หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 180

เป้ยเปยตื่นหลังจากที่ลู่จือสิงออกไปทำงานได้ไม่นาน ตอนนี้เขาไม่ได้ติดฉันและเล่นเองคนเดียวได้แล้ว หลังจากคอยดูเขากินอาหารเช้าจนเสร็จฉันจึงหยิบโน้ตบุ๊กออกมาหางานขณะที่คอยดูเป้ยเปยไปด้วย

ลู่จือสิงโทรมาหาฉันตอนสิบโมงกว่าๆ เพื่อบอกให้ฉันพาเป้ยเปยออกไปเจอคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงของเขาตอนบ่ายวันนี้

ถ้าเขาไม่โทรมาเตือนฉันคงลืมไปแล้ว

พี่เลี้ยงคนนี้เป็นคุณป้าวัย 45 ปีที่หลี่จื้อเป็นคนหามาให้ เธอทำงานนี้มานานกว่าสิบปีโดยที่ผู้ที่เคยว่าจ้างทุกคนต่างให้ผลการประเมินไว้สูงมาก

ในตอนบ่ายฉันพาเป้ยเปยไปพบป้าจ้าวและคุยกับเธออยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง เธอเป็นคนอ้วนท้วมเล็กน้อย ดูเป็นคนคุณป้าที่มีความอดทนและค่อนข้างมีความรู้ความสามารถ

เพราะเหตุการณ์เรื่องพี่เลี้ยงเด็กที่เกิดขึ้นในหางโจวเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ฉันกลัวจนต้องเลือกพี่เลี้ยงด้วยความใส่ใจมากเป็นพิเศษ

หลังจากได้มาพบเธอด้วยตัวเองและมีหลี่จื้อกับลู่จือสิงที่จะคอยตรวจสอบให้อีก ฉันก็ค่อยโล่งใจ

ป้าจ้าวบอกว่าอยากเริ่มงานอาทิตย์หน้าเพราะต้องกลับไปจัดการเรื่องบางอย่างที่บ้านเกิดเสียก่อน

ฉันไม่ขัดข้องอะไรเพราะไม่ได้รีบร้อนว่าจะต้องเริ่มงานในวันสองวันนี้

ฉันกำลังทำอาหารอยู่ในครัวในตอนที่ลู่จือสิงกลับมาถึงในตอนเย็น ส่วนเป้ยเปยกำลังเล่นของเล่นอยู่คนเดียวในคอกกั้นเด็ก

ฉันไม่ทันสังเกตว่าลู่จือสิงกลับมาแล้วจนกระทั่งเขาเข้ามากอดฉันจากทางด้านหลัง “ผัดอะไรหรือ หอมจัง?”

ฉันหันหน้าไปมองเขา “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้เลย อย่าเกะกะฉัน”

ไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อย แต่เขายังพาดคางลงมาที่บ่าฉันด้วย “ผมไม่ยุ่งกับมือคุณก็ได้”

ฉันเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆ “คุณรีบปล่อยเลยนะ จะไหม้แล้ว!”

ฉันกระทุ้งศอกใส่เขา จนในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยฉันแล้วก้าวถอยหลังไป

ฉันรีบตักอาหารที่ทำเสร็จแล้วใส่จาน แล้วยื่นจานนั้นส่งให้เขา “ยกออกไปให้หน่อยค่ะ”

เรากินกันแค่สามคนจึงไม่จำเป็นต้องทำอาหารมากนัก ฉันทำอาหารประเภทเนื้อเสร็จไปแล้วสองจาน เหลือแค่ผัดผักอีกจานหนึ่งที่ใกล้จะเสร็จทำแล้วเหมือนกัน

หลังจากสิ้นสุดมื้ออาหารฉันก็เริ่มดูประกาศรับสมัครงานต่อ ลู่จือสิงถามฉันว่าพี่เลี้ยงเด็กที่ไปเจอวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ฉันจึงเล่าสิ่งที่คิดไว้ให้เขาฟัง

“หลี่จื้อไปสืบมาแล้ว เพื่อนบ้านคนเก่าของป้าจ้าวคนนี้บอกว่าเธอนิสัยดี ลูกชายเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนสามีเป็นคนขับแท็กซี่ ทั้งคู่เป็นคนดีแล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย”

ฉันพยักหน้า “เท่าที่ฉันคุยกับป้าจ้าววันนี้เธอก็ดูโอเคดี ตอนนี้ก็เลือกเธอไปก่อนแล้วทดลองงานสักสองสามวัน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราค่อยตกลงจ้างเธอ”

เงินเดือนของพี่เลี้ยงเด็กในเมือง A ค่อนข้างสูงมาก เราเพียงต้องการคนมาคอยดูแลเป้ยเปยแค่ตอนตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นช่วงหยุดพัก ฉันคำนวณค่าอาหารกลางวันให้เธอไปด้วย เป็นเงินเดือน 6,000 และค่าอาหารกลางวันอีกเดือนละ 600 หยวน ซึ่งถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ดีมากทีเดียว

ป้าจ้าวจะเริ่มงานทันทีหลังจากจัดการเรื่องทางบ้านเรียบร้อย ส่วนช่วงนี้ฉันกำลังเลือกบริษัทที่จะสมัครงานอยู่และยังไม่ได้ยื่นประวัติไปเลยสักที่

เมื่อป้าจ้าวเริ่มทำงานแล้วฉันจึงจะเริ่มยื่นประวัติส่วนตัว

หลังจากสังเกตการทำงานของป้าจ้าวอยู่สองวันฉันก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็มีบริษัทสองสามแห่งเรียกให้ไปสัมภาษณ์พอดี ฉันจึงเริ่มออกไปหางาน

วันนี้ฉันมีนัดสัมภาษณ์สามที่ สองที่ในตอนเช้าและอีกที่หนึ่งตอนบ่ายสาม

ประวัติการทำงานของฉันก็ไม่ได้แย่ แต่บริษัททั้งสองแห่งที่ไปสัมภาษณ์ในตอนเช้าให้ผลตอบแทนต่างจากที่ฉันคิดไว้มาก ฉันจึงปฏิเสธไปตามตรง

ค่าแรงขั้นต่ำในเมือง A ค่อนข้างสูง แถมฉันยังมีประสบการณ์วางแผนการตลาดมาหลายปี แต่พวกเขากลับเสนอเงินเดือนให้ฉันแค่ 6,000 ซึ่งฉันไม่อาจยอมรับได้ เทียบกับเงินเดือนของป้าจ้าวแล้วยังน้อยกว่าด้วยซ้ำ

แม้เงินเดือนเพียงน้อยนิดนี้จะไม่ใช่เหตุผลหลักที่ฉันออกมาทำงาน แต่ฉันก็ไม่อาจทนทำงานที่ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบได้

ส่วนบริษัทที่เรียกสัมภาษณ์ในตอนบ่ายเป็นบริษัทใหญ่ ตอนยื่นใบสมัครฉันระบุไปว่าต้องการเงินเดือน 8,000 ขึ้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้