ฉันกัดฟันกรอดด้วยความโมโห จากนั้นก็ไม่สนใจเขา รอจนไฟเปลี่ยนสีแล้วถึงหันข้างไปมองเขา: “ไฟเขียวแล้วค่ะ!”
ตกดึกฉันอาบน้ำเพิ่งจะออกมา ส่วนลู่จือสิงเพิ่งออกมาจากห้องของเป้ยเปย ฉันมองไปทางเขา: “เป้ยเปยหลับแล้วหรือคะ?”
“หลับแล้วครับ ผมไปอาบน้ำก่อนล่ะ ภรรยาอย่าลืมอยู่รอผมด้วยนะครับ!”
คนผู้นี้เริ่มเหลาะแหละอีกล่ะ!
ฉันมองตามจนเขาหันหลังกลับเข้าห้องแล้วถึงจะเข้าไปในห้องของเป้ยเปย เป้ยเปยหลับไปแล้วจริงๆ ช่วงฤดูหนาวเป้ยเปยมักจะหลับลึกมาก ถ้าหลับแล้วจะตื่นยากมาก
แต่แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นมาตอนดึกๆ เพื่อกล่อมเขาให้หลับ
ฉันนั่งเหม่ออยู่ในห้องเป้ยเปย ไม่รู้ทำไมเอาแต่คิดถึงคำพูดที่ลู่จือสิงพูดกับฉันเมื่อสักครู่นี้
เขาบอกให้ฉันรอเขา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขาให้ฉันรอทำอะไร!
นายลู่จือสิงคนนี้เหลือเกินจริงๆ พอเหลาะแหละขึ้นมาก็ทำให้คนอยากจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันยิ่งนัก!
แม้เขาจะอาบน้ำเร็ว แต่คงไม่ออกมาในสองสามวินี้หรอก
คิดได้อย่างนี้ฉันก็รีบออกจากห้องของเป้ยเปยไป
เมื่อกลับเข้าห้องมาฉันก็พบว่าลู่จือสิงยังไม่กลับเข้ามาจริงๆ จึงรีบขึ้นเตียง ห่มผ้าห่ม แล้วสะกดจิตตัวเองให้รีบนอนหลับโดยเร็ว
ไม่นานนักลู่จือสิงก็ออกมาจากห้องอาบน้ำ เสียงเดินของเขาค่อนข้างดัง “ตึก ตึก ตึก” ครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันรู้สึกว่าแต่ละย่างก้าวที่เดินมาราวกับเหยียบขึ้นมาบนหัวใจฉัน
บนตัวเขามีกลิ่นเจลอาบน้ำเหมือนกันกับฉัน และเมื่อเข้ามาใกล้ก็ยังมีไอร้อนจากห้องอาบน้ำติดมาด้วย
ฉันหดมือเข้าไปโดยไม่รู้ตัว จู่ๆ เขาก็เข้ามากอดฉันผ่านผ้าห่ม
“ซูยุ่น คุณยังไม่นอนสินะ?”
เขาพูดพร้อมกับเอามือล้วงเข้าไปในชายเสื้อของฉัน
ฉันหลับตาตั้งใจว่าจะอย่างไรก็จะไม่เปิดปากเด็ดขาด
ผ่านไปสักพัก ลู่จือสิงก็หยุดการเคลื่อนไหว
ฉันอึ้งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเขาก็ดึงผ้าห่มขึ้นแล้วเอาตัวสอดเข้ามา จากนั้นก็กอดฉันและพูดอยู่ข้างหูว่า: “ซูซู คุณจำเอาไว้นะว่าคุณคือคุณหญิงลู่ ส่วนผมจะช่วยคุณแก้ปัญหาทุกอย่างให้ครับ”
ฉันไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เขาจะพูดประโยคนี้ขึ้นมา จะบอกว่าไม่ประทับใจก็คงเป็นไปไม่ได้
อันที่จริงหลายวันมานี้หลี่ฮุ้ยหรูทำให้ฉันกลัดกลุ้มใจอยู่บ้าง แต่เพราะที่แผนกขาดคนอยู่ ช่วงแรกที่สัมภาษณ์ยังมีอยู่สองสามคน แต่ท้ายที่สุดก็เหลือหลี่ฮุ้ยหรูแค่คนเดียว
ตอนที่ติงหยวนส่งคนมาได้บอกสถานการณ์นี้ให้ฟังอยู่ ดังนั้นฉันจึงอดทนมาตลอด รอให้ทนไม่ไหวค่อยว่ากัน
ถ้าจะบอกว่าน้อยใจ อันที่จริงก็ไม่ถึงกับน้อยใจนักหรอก ก็แค่หลี่ฮุ้ยหรู เธอจะทำให้ฉันรู้สึกน้อยใจได้อย่างไรกัน
แต่พอลู่จือสิงพูดอย่างนี้กลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกคนรังแกอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ลืมไปว่าตัวเองแกล้งหลับอยู่ จึงพลิกตัวไปเผชิญหน้ากับเขา: “ฉันไม่เป็นไร แล้วก็ไม่ได้ทุกข์ใจด้วยค่ะ”
“คุณนอนไปแล้วไม่ใช่หรือครับ?”
พอได้ยินคำพูดของเขาฉันถึงรู้ว่าตัวเองติดกับแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะกัดคางเขาไปที
ลู่จือสิงมองฉันอย่างขำๆ: “โอเค ผมไม่หยอกคุณแล้ว รีบนอนเถอะครับ”
ฉันมองเขาไปอีกสักพักหนึ่งจนเห็นว่าเขาไม่เคลื่อนไหวอะไรแล้วจริงๆ จึงปิดตาพร้อมจะหลับ
เดิมทีช่วงเวลานี้ฉันจะไม่ยุ่งมาก แต่เนื่องจากมีหลี่ฮุ้ยหรู จึงทำงานของสองคนในคนๆ เดียว และยุ่งขึ้นมาในเวลาไม่นานนัก
บังเอิญเหลือเกินที่หลี่ฮุ้ยหรูก็ยังขุนไม่ขึ้นดั่งอาโต่ว หลายวันมานี้ฉันเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจจนถึงขีดสุด จึงตั้งใจว่าหลังจากนี้อีกสองวัน หากหลี่ฮุ้ยหรูยังเป็นเช่นนี้อยู่อีก ฉันคงต้องพูดกับติงหยวนเสียแล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้
เมื่อคืนลู่จือสิงไม่ได้กวนฉัน วันนี้ฉันจึงลุกขึ้นมาแต่เช้า ตั้งใจต้มโจ๊กหมูขึ้นมาเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้