เพียงแต่ฉันยังไม่ทันได้รอให้เซี่ยงฉิงมาหาฉันเพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ฉีซิ่วหรานก็โทรเข้ามา
ฉันตกใจเล็กน้อย รับรับสาย : "ฉีซิ่วหราน?"
"ฉันเอง ฉันถึงเมืองAแล้ว"
"คุณมาทำงานนอกสถานที่หรอ?"
ฉันรู้สึกแปลกอย่างมาก ความร่วมือของบริษัทฉีซิ่วหรานและทางด้านเมืองAนี้มีไม่มาก และเขาถูกย้ายไปที่เมืองS แม้ว่าจะมีความร่วมมือกับทางด้านเมืองAนี้ก็ตาม ก็ไม่น่าจะส่งเขากลับมา
ฉับพลันฉันก็นึกถึงเซี่ยงฉิง ก็นึกเรื่องขึ้นมาได้ในทันที : "คุณมาหาเซี่ยงฉิงหรอ?"
"อืม"
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงตอบตรงๆ
ฉันเม้มๆปาก อยากจะไปหาเซี่ยงฉิง เมื่อหันกลับไป คนก็ไปไหนแล้วไม่รู้!
เวลานี้ฉันจึงคิดได้ว่า ตอนนี้เลิกงานแล้ว!
เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่ดีที่ฉันจะไปร่วมด้วย คิดๆแล้ว ฉันยังไม่ได้บอกเขา : "ให้ฉันไปรับคุณที่สนามบินไหม?"
"ไม่ต้อง คุณมีที่อยู่ของเซี่ยงฉิงหรือเปล่า?"
ฉันรู้ว่าเซี่ยงฉิงอยู่ที่ไหน เพราะเมื่อก่อนเคยไปส่งเธอกลับบ้าน แต่ถึงอย่างไรนี่เป็นเรื่องส่วนตัว ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นเพื่อนของฉีซิ่วหราน แต่เซี่ยงฉิงก็เป็นเพื่อนของฉันเช่นกัน
คิดๆดูแล้ว ฉันยังคงปฏิเสธไป : "ฉีซิ่วหราน ขอโทษด้วยนะ เรื่องนี้ ฉันน่าจะช่วยคุณไม่ได้"
เขาเงียบไปเล็กน้อย : "ฉันเข้าใจ ถ้าคุณสามารถติดต่อเซี่ยงฉิงได้ รบกวนคุณบอกเธอหน่อยนะ ว่าฉันถึงเมืองAแล้ว"
"ฉันรู้แล้ว เรื่องของพวกคุณ หวังว่าคุณจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบนะ"
"ฉันจะทำให้ได้"
วางสายไปแล้ว ฉันลังเลเล็กน้อย แล้วโทรหาเซี่ยงฉิง
คาดว่าเธอยังไม่รู้ว่าฉีซิ่วหรานมาถึงเมืองAแล้ว ฉันเพิ่งจะโทรไป เธอก็รับสายเลย : "ซูยุ่น?"
ฉันไม่อ้อมค้อมกับเธอ พูดตรงๆเลยว่า : "เซี่ยงฉิง ฉีซิ่วหรานมาถึงเมืองAแล้ว เขาถามฉันต้องการที่อยู่ของคุณ ฉันไม่ได้บอกไป พวกคุณขัดแย้งอะไรกัน ก็มาพูดคุยกัน พวกคุณเป็นเพื่อนของฉัน ฉันไม่สามารถเอนเอียงช่วยใครได้ ฉันจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฉันหวังว่าคุณจะปฏิบัติอย่างมีเหตุผล และไม่หลีกหนี"
นิสัยของเซี่ยงฉิง ฉันยังเข้าใจได้ อย่ามองว่าเธอไม่สนใจอะไร แน่จริงๆแล้วเมื่อเจอปัญหา เธอกลัวมาก หากไม่มีใครผลักดันเธออยู่ข้างหลัง ไม่แน่ว่าเธออาจจะซ่อนตัวหลบหนีไปเลย
ฉันไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเซี่ยงฉิงกับฉีซิ่วหราน ท้ายที่สุดแล้วเป็นเพราะความคิดโง่ๆนี้ของฉันหรือเปล่า ฉันไม่รู้แล้วก็ไม่ได้ถามไป ทำได้แค่ปล่อยให้พวกเขาสองคนแก้ไขมัน
เซี่ยงฉิงเงียบไปสักครู่ จึงตอบฉัน : "ฉันรู้แล้ว"
เธอพูดแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้จริงๆ หรือแค่ตอบๆฉันไป เรื่องขแงพวกเขา ฉันไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้จริงๆ
หลังจากวางสายไปแล้ว จิตใจฉันก็ยุ่งเหยิงอย่างมาก
ประตูลิฟท์เปิดไม่วินาที กำลังจะปิดลง เวลานี้ฉันจึงกลับมา
"คิดอะไรอยู่?"
