หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 270

ไม่นานฉันก็รีบเดินเข้าไป:“ประธานจั๋ว”

“คุณซู ลำบากคุณแล้ว!”

เดิมทีฉันคิดว่ามากินข้าวกับเจิ้งเย่วและคนในกลุ่มงานของพวกเขา ไม่คิดว่าจั๋วหรันก็จะมาด้วย

ทำให้ฉันตื่นตะลึงเพราะได้รับความชื่นชมอย่างคาดไม่ถึง ฉันแทบจะไม่มีท่าทีโต้ตอบเลย

ถึงแม้ว่าจั๋วหรันจะอยู่ด้วย แต่ก็ทานอาหารมื้อนี้ได้อย่างมีความสุข

พรุ่งนี้กำลังจะเข้าสู่การเตรียมการขั้นสุดท้าย คืนนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ผ่อนคลายในช่วงหลายเดือนนี้

ผลเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู้กับวันที่แปดแล้ว

งานเลี้ยงเลิกไม่ดึก สามทุ่มก็เลิกแล้ว และเจิ้งเย่วก็มาส่งฉัน

พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน ทุกคนเลยไม่ได้ดื่มเหล้า ดื่มเครื่องดื่มแทนเหล้า

ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ลู่จือสิงก็โทรมา

“เมียจ๋า”

เขาพูดเสียงต่ำ ฉันฟังแล้วก็ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เลยลองหยั่งเชิงถามดู:“ดื่มเหล้าใช่ไหม?”

“ดื่มสิ เมานิดหน่อย”

เขาสารภาพ และฉันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ:“หลี่จื้อซื้อยาแก้เมาให้คุณหรือยัง?”

“อืม เพิ่งกินไป”

“ในเมื่อคุณเมา คุณก็รีบทำความสะอาดสักหน่อย แล้วก็ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้คุณไม่ต้องตรวจสอบโรงงานไม่ใช่หรอ?”

ลู่จือสิงออกไปทำงานนอกสถานที่ครั้งนี้ก็ค่อนข้างยุ่งมาก

“อืม ฉันรักคุณ”

“ฉันก็รักคุณ”

หลังจากที่ฉันวางสาย ฉันมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ที่ค่อยๆมืดลง นึกถึงตอนที่ลู่จือสิงออดอ้อน คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม

ฉันโยนโทรศัพท์ และกลิ้งไปมาบนเตียง หัวเราะสักพัก และปิดไฟเตรียมเข้านอน

พรุ่งนี้ฉันก็จะยุ่งเหมือนกัน!

วันรุ่งขึ้นเวลาเจ็ดโมงเช้าฉันก็ตื่น หลังจากแต่งหน้าเสร็จ ฉันก็ไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่างแล้วฉันก็ไปที่บริษัท

ฉันมาถึงก่อนเวลาที่บริษัทยังมีคนไม่มาก ไม่มีใครที่ฉันรู้จัก

“ซูยุ่น?”

ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบคนรู้จัก ฉันรีบเดินเข้าไป:“จุ้นเจี๋ย”

“คุณมาเร็วจัง?”

ฉันยิ้มด้วยความเขินอาย:“โรงแรมอยู่ใกล้ใช้เวลาเดินทางมาเพียงห้านาที”

เขารับผิดชอบการโปรโมตของโครงการในช่วงแรก ฉันถามเรื่องบัตรผ่านประตูคุยกันสักพักคนอื่นๆก็มา

สิ่งแรกคือการประชุม เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวันงานก็จะเริ่มแล้ว สองวันนี้ต้องจัดเตรียมบทความฉบับร่าง และวันที่แปดนั้นก็ต้องติดต่อสื่อมวลชนหลักๆ

การแบ่งงานในแต่ละวันต้องชัดเจน นอกจากนี้ยังต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน สองวันนี้พวกเราต้องคิดให้ดี ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลามันจะฉุกละหุก

เห็นได้ชัดว่าเจิ้งเยว่นั้นมีประสบการณ์ หลังจากการประชุม ปัญหาต่างๆก็ได้รับการแก้ไข

หลังจากนั้นเจิ้งเยว่กับฉันก็ไปที่สถานที่จัดงานเพื่อดูการเตรียมงาน สถานที่จัดงานนั้นอยู่ไกลออกไป กว่าจะถึงกว่าต้องใช้เวลา เราสองคนรีบกินข้าวกลางวันแล้วก็ไปดูสถานที่จัดงาน

ฉันไม่ได้เหนื่อยแบบนี้มานานแล้ว ได้นอนลงบนเตียงแล้วก็ไม่อยากขยับ

ลู่จือสิงโทรเข้ามา ฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ฉันไม่ได้โทรหาเขาเลย

“กลับโรงแรมแล้วหรอ?”

“อืม วันนี้ยุ่งมากเลยเพิ่งมาถึง คุณล่ะ?”

“เพิ่งกินข้าวเสร็จ เหนื่อยไหม?”

