ฉันคิดมาตลอดว่าลู่เว่ยกั๋วจะมาพบฉันด้วยตัวเอง แต่ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆ จากเขา
เย็นนี้ลู่จือสิงไม่ได้กลับมากินข้าวที่บ้าน ฉันจึงทำอาหารเพียงสองอย่างสำหรับตัวเอง เมื่อกินไปได้ครู่เดียวอยู่ๆ ก็เริ่มรู้สึกปวดท้องขึ้นมาเรื่อยๆ จนตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อก้มลงไปมองจึงเห็นว่ามีเลือดเปื้อนอยู่บนเก้าอี้
ฉันสับสนมึนงงไปหมด รีบกดโทรศัพท์หาลู่จือสิง แต่เขาอาจอยู่ระหว่างการประชุมจึงไม่ได้รับสายฉัน
ฉันปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ จนมือที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นสั่นไปหมด ฉันรีบกดเบอร์โทรไปที่ 120
พวกเขาบอกว่าจะมาถึงภายในห้านาที แต่ฉันคิดว่าฉันทนรอจนถึงตอนนั้นไม่ไหวแน่ๆ
เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด พร้อมกับความรู้สึกสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามา ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำยังไง ฉันจะทำยังไงดีเพื่อรักษาลูกของฉันไว้!
ความเจ็บปวดในช่องท้องยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ฉันกลัวว่าหน่วยแพทย์จะเข้ามาไม่ได้จึงแข็งใจพาตัวเองเดินเกาะผนังไปยังห้องโถงเพื่อเปิดประตูทิ้งไว้
ทันทีที่เปิดประตูเสร็จฉันก็ล้มลงไปกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของฉันสั่นสะท้าน เหงื่อไหลท่วมตัว และสติเริ่มเลือนลางลงทุกที
“ฮือ... ลู่จือสิง...”
ฉันหวังเหลือเกินว่าเขาจะมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายฉันในเวลานี้
ฉันเกือบจะหมดสติไปแล้วเมื่อหน่วยแพทย์มาถึง ฉันจำได้แค่ว่าพวกเขาถามอาการของฉัน ฉันรวบรวมสติเฮือกสุดท้ายบอกพวกเขาไปว่าฉันกำลังท้องและอาจจะแท้ง
พอพูดจบภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ ดำมืด แล้วฉันก็หมดสติไป
ฉันไม่รู้ตัวว่าหลับไปนานแค่ไหน พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและได้ยินเสียงของลู่จือสิงดังมาจากเหนือศีรษะ “รู้สึกตัวแล้วหรือ”
ฉันหันไปมองเขา ความทรงจำต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อยๆ กลับคืนมา จนฉันรีบเอื้อมมือไปคว้ามือเขาไว้ “ลู่จือสิง... ลูกเป็นยังไงบ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้