หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 234

ลู่จือสิงยิ้มเล็กน้อย ก้มลงมาจูบที่หน้าของเธอ : "อยากเข้าไปก็เปิดประตูเองเถอะ"

เห็นได้ชัดว่าให้ฉันเลือกทำเอง ตอนนี้ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่เสียใจและตำหนิ เพราะว่าวันนี้เดินมาเส้นทางเดียวกัน ทางเลือกทั้งหมดอยู่ในมือของฉัน

ลู่จือสิงทำเช่นนี้ ทำให้คนกัดฟันด้วยความโกรธจริงๆ

ฉันหลับตา สักพัก จึงลืมตาขึ้นมองเขา ถอนหายใจเล็กน้อย : "ไม่ใช่ฉันเปิดประตูไปก็เจอสิ่งที่น่ากลัวหรอ?"

ลู่จือสิงยิ้มเล็กน้อย ยกมือขึ้นลูบหน้าฉัน : "คุณรู้สึกว่ามีของอะไรที่น่ากลัวล่ะ?"

คนคนนี้เกินไปจริงๆ ถึงตอนนี้แล้ว คาดไม่ถึงยังจะเล่นตัวอีก!

"ช่วยด้วย! ช่วยด้วย——ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันเถอะ! ฉันสำนึกผิดแล้ว ประธานลู่ ขอร้อง ขอร้องล่ะ!"

ไม่ต้องคาดเดาอะไรที่มันซับซ้อน ทันทีที่ฉันเปิดประตูฉันก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างอ่อนแรง มันไม่เหมือนกับที่ฉันคิดไว้

ฉันยืนอยู่หน้าประตู มองทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าอย่างตกตะลึงดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ด้านในห้องมีเก้าอี้เพียงตัวเดียว มัดผู้หญิงคนหนึ่งไว้ข้างบน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูลำบากใจอย่างมาก

และผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใคร เป็นหลินเมิ่งเซียที่ก่อเรื่องมากมายในเมืองAเมื่อไม่นานมานี้แต่หนีไปแล้ว!

เมื่อหลินเมิ่งเซียเห็นฉันแววตาก็แข็งกร้าวเล็กน้อย ฉันถูกเธอมองจนตกใจกลัว ถอยกลับโดยจิตใต้สำนึก

แต่ไม่นาน ความแข็งกร้าวในดวงตาของหลินเมิ่งเซียก็หายไป มองอ้อนวอนมาที่ฉันไม่ลดละ : "ซูยุ่น คุณปล่อยฉันเถอะ! ฉันสำนึกผิดแล้ว! ฉันขอร้องปล่อยฉันเถอะ!"

เธอขอร้องฉันทุกคำทุกประโยค แตกต่างจากเมื่อก่อนที่เธอเย่อหยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันอย่างสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าหลินเมิ่งตะโกนมานานมากแล้ว น้ำเสียงที่พูดแหบพร่านิดๆ

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น ตกใจเล็กน้อย ชั่วครู่ ก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

จู่ๆระหว่างนั้น หลินเมิ่งเซีนก็ออกแรงดิ้นขึ้นมา เก้าอี้ทั้งตัวกำลังจะถูกเธอยกขึ้น : "ซูยุ่น คุณดีใจมากใช่ไหม? เห็นฉันในสภาพอย่างนี้ คุณดีใจมากใช่ไหม?"

ได้ยินคำพูดของหลินเมิ่งเซีย ฉันอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ : "อันที่จริงฉันดีใจมาก แต่ความดีใจอันนี้ เห็นได้ชัดจากหลักฐานของทุกสิ่งที่คุณเคยทำกับฉันมาก่อน ปกติแล้วฉันไม่เคยทำให้คุณไม่พอใจ ทำไมคุณต้องทำกับฉันอย่างนี้?"

คำพูดของเธอเตือนสติฉัน กับหลินเมิ่งเซียแล้ว จริงๆฉันยอมถอยให้ทุกๆก้าว แต่ว่าการจำยอมของฉัน ทว่าเธอเหลือเกินได้คืบจะเอาศอก!

หลินเมิ่งเซียจ้องมองฉันอย่างตกตะลึง มองอยู่สักพัก จู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา เธอหัวเราะจนเหมือนฟ้าจะถล่มดินจะทลาย : "ทำไมถึงทำกับคุณอย่างนี้นะหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า ซูยุ่น คุณเสแสร้งอะไร ในตอนแรกคุณอยู่กับลู่จือสิงได้ยังไง คุณคิดว่าฉันไม่รู้หรอ? ถ้าในตอนนั้นไม่ใช่คุณ ตอนนี้ตำแหน่งภรรยาลู่ก็ต้องเป็นฉัน! เป็นฉัน! เป็นฉัน!"

เธอพูดหลายครั้งติดต่อกัน ฉันมองเธอ แค่รู้สึกตกใจ

ในตอนแรก……

พูดจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเมิ่งเซียพูดถึงมันอีกครั้ง ฉันเกือบลืมไปแล้วจริงๆว่าตนเองอยู่ด้วยกันกับลู่จือสิงได้อย่างไร

ตอนนี้เธอพูดแบบนี้ จู่ๆฉันก็นึกถึงเรื่องเมื่อห้าปีก่อนขึ้นมา

เวลานั้นเป็นเพียงการที่ฉันต้องการจะแก้แค้นถันฮ่าวอวี่ เดิมทีก็ไม่ได้นึกถึง ตอนนี้หลินเมิ่งเซียเตือนสติขึ้นมาฉันจึงนึกถึงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

กำลังคิดจะเอ่ยถามเธอ ทว่าลู่จือสิงที่อยู่ข้างๆฉันก็พูดขึ้นก่อน : "คุณพูดผิดแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนั้นจะไม่มีซูยุ่น ภรรยาลู่ก็ไม่สามารถเป็นคุณได้"

น้ำเสียงลู่จือสิงเยือกเย็นมาก ฉันฟังอยู่ข้างๆ รูสึกหนาวๆเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินเมิ่งเซีย!

