หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 127

“คุณซู ได้ยินมาว่าคุณกับประธานลู่ยังตัดความสัมพันธ์ไม่ขาด เรื่องนี้จริงใช่ไหม?”

“คุณซู ได้ยินมาว่าคุณกับประะธานลู่มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน นี้คือลูกชายของพวกคุณใช่ไหม?”

“คุณซู ได้ยินมาว่ากลับมาที่เมืองAครั้งนี้คิดที่จะคืนดีกับประธานลู่ เรื่องนี้จริงใช่ไหม?”

“คุณซู ได้ยินมาว่าประธานลู่ยังคิดถึงและลืมคุณไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นเป็นเพราะคุณเฉินคู่หมั้นของประธานลู่หรือไม่ที่กีดกันความรักของพวกคุณสองคน?”

“……”

ฉันยังไม่ทันได้โต้ตอบ ก็ถูกลู่จือสิงปกป้องด้วยการโอบเข้าไปในอ้อมอก แต่คำถามที่พวกนักข่าวถาม ฉันก็ยังได้ยินชัดเจน

“คุณซู——”

ฟางหลินที่รอฉันอยู่แล้วก็รีบเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว

คนพวกนั้นพยายามแทรกตัวเบียดกันไปมา ฉันอุ้มเป้ยเปย ก็ถูกลู่จือสิงปกป้องไว้ตลอด ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มาถึงที่จอดรถ ลู่จือสิงขวางกองทัพพวกนักข่าวเอาไว้ ทำให้ฉันได้ขึ้นรถ

ฉันเพิ่งจะเข้าไปนั่ง ลู่จือสิงก็ขึ้นตามมาด้วย ในเวลานี้ฉันจึงรู้ว่าตัวเองขึ้นมาบนรถของลู่จือสิง

มองดูกองทัพนักข่าวด้านนอก ในเวลานี้จะลงจากรถก็ไม่ได้แล้ว

รถค่อยเคลื่อนตัวออกช้าๆ ฉันเอียงหน้ามองไปที่ลู่จือสิง:“ลู่จือสิง ขอบคุณ”

เขาหันกลับมามองฉัน สายตาที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจไม่ทันที่จะได้กลบเกลื่อน ฉันก็เห็นหมดแล้ว

ฉันชะงักไปเล็กน้อย ความรู้สึกบนใบหน้าของเขาได้กลับสู่สภาพปกติแล้ว:“สองสามวันนี้คุณกับเป้ยเปยยังไม่ต้องกลับไปเมืองD”

ฉันเปิดปากจะพูด นึกถึงนักข่าวเมื่อสักครู่ คนที่โง่ ก็พอเข้าใจแล้ว: “ฉันทำให้คุณต้องเกิดความยุ่งยากแล้วใช่ไหม?”

เขาจ้องมองฉันอยู่สักครู่ จึงจะเปิดปากพูด :“ไม่ใช่ คุณอย่าคิดซี๊ซั้ว”

ฉันเม้มริมฝีปาก ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

ในช่วงเวลานี้จึงทำให้ฉันได้พบว่าตัวเองไม่ได้บอกลู่จือสิงว่าจะมาเมืองAเป็นเพราะว่าการตัดสินใจที่เอาแต่ใจตัวเองล้วนๆ สถานการณ์วันนี้ ถ้าหากว่าไม่ใช่ลู่จือสิงได้ปรากฏตัวออกมา ฉันอุ้มเป้ยเปย กองทัพนักข่าวพวกนั้นมาล้อมรอบ ฉันไม่มีวิธีหนีออกมาได้อย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญที่สุดคือเป้ยเปยยังเล็ก ถ้าหากว่าฉันถูกดึงไปดึงมาไม่ได้ระวังหกล้มลงไป ผลลัพธ์ที่ตามมาเลวร้ายจนไม่กล้าที่จะคิด

ลู่จือสิงหันหน้ากลับไปไม่ได้พูดอะไรอีก ในช่วงฉับพลันนั้นเป้ยเปยที่อยู่ในอ้อมอกฉันยื่นมือออกไปดึงเขา:“อา คุณอา——”

ฉันคาดไม่ถึงว่าเป้ยเปยจะเรียกชื่อเขาขึ้นมา อีกทั้งยังเรียกว่าคุณอา ฉันหน้าเหยเกเล็กน้อย จิตใต้สำนึกทำให้ฉันมองไปที่ลู่จือสิง ใบหน้าของเขานิ่งไม่ไหวติง

ฉันกำลังคิดจะยื่นมือนำเป้ยเปยอุ้มกลับมา เขาเร็วกว่าฉันไปก้าวนึงนำเป้ยเปยเข้าไปกอดไว้ในอ้อมอกแล้ว:“เป้ยเปย ผมคือคุณพ่อ เรียกคุณพ่อ——พ่อ พ่อ!”

ฉันอ้าปากจะพูด สุดท้ายก็คิดว่าช่างเถอะ เขาเป็นพ่อของเป้ยเปย ให้เป้ยเปยเรียกเขาว่าพ่อ ไม่ได้เสียหายอะไร

“ปา ป๊ะ”

พรสวรรค์ด้านภาษาของเป้ยเปยไม่เลวจริงๆ เรียนรู้การพูดได้เร็วมาก ปกติฉันสอนคำศัพท์ที่ง่ายให้กับเขา พูดสามสี่ครั้ง เขาก็สามารถที่จะพูดออกเสียงได้แล้ว ถ้าได้สอนให้ละเอียดกว่านี้สักหน่อย เขาก็สามารถที่จะเรียกคนอื่นได้ชัดเจน

ใบหน้าของลู่จือสิงก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายทันที ฉันเอียงหน้าไปมองเขาเขามีความอดทนที่จะสอนเป้ยเปยเรียกคุณพ่อ เพียงแต่ในใจรู้สึกเหมือนถูกโจมตีเล็กน้อย

ในเวลาที่ฉันกำลังเหม่อลอย ช่วงเวลาฉับพลันนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองที่ฉัน

ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองมา ทำให้ฉันขาดความมั่นใจเล็กน้อย รีบถอนสายตากลับทันที

ระหว่างทางที่อยู่บนรถ ก็เป็นลู่จือสิงที่อุ้มเป้ยเปยตลอดทาง

ฉันหันหน้าไปมองด้านนอกกระจกรถ แต่ในหูก็ได้ยินเเต่เสียงลู่จือสิงที่กำลังเรียก“คุณพ่อ คุณพ่อ ไม่หยุด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันรู้สึกมีแรงกระตุ้นอยากจะร้องไห้

รถจอดในคอนโดบริเวณชั้นล่างตึก ลู่จือสิงอุ้มเป้ยเปย หันหน้ากลับมามองที่ฉัน:“ถึงแล้ว ลงรถเถอะ”

ฉันพยัคหน้าเบาเบา และไม่ได้ยื่นมือไปรับเป้ยเปย

เรื่องวันนี้ฉันยังหวาดกลัว ลู่จือสิงอุ้มเป้ยเปยก็ดีแล้ว ในกรณีที่ยังมีคนถลันเข้ามา อุ้มได้มั่นคงกว่าฉัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้