ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเขาเรียกฉัน มือฉันสั่นๆและเงยหน้าขึ้นมองเขา ฉันประหลาดใจ:“มีอะไรหรอ?”ฉันลืมไปว่าเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ฉันกำลังคิดว่าลู่จือสิงทำไมถึงพาฉันมา จึงเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าที่ไม่รู้อะไรเลย
เขาไม่พูดอะไรสักคำ และทำงานโดยที่ไม่หยุดพักเพื่อจะบอกฉันว่าจริงๆแล้วเขาต้องการทำอะไร
“ซูยุ่น”
ฉันยืนมองลู่จือสิงที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าฉันจะโง่ก็รู้ว่าตอนนี้เขาต้องการทำอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลู่จือสิงที่ตอนนี้ถือดอกกุหลาบช่อใหญ่อยู่ในมือ
แล้วจู่ๆผู้คนรอบข้างก็กรีดร้องขึ้นมา
ฉันก็เห็นว่ามีลูกโป่งจำนวนมากลอยขึ้นมาจากด้านล่าง สีสันหลากหลายสวยงาม ลูกโป่งแต่ละลูกติดไฟดวงเล็กๆ ที่ค่อยๆสว่างขึ้นทีละนิด
ลูกโป่งอยู่ใกล้มากจนฉันสามารถมองเห็นตัวอักษรที่เขียนไว้ บางลูก “ลู่จือสิงรักซูยุ่นตลอดไป” บางลูก “คุณหญิงลู่ ชีวิตที่เหลืออยู่ขอให้ฉันได้ดูแล” และบางลูก “หวังว่าคุณชายลู่กับคุณหญิงลู่จะมีลูกคนที่สองในเร็วๆนี้”
ไม่ต้องคิดฉันก็รู้ว่านี้เป็นลายมือของใคร
เมื่อมองดูลูกโป่งที่ลอยขึ้นมาทีละลูก ฉันรู้ว่าพวกมันจะลอยขึ้นไปอีกไม่ไกลแล้วก็จะต้องแตก
แต่ลูกโป่งนับพันทั้งหมดนี้เขียนด้วยคำสารภาพของลู่จือสิงที่ลอยขึ้นมาจากด้านล่าง และหัวใจของฉันก็บินขึ้นไปพร้อมกับมันด้วย
ต้องบอกว่าไม่ว่าผู้หญิงจะอายุเท่าไหร่ โดยธรรมชาติแล้วก็ไม่อาจจะต้านทานความโรแมนติกนี้ได้
ฉันเป็นคนอายุสามสิบ แต่เมื่อได้เห็นลูกโป่งเหล่านี้ลอยขึ้นมา ฉันก็รู้สึกราวกับว่าฉันได้กลับไปตอนอายุยี่สิบ เป็นหญิงสาวที่หัวใจแทบจะระเบิด
เดิมที่ฉันคิดว่าลูกโป่งจบลงแล้ว ไม่คาดคิดว่าหลังจากลูกโป่งลอยขึ้นอย่างช้าๆ หน้าจอบนตึกระฟ้าตรงข้ามก็เปลี่ยนไป ทันใดนั้นก็ปรากฏใบหน้าของลู่จือสิง
บนหน้าจอเห็นใบหน้าที่จืดชืดและรอยยิ้มในดวงตาของเขาอ่อนโยนสุดที่จะบรรยาย
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ตัวจริงของเขา และในหน้าจอฉันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังมองมาที่ฉัน:“ซูยุ่น ฉันรู้ว่าสามปีที่ผ่านมาฉันทำร้ายหัวใจเธออย่างที่สุด ตอนนั้นฉันยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เธอคือคนที่ฉันอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ตอนนี้เป้ยเปยไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว อีกปีเดียวเขาจะเข้าโรงเรียนอนุบาล สามปีก่อนหน้านี้ฉันยังไม่เคยขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการ เป็นเพราะสวรรค์ไม่เคยมองเห็น ดังนั้นจึงทำให้พวกเราเลิกรากันไปกว่าสองปี”
ในขณะที่เขาพูดก็หยุดพูดไปชั่วขณะ และพูดต่อว่า:“ฉันรู้ว่าตอนนี้การแต่งงานไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเธอ และความดีของเธอก็เป็นที่ชื่นชมของหลายๆคน เรื่องในวันนี้ฉันคิดมานานมากแล้ว ซูยุ่น ฉันรักเธอมากจริงๆ ฉันแค่อยากจับมือเดินไปกับเธอตลอดชีวิต หวังว่าเธอจะให้โอกาสนี้กับฉัน”
คำพูดที่ค่อยๆออกมาทีละคำ ฉันยืนอยู่ตรงนั้นไม่แน่ใจว่านี้คือความจริงหรือความฝัน
น้ำเสียงของเขาเบาลง บนหน้าจอขนาดใหญ่ไม่รู้ว่าผู้คนมาจากไหน ทั้งหมดต่างก็ตะโกน:แต่งเลย!แต่งเลย!แต่งเลย……
คำแต่ลำคำนั้นมีน้ำเสียงที่ทรงพลัง
ไฟโดยรอบสว่างขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลดอกไม้ ลู่จือสิงกำลังถือดอกไม้ที่สวยงามที่สุดรอให้ฉันเอ่ยปากพูด
ฉันไม่คิดว่าจู่ๆลู่จือสิงจะขอฉันแต่งงาน ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลยแม้แต่น้อย
วันนี้เขาไม่ได้เหมาที่นั่ง เหมาเพียงแค่โต๊ะใกล้ๆไม่กี่โต๊ะ บริเวณร้านอาหารทั้งหมดเปิดโล่ง สองร้อยกว่าโต๊ะรวมกันกว่าห้าร้อยคน ล้วนแต่กำลังจ้องมองมาที่ฉันกับลู่จือสิง
ถ้าฉันไม่ตอบรับ ลู่จือสิงก็คงจะหน้าแตก
แต่การขอแต่งงานของเขาครั้งนี้ บอกตามตรงว่าฉันประทับใจมาก
อาจเป็นเพราะตอนที่ฉันแต่งงานกับเขาครั้งแรก ดูเหมือนไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเขาให้ความสำคัญกับฉันมาก และฉันก็อยากจะแต่งงานกับเขาจริงๆ
เขาเห็นว่านานแล้วที่ฉันไม่ยอมพูด ลู่จือสิงจึงเอ่ยปากเรียกฉัน:“ซูยุ่น แต่งงานกับฉันนะ”
เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน แม้ว่าเขาจะเรียกฉัน แต่ไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าที่วิตกกังวล
ฉันยิ้มเม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้า:“ตกลงค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้