุบันได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋
“บนโลกนี้มีความสุขที่ไม่อาจหวนคืน
สุดท้ายแล้วเธอได้สอนให้ฉันเข้าใจมัน
อดีตอันมืดมิดที่ซ่อนงำไว้ไม่เคยบอกใคร
หากไม่มีเธออยู่
ฉันคงยังหลับใหลในความมืดมนไปตลอดกาล
สิ่งที่เจ็บปวดไปมากกว่านี้
ฉันรู้ดีว่าไม่มีอีกแล้ว
…”
หลินเยวียนยังคงร้องเพลงต่อไป
ร้องอย่างดื่มด่ำ
ภาษาฉู่ชัดเจนชวนตกตะลึง
เนื้อเพลงภาษาฉู่และคำแปลภาษากลางปรากฏบนหน้าจอใหญ่ด้านหลังเขาในรูปแบบสองภาษา
แสงเย็นบางเบาทำให้แผ่นหลังของเขาแลดูโดดเดี่ยวขึ้นมา
ดวงไฟงามตาค่อยๆ ดับลง
เช่นเดียวกับอารมณ์ของเพลงนี้
เจ็บปวด ขมขื่น และเยียบเย็น
ทว่าทำนองเพลงนั้นไม่ใช่โทนเสียงต่ำชวนปวดร้าว แต่กลับติดหู และจังหวะก็ไม่ได้อ่อนเลย!
“เพลงนี้…”
หวังอวี่ในฐานะชาวฉู่เอ่ยขึ้น ราวกับอยากพูดบางอย่าง ทว่าสุดท้ายแล้วกลับเงียบลง
จากนั้นเขาจึงหลับตาลงอย่างแผ่วเบา ดื่มด่ำไปกับท่วงทำนอง
เขาสัมผัสได้ถึงสายลม
ลมทะเลยามฤดูร้อนโชยปะทะใบหน้า
อากาศเต็มไปด้วยรสเค็มและขมอ่อนๆ
เฉกเช่นเลมอน
หวังอวี่กำลังเคลิบเคลิ้ม
ชั่วขณะนั้นไม่เพียงหวังอวี่ ชาวฉู่ล้วนดื่มด่ำในบทเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่มีร่วมกันในดนตรีได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านการแสดงสดในครั้งนี้
เพราะเพลงนี้ไม่ได้ดึงดูดเพียงชาวฉู่
ชาวฉิน…
ชาวฉี…
ชาวเยี่ยน…
ชาวหาน…
แฟนๆ ทั้งสี่ทิศของเวทีต่างเปิดใจรับเสียงเพลงและท่วงทำนองนี้อย่างเงียบเชียบ
หลังจากนั้น
บรรยากาศพลุ่งพล่าน คลื่นลูกใหญ่ถั่งโถม!
น้ำเสียงของหลินเยวียนหนักขึ้นฉับพลัน แสงสปอตไลต์ซึ่งหายไปกลัวมาสว่างไสวอีกครั้ง เฉกเช่นเสียงของเขาที่ดังกระหึ่มขึ้นมา
“ต่อให้เป็นความเจ็บปวดในวันนั้น
หรือความโศกเศร้าในวันนั้น
ฉันรักสิ่งเหล่านั้นไปด้วยกันกับเธอ
กลิ่นของเลมอนฝาดขมยังคงตราตรึงอยู่ในใจ [1]
ไม่อาจกลับไปจนกว่าสายฝนจะหยุดลง
ราวกับเลมอนถูกผ่าครึ่งซีก[2]
ตราบจนวันนี้
เธอยังคงเป็นแสงสว่างของฉัน
…”
ผู้คนต่างจับจ้องตาโต!
ความรู้สึกรุนแรงขึ้นในใจ!
ในผลเลมอนสีเหลือง นอกจากความขมฝาดชวนน้ำตาไหล ดูเหมือนว่ายังมีรสหวานซึ่งแผ่ซ่านท่ามกลางรสขม
บางทีนี่อาจเป็นความหมายโดยนัยของเลมอน
เพราะความขมฝาดของเลมอนจะมาพร้อมกับกลิ่นหอมจางๆ
นั่นคือแสงแรงซึ่งทะลุผ่านหมู่เมฆดำหลังจากความเจ็บปวดและโศกเศร้าผ่านพ้นไป!
“ฉันเดินตามแผ่นหลังของเธอไปในความมืดมิด
ยังจดจำภาพร่างนั้นได้อย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่พบเจอกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจแบกรับ
น้ำตามักรินไหลไม่หยุดยั้ง
เธอผ่านอะไรมาหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน