ออกมาจากห้องน้ำ ฉันยังรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
“เป็นยังไงบ้าง ยังหนาวอยู่ไหม?”
ฉันมองไปที่เจิ้งเย่วและส่ายหน้า:“ไม่เป็นไร คุณไปดูสถานที่ในงานเถอะ แม้ว่าตอนนี้มีคนไม่เยอะ แต่อีกเดี๋ยวก็คงจะมีคนเยอะวุ่นวาย!”
เจิ้งเยว่มองฉันอย่างลังเล:“แต่คุณ……”
ฉันส่ายหน้า:“ฉันอ่อนแอซะที่ไหนกัน!ฉันอยู่ที่นี้ให้อุ่นๆหน่อย และอีกเดี๋ยวจะออกไปหาคุณ!”
“ไม่ให้ฉันพาคุณไปส่งที่โรงแรมจริงๆหรอ?”
ได้ยินที่เจิ้งเยว่พูด ฉันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม:“เจิ้งเยว่ จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังหน่อย พวกเราเตรียมการมานานขนาดนี้ ไม่อาจให้เกิดความผิดพลาดได้ คุณไม่ต้องสนใจฉัน!ยิ่งกว่าไปนั้นตัวฉันเอง จะไม่รู้ตัวเองเลยหรอ?”
เจิ้งเยว่จ้องมองฉันสักพัก และในที่สุดก็พยักหน้า:“ก็ได้ งั้นคุณไปที่จุดพักผ่อนตรงนั้น ตอนนี้ข้างนอกฝนตก ลมแรง และหนาวมากๆ!”
ฉันพยักหน้า แต่พอเห็นเธอเดินไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้ไปที่จุดพักผ่อน แต่เดินไปหาพวกเขาทีมเชียร์ลีดเดอร์ และส่งชุดยูนิฟอร์มของทีมคืนให้พวกเขา “วันนี้ลำบากพวกคุณแล้ว การแสดงวันนี้ดีมาก”
“คุณซู คุณเกรงใจแล้ว วันนี้พวกเราก็เกิดปัญหา ก็เป็นคุณที่ช่วยแก้ไขให้ ควรเป็นฉันที่จะต้องขอบคุณคุณ!”
ฉันส่ายหน้า ฉันรูว่าวันนี้เชียร์ลีดเดอร์ทำงานหนัก อย่ามองว่าพวกเขาออกมาเต้นเพียงไม่กี่นาที ก็ได้รับเงินหลายร้อยหยวน แต่การฝึกซ้อมนั้นก็ไม่ไช่ว่าง่าย
และเพื่อให้เป็นที่สะดุดตา การแสดงเปิดงานวันนี้พวกเราจัดเรียงขึ้นมาใหม่ ฉันฝึกซ้อมเกือบสองชั่วโมงถึงจะพอถูๆไถๆไปได้
พวกเขาแต่งหน้ากันทุกคน แต่พวกเขาแก้มแดงเพราะโดนลม ไม่ใช่บลัชออนที่ทา
ในตอนปิดงานของคืนนี้ พวกเขายังต้องออกมาอีกครั้ง แต่ตอนปิดงานไม่ต้องโพสท่า ดังนั้นขาดไปสักคนก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ต้องขึ้นไปแทนแล้ว
คิดถึงตรงนี้แล้ว ฉันก็รีบหยิบเงินห้าร้อยหยวนออกจากกระเป๋ายื่นให้กัปตันทีม:“พวกคุณไปสั่งน้ำสิงผสมน้ำตาลทรายแดง อย่ากลับมาแล้วเป็นหวัดล่ะ ฉันจะออกไปดูหน่อย!”
พูดจบฉันก็ยัดเงินใส่มือเธอ และเดินออกไปข้างนอก
ต้องบอกว่าวันนี้หนาวมากจริงๆ
สามเดือนกว่าๆ ยังไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนมาไม่มาก ซึ่งส่วนใหญ่หนุ่มสาวนักศึกษาและคู่รัก
ฉันมาที่จุดเล่นเกมส์ และพบว่ายังมีคนเล่นอยู่ไม่น้อย ฉันถอนหายใจโล่ง
“ซูยุ่น ทำไมคุณไม่กางร่ม?”
บังเอิญเจอกับเจิ้งเยว่ เธอรีบกางร่มและวิ่งออกมา:“ดูสิเสื้อผ้าของคุณเปียกหมดแล้ว!”
ฉันเอามือลูบๆ ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้:“ก็พูดเกินไป แค่ฝนตกปรอยๆ เสื้อผ้าหนาขนาดนี้ จะเปียกง่ายๆได้ยังไง!”
เจิ้งเยว่ไม่สนใจ ลากฉันเข้าไปในร่ม
ฉันดูพื้นที่โครงการทั้งหมดอีกรอบ หลังจากนี้ไปวันมะรืนค่อยมาดูการเพิ่มเติมของวันนี้
ตอนนี้คนที่งานไม่เยอะ นี่ก็ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว เพิ่งเพิ่มมาแค่พันกว่าคน
ฉันไปประกาศหาอีกครั้ง มีสื่อมวลชนสองแห่งส่งข่าวตีพิมพ์ไปแล้ว
เมื่อผู้คนพลุกพล่าน เวลาก็เหมือนบินได้ แป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว
กลางคืนเป็นไฮไลท์และพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นคืนนี้จึงมีผู้คนมากมายที่นี่!
เพื่อดึงดูดผู้ที่มาเที่ยวชม ฉันกับเจิ้งเยว่เราสองคนได้จัดงานรื่นเริงเป็นพิเศษ รวบรวมแสตมป์เพื่อมาแลกของรางวัล และของรางวัลก็เยอะแยะมากมาย บ่ายสี่โมงกว่าๆ ที่งานก็มีคนมากขึ้นเรื่อยๆ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง โคมไฟตกแต่ในงานก็สว่างขึ้น ฉันกับเจิ้งเยว่ก็รู้สึกตื่นเต้น
ประสิทธิผลของงานอยู่ที่คืนสุดท้าย คงต้องรอดูคืนนี้
การจ่ายเงินออกไปให้ผลตอบแทนเสมอ เวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ด้านหลังเวทีของพวกเรา มีคนเพิ่มขึ้นมากกว่าห้าหมื่นคน กระแสก็ยิ่งนานยิ่งไปได้ดี
“ซูยุ่น!”
ฉันกำลังจะเอาโทรศัพท์ใส่ลงไปในกระเป๋า เจิ้งเยว่ก็เข้ามา
เธอมองฉันด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย:“งานครั้งนี้ ดีกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้