ฉันจิตใจล่องลอย ไม่ได้ระวังขั้นบันได หากว่าลู่จือสิงไม่ประคองฉันไว้ คาดว่าฉันต้องล้มลงไปแน่ๆ
ได้ยินคำพูดของเขาฉันจึงได้สติ มองเขา "ขึ้นรถแล้วจะบอก"
คาดเข็มขัดนิรภัยดีแล้ว ฉันจึงมองลู่จือสิง แล้วพูดว่า : "ฉีซิ่วหรานมาหาเซี่ยงฉิงที่เมืองAแล้ว"
"นี่ไม่ใช่ว่างานสำเร็จแล้วหรอ?"
ฉันจ้องมองเขา : "สำเร็จอะไรล่ะ หลังจากที่เซี่ยงฉิงกลับมาจากวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ก็อาการไม่ค่อยดีเลย"
ตกกลางคืนลู่จือสิงจะมาสัมผัสฉัน ฉันยกมือผลักเขาออกไป : "คืนนี้คุณอย่ามาแตะต้องฉัน ไม่อย่างนั้นคุณก็ไปนอนที่ห้องรับแขกเลย!"
เขามองฉัน สีหน้าตกใจ : "ทำไมล่ะ?"
ฉันหัวเราะ "ตอนนี้ฉันสงสัยอย่างมาก ก็เพราะวิธีการที่โง่เขลาของคุณ ฉีซิ่วหรานกับเซี่ยงฉิงจึงตกที่นั่งลำบาก!"
ลู่จือสิงถามฉัน : "เรามาเดิมพันกันไหมล่ะ?"
"เดิมพันอะไร? ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์!"
"เพียงเดิมพันว่าฉีซิ่วหรารและเพื่อนร่วมงานของคุณจะประสบความสำเร็จในครั้งนี้หรือเปล่า! ฉันว่าสำเร็จ!"
ฉันไม่ได้รับปากกับเขาในทันที : "ของพนันคืออะไร?"
เขามองฉันสักพัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างจริงจัง : "ถ้าสำเร็จแล้ว คุณต้องสวมสิ่งนี้มห้ฉันดู!"
ฉันเห็นชุดนั้นในโทรศัพท์ของเขา หน้าก็แดงขึ้นมาเลย แย่งโทรศัพท์ของเขามา แล้วโยนมันไปที่โซฟา : "คุณอย่าแม้แต่จะคิด!"
"คุณภรรยา?"
ฉันนอนลงไป ดึงผ้ามาห่ม : "ฉันจะนอน"
"คุณภรรยา"
"พรุ่งนี้ต้องทำงาน——อึ่ม!"
ฉันยังพูดไม่จบ เขาก็จับฉันขึ้นมาจูบ
ฉันใช้แรงผลักเขา สักพักจึงผลักเขาออก : "ลู่จือสิง!"
"งั้นคุณจะพนันไหม?"
