ขึ้นเครื่องบินแล้ว เมื่อฉันนึกถึงเรื่องตะกี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ทำไมยิ่งโตยิ่งคิดว่าตัวเองยังเป็นสาวอยู่ นึกไม่ถึงว่ายังชอบบทการแสดงไม่อยากพรากจาก
แต่ความรู้สึกนี้ค่อนข้างดีทีเดียว
การเดินทางใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมง เครื่องบินออกมาได้สักพักฉันก็หลับ และตื่นขึ้นมาตอนเครื่องบินกำลังจะลงจอด
ในเดือนมีนาคมเมืองJ หนาวกว่าเมืองA มาก ทันทีที่ฉันรับกระเป๋าเสร็จ เจิ้งเยว่ก็โทรเข้ามา
“ซูยุ่น คุณถึงหรือยัง?”
ฉันยิ้ม:“คุณโทรมาทันเวลาพอดี ฉันกำลังถือกระเป๋าเดินทาง และกำลังเดินไปที่ทางออก”
“อ่า ฉันเห็นคุณแล้ว ฉันกำลังโบกมืออยู่คุณเห็นฉันไหม?”
ฉันเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าเจิ้งเยว่กำลังโบกมือให้ฉันอยู่ไม่ไกล
ฉันยิ้มให้เธอแล้ววางสาย และรีบลากกระเป๋าเดินทางไป:“คุณคงไม่ได้มารออยู่นานแล้วใช่ไหม?”
เขายื่นมือออกมาลากกระเป๋าของฉัน:“ครั้งก่อนรถติดหรอ?ครั้งนี้ฉันเลยมาเร็วหน่อย”
ฉันยิ้มด้วยความซาบซึ้ง:“ให้ฉันรอคุณสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”
“ได้ยังไงล่ะ เมืองJ ปีนี้หนาวมาก ฉันเลยมารับคุณเร็วหน่อย ถ้าคุณหนาวจนป่วย ฉันก็แย่นะสิ!”
เธอพูดแบบนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เจิ้งเยว่บอกว่ามาเร็วหน่อย แต่ฉันรู้ว่าเธอมาก่อนเวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยเข้าร่วมโครงการของต่างประเทศมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้พบกับคนที่พวกเราให้ความสำคัญ
ฉันรู้สึกประทับใจ
“มื้อเที่ยงคุณอยากกินบะหมี่หรือว่าข้าว?”
“กินโจ๊ก คุณถือสาไหม?”
ฉันติดต่อกับเจิ้งเยว่มาหลายเดือนแล้ว และเราสองคนก็คุ้นเคยกันดี ฉันเพิ่งลงจากเครื่องยังไม่อยากอาหาร ไม่อยากกินบะหมี่และข้าวจริงๆ
“ถือสาอะไร คุณเพิ่งลงจากเครื่อง ไม่อยากอาหารก็เป็นเรื่องปกติ”
“คุณดูแลเอาใจใส่อย่างนี้ ฉันเกรงใจจัง”
เธอหันหน้ามามองฉันแล้วยิ้ม:“เกรงใจอะไรกัน วันนี้ฉันไปเมื่องA ฉันยังไม่เกรงใจคุณเลย!”
ฉันเลิกคิ้ว:“ก็ได้ รอให้คุณมาอีกนะ!”
“คุณเพิ่งลงจากเครื่อง นอนพักผ่อนสักหน่อยเถอะ?บนเครื่องบินหลับไม่สบาย!”
จริงๆอากาศแบบนี้มักจะมีลมแรง เครื่องบินก็สั่นนิดหน่อย อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ค่อยหลับ ตอนที่ฉันออกจากสนามบินโดนลมปะทะนิดหน่อย ตอนนี้ฉันเลยรู้สึกมึนๆ
เปิดเครื่องทำความร้อนในรถให้อุ่นๆแล้ว ฉันก็รู้สึกง่วง
“งั้นฉันงีบสักหน่อย ลำบากคุณแล้ว”
“ได้สิ ไม่ต้องเกรงใจฉัน”
ฉันยิ้ม ครั้งนี้ไม่เกรงใจเธอแล้วจริงๆ
“ซูยุ่น?”
เจิ้งเยว่ขับรถได้นิ่งมาก ฉันหลับยาวมาตลอดกว่าสี่สิบนาที ได้ยินเสียงเธอแล้วฉันก็สะลึมสะลือ และลืมตามองเธออยู่หลายวินาที หลังจากนั้นก็ตอบกลับ:“ถึงโรงแรมแล้วหรอ?”
เธอพยังหน้า:“เราไปหาอะไรกินกันก่อนสักหน่อยเถอะ ในฤดูหนาวนี้ถ้าไม่กินอะไรเลยจะไม่ดีต่อกระเพาะ แล้วคุณค่อยกลับไปนอนต่อ”
ฉันลูบหน้าตัวเอง:“ไม่เป็นไร ฉันนอนมาหลายชั่วโมงแล้ว ตอนบ่ายฉันจะไปประชุมที่บริษัทกับคุณ”
วันนี้เป็นวันที่ห้า และงานกำลังจะเริ่มในอีกไม่ถึงสามวัน ดังนั้นฉันจึงต้องค่อยจับตาดูหน่อย
“คุณไม่ต้องกัวล ประธานจั๋วบอกว่าให้คุณพักผ่อนสักสองสามวันก็ได้ อีกสองวันหลังถึงจะเวลาเข้าสู่สนามรบ!”
ฉันรู้สึกเกรงใจนิดหน่อย ฉันมาทำงานจะบอกว่าให้พักผ่อนได้ยังไง:“งั้นคุณพาฉันไปที่งานแสดงสินค้า?”
“คุณน่ะ พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ตอนเย็นไปกินข้าวด้วยกัน พรุ่งนี้เธอค่อยตามพวกเราที่ไม่รู้ว่าเหลืออีกกี่คน!”
คนที่บริษัทนี้ค่อนข้างดี เจิ้งเยว่ถ่อมตน และรับฟังความคิดเห็นของฉัน ถ้าไม่เข้าใจก็จะพูดคุยกันกับฉัน ไม่มีปัญหาเรื่องการวางอำนาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้