เป็นอย่างที่คาดไว้ หลินเมิ่งซียมองลู่จือสิง ดูเหมือนแทบจะเป็นบ้า : "ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่สามารถเชื่อได้ คุณโกหกฉัน! คุณโกหกฉัน! ฉันไม่ดีตรงไหน? ฉันสาวกว่าซูยุ่น มีเงินมากกว่าเธอ มีความสามารถมากกว่าเธอ รู้จักกาลเทศะมากกว่าเธอ ทำไมจะไม่สามารถเป็นฉัน!"

ลู่จือสิงที่อยู่ข้างๆจู่ๆก็หยิบไฟแช็กออกมา เอียงมามองฉันแล้วยิ้มเล็กน้อย "ซูซู คุณบอกเธอสิ ว่าทำไมถึงไม่สามารถเป็นเธอ"

ฉันมองแววตาที่อบอุ่นของเขา ตอนนี้ฉันสั่นไหวเล็กน้อย แล้วรับหัวข้อของลู่จือสิงมาพูดโดยจิตใต้สำนึก : "ทำไมต้องเป็นคุณล่ะ ถ้าลู่จือสิงรักคุณ สามปีนั้นที่ฉันเลิกกับเขา คุณก็น่าจะฉกฉวยจังหวะนั้นได้มานานแล้ว"

แต่เธอไม่ได้ ผลสรุปเช่นนี้ ยังจำเป็นต้องพูดอะไรต่ออีกหรอ

ไม่รักก็คือไม่รัก ถึงแม้เธอจะดีกว่าฉันเป็นพันเท่า ลู่จือสิงก็ไม่รักเธอ

หลินเมิ่งเซียก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าฉันพูดอย่างนั้น เธอต้องเข้าใจอย่างแน่นอน แต่ว่าเธอได้ฟังคำพูดของฉัน ทว่าสีหน้าก็ผิดแปลกไปมากยิ่งขึ้น : "สามปีงั้นหรอ? ซูยุ่น คุณคงไม่รู้ว่าสามปีนั้น ลู่จือสิงเขา——”

"พอได้แล้ว หลินเมิ่งเซีย ฉันเคยเตือนคุณแล้วนะ สิ่งสำคัญที่สุดของฉันคือซูยุ่น"

เธอยังไม่ทันพูดจบ ฉับพลันลู่จือสิงที่จุดไฟแช็กอยู่ในมือ ก็เงยหน้ามองหลินเมิ่งเซียแล้วพูดตัดบทเธอ

ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ ขมวดคิ้ว แค่อยากถามอะไรบางอย่าง หลินเมิ่งเซียหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้าคลั่ง : "ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างน่าตลกจริงๆ! คุณไม่รู้หรอ ลู่จือสิงเพื่อเฟิงเหิงแล้ว ก็เลวทรามใช้ผู้หญิงคนหนึ่งหาประโยชน์ คุณคงไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นน่าสังเวชแค่ไหน ที่ถูกเขาหลอกใช้มาโดยตลอด! สามปีที่พวกคุณแยกจากกัน คุณไม่รู้อะไรเลย คุณมีอะไรดีพอที่จะให้พูดออกไปล่ะ?"

ได้ฟังคำพูดของเธอ ฉันยืนอยู่ตรงนั้น แข็งทื่อไปหมด เหลือบไปมองลู่จือสิง ฉันได้แต่คิดว่าผู้ชายคนนี้ก่อนหน้าที่ฉันเคยมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เดิมทีกลับมีความที่ฉันไม่รู้ซ่อนไว้มากมายขนาดนั้น

"เธอดีหรือไม่ดีพอ ไม่ใช่ให้คุณพูด วันนี้ที่ฉันพาซูยุ่นมา แค่อยากให้เธอเห็นว่าคุณน่าเวทนาแค่ไหน ให้เธอดีใจสักหน่อย คุณก็เสพสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เถอะ"

ยังไม่รอให้มีการตอบกลับ ระหว่างนั้นลู่จือสิงก็โยนคำพูดแบบนี้ออกมา

สักพัก ฉันไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้ฉันควรร้องไห้หรือหัวเราะดี ลู่จือสิงทำให้ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

หลินเมิ่งเซียตกตะลึง แววตาที่มองฉันเปลี่ยนไป ท้ายที่สุดจู่ๆก็กัดฟันแล้วมองฉัน : "ฉันไม่ยอมหรอก! ซูยุ่น คุณแย่งของๆฉัน! ทั้งหมดนี้ควรเป็นของฉัน คุณจุดจบไม่ดีแน่ ซูยุ่น ฉันขอสาปแช่งคุณ—— ฮึ่ม!!"

เธอยังพูดไม่จบ ฉันก็เห็นคนรีบออกมาปิดปากเธอ

ไม่ต้องคิด ฉันก็รู้ว่าลู่จือสิงเป็นคนสั่งให้ทำ

ฉันเห็นหลินเมิ่งเซียตรงหน้า ฉันแค่รู้สึกสับสนวุ่นวาย

ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้บ้า ก็ใกล้เคียงกับบ้าแล้ว

ฉันกำลังจิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉับพลันลู่จือสิงก็ยื่นมือมาโอบกอดฉัน : "ซูยุ่น เรากลับบ้านกัน"

เขาก้มมามองฉัน สายตาอบอุ่น ต่างจากที่มองหลินเมิ่งเซียเมื่อกี้นี้อย่างสิ้นเชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้