เขามีแรงเยอะ ถึงแม้ว่าฉันจะผลักเขาออกไปแล้ว แต่ว่าเขายังกดอยู่บนตัวฉัน มือยังคงตกอยู่บนใบหน้าของฉัน สามารถลงมาจูบฉันอีกครั้งได้ทุกเมื่อ
วันนี้ฉันไม่ทีอารมณ์จริงๆ จึงตอบเขาไปว่า : "รอให้คุณชนะแล้วค่อยว่ากัน!"
ฉันเข้าใจเซี่ยงฉิงดี หากว่าฉีซิ่วหรานแสดงออกว่าสนใจแบบนั้น เธอก็คงไม่หลบหนี
หลังจากที่เธอกลับมาเธอก็ไม่ได้บอกฉัน เก็บกดไว้คนเดียว ดูเหมือนว่าต้องการยอมแพ้ไปอย่างเงียบๆ
ก็ไม่รู้เพราะอะไร รู้สึกว่าค่อนข้างน่าเสียดาย
ฉันอดถอนหายใจไม่ได้ ลู่จือสิงจับมือฉันแน่น : "ถอนหายใจทำไม เรื่องของเขาสองคน คุณเชื่อฉันเถอะ จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!"
ฉันคิดจะพูดว่า "ถ้าสำเร็จจริงๆก็ดีสิ" จู่ๆก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองรับปากเขาไปเมื่อกี้ คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะหวังให้พวกเขาสำเร็จดี หรือหวังว่าพวกเขาไม่สำเร็จดี
ลู่จือสิงคล้ายกับรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ "คุณอย่าลืมว่าค็รับปากอะไรไว้กับฉัน"
ฉันหันกลับไปหยิกเขาเล็กน้อย : "คุณจะนอนไหม?"
"นอนไม่หลับ
เขาพูดไปด้วย พลางเสียดสีฉันอย่างหน้าไม่อาย มือยังขยับขึ้นลง
ฉันรีบยกมือไปจับมือเขาไว้ ฉันไม่อยากให้เขาลุกเป็นไฟจริงๆ น้ำเสียงอ่อนโยน : "พอแล้ว รีบนอนเถอะ"
"ใจดำจริงๆ"
ฉันหลับตา แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร
นึกถึงเรื่องเซี่ยงฉิงกับฉีซิ่วหราน วันรุ่งขึ้นฉันตื่นเช้าเล็กน้อย
ลู่จือสิงไปวิ่งแล้ว นี่เพิ่งเจ็ดโมงกว่าๆ ท้องฟ้าด้านนอกยังมืดอยู่
ฉันนั่งอยู่สองนาที ก็ล้มตัวลงนอนกว่าครึ่งชั่วโมง
เมื่อตื่นขึ้นมา ลู่จือสิงก็กลับมาแล้ว
ฉันล้างหน้าบ้วนปากเสร็จก็ไปทำอาหารเช้า เขาอาบน้ำเสร็จ สวมชุดอยู่บ้านนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟา
รถจอดที่หน้าประตูบริษัท ฉันร้อนใจที่จะถามเรื่องของเซี่ยงฉิง รีบจูบลู่จือสิงแล้ววิ่งเข้าบริษัทไปเลย
สรุปคือปกติแล้วเซี่ยงฉิงจะมาถึงบริษัทเวลาใกล้เคียงกับฉันวันนี้คาดไม่ถึงว่ายังไม่มา เก้าโมงกว่า เซี่ยงฉิงก็ยังไม่มา ฉันนั่งไม่ติด ถามถงเจียหลิน เธอก็ไม่รู้
นึกถึงเมื่อวาน ฉันกลัวจะเกิดเรื่องกับเธอ จึงรีบโทรไป ทว่าไม่มีคนรับ
ถึงแม้ว่าเซี่ยงฉิงจะไม่สนใจอะไร แต่ไม่สามารถเกิดสถานการณ์อย่างนี้
ฉันวางแผนจะลาไปหาเธอ ติงหยวนก็เข้ามาบอกว่าวันนี้เซี่ยงฉิงลา
ฉันรู้สึกว่าหัวใจของตนเอง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้