“เหนื่อย เหนื่อยสุดๆ”

เขาหัวเราะ “งั้นก็รีบกลับมา สามีจะนวดหลังให้”

“เหย้าแหย่ฉันหรอ รอฉันกลับไปก็ไม่เหนื่อยแล้ว”

ฉันเหนื่อยมากจริงๆ คุยกันไปสิบนาที ฉันก็ทนไม่ไหวเกือบจะหลับแล้ว

ลู่จือสิงเรียกฉันในโทรศัพท์ เมื่อฉันได้ยินเสียงของเขาฉันก็รู้ว่าฉันเกือบจะหลับไปแล้ว เขาก็รู้ว่าฉันง่วงก็เลยไม่ปล่อยให้ฉันคุยต่อ บอกให้ฉันรีบไปอาบน้ำแล้วมานอน

อากาศที่เมืองJแห้ง ฉันออกไปว่างข้างนอกมาหนึ่งวัน ใบหน้าก็แห้ง

กลัวว่าพรุ่งนี้จะแต่งหน้าไม่ได้ ก็เลยต้องมาส์กหน้านอน

เมื่อวานสถานที่จัดงานเพิ่งมีการจัดเตรียม ยังไม่ได้จัดการให้ดี วันนี้ฉันจะไปจองสถานที่จัดงานกับเจิ้งเย่ว

วันนี้ฝนตกนิดหน่อยอากาศก็แย่กว่าเมื่อวาน ฉันอยู่ข้างนอกโดนลมทั้งวัน กลับมาถึงโรงแรมก็แข็งทื่อ

แต่สุดท้ายมันก็จะผ่านไป พรุ่งนี้งานก็จะเริ่มแล้ว แค่ผ่านพรุ่งนี้ไปได้มันก็จะดี

ฉันดูขั้นตอนอีกครั้งจนกระทั่งเกือบจะห้าทุ่มแล้วก็เข้านอน

เช้าวันรุ่งขึ้นไม่ถึงตีห้าฉันก็ตื่น และไปเจอกับเจิ้งเยว่ที่ทางเข้าโรงแรมตอนหกโมง

งานเริ่มสิบโมง เจ้าหน้าที่ของเราต้องไปเตรียมการล่วงหน้า

ฉันกับเจิ้งเยว่เป็นคนละเอียดรอบครอบ เมื่อวานมาดูงานไว้แล้ว อันที่จริงแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร แต่เราสองคนก็ยังมีความกังวล

“ไม่ต้องกังวล งานนี้คนเยอะกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก ได้ยินมาว่ามีไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน!”

วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ ยังมีคนมากขนาดนี้ คนต้องเยอะมากอย่างแน่นอน

ไม่ค่อยมีคนมาในตอนเช้า และการแสดงช่วงเย็นถือเป็นไฮไลท์

แต่การเปิดงานจะมีการถ่ายทอดสด เริ่มแสดงตอนสิบโมง มีการเต้นเชียร์ลีดเดอร์เพื่อเปิดงาน

ฉันกำลังไปหลังเวทีเพื่อดูว่าการจัดเตรียมเป็นยังไงบ้าง และซิ้วซิ้วก็มาบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว

ฉันรีบวิ่งไปดูก็เห็นกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ :“มีอะไรหรอ?”

เขาดูลำบากใจ พวกเขายังเป็นนักศึกษา วันนี้มาแสดงให้คนนับห้าร้อยคนดู ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นคาดว่าพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไร

ฉันรู้สึกร้อนใจมาก แต่ก็รู้ว่าร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องพยายามสงบจิตสงบใจ:“คุณไม่ต้องกังวล ค่อยๆบอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพวกเรามาคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์กัน!”

เขามองมาที่ฉัน เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า:“มีสมาชิกในทีมของเราเกิดอุบัติเหตุทำให้ขาเคล็ด วันนี้มาขึ้นเวทีที่ไม่ไหว!”

แน่นอนว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากจำนวนคนในทีมเชียร์ลีดเดอร์มีความเฉพาะเจาะจง การแสดงตอนท้ายคือการทำโลโก้ของบริษัท

เธอบอกว่าถ้าใครคนหนึ่งหายไป โลโก้ก็จะขาดไปชิ้นหนึ่งไม่ใช่หรอ?

ฉันขมวดคิ้วและมองไปที่เธอ เมื่อเห็นว่าเธอมีความกังวล ฉันก็เลยต้องค่อยๆพูด:“พวกคุณมีตัวสำรองไหม?หรือว่าเชียร์ลีดเดอร์ในมหาวิทยาลัยของพวกคุณ มีสมาชิกในทีมคนอื่นอีกไหม?”

“จะว่ามีก็มี แต่การเต้นนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษ พวกเราฝึกซ้อมมากว่าครึ่งเดือน หาคนมาแทนชั่วคราวตอนนี้……”

ฉันเข้าใจความหมายของเธอ เรื่องนี้แก้ไขยากจริงๆ

เมื่อวันก่อนมีการโปรโมททีมเชียร์ลีดเดอร์ออกไปแล้ว ถ้าถอนการแสดงออกตอนนี้มันก็จะกะทันหันเกินไป

“ซูยุ่น ถ้าไม่ได้จริงๆ เราก็ถอนการแสดงนี้ออก!”

“ไม่ได้!”

ฉันปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

ฉันดูเวลา ยังมีเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆก่อนที่การแสดงจะเริ่ม

ฉันมองไปที่กัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์:“การแสดงของพวกคุณยากไหม?”

“ไม่ยากเท่าไหร่ ถ้ามีพื้นฐานการเต้น มันก็เรียนรู้ได้ง่าย”

ฉันไม่ได้เต้นมาหลายปีแล้ว แต่หลายปีที่ผ่านมาฉันยังฝึกโยคะอยู่เป็นประจำ ความยืดหยุ่นของร่างกายก็พอใช้ได้ ฉันมีพื้นฐานการเต้นมาสิบปี ฉันจำท่าเต้นได้รวดเร็ว ถึงแม้ว่าฉันจะเต้นไม่เก่งก็ตาม แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเชียร์ลีดเดอร์

“งั้นคุณสอนฉันหน่อย!”

“คุณซู คุณ——”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้