ฉันไม่รับรู้ว่าหยาวตันตันพูดอะไรต่อหลังจากนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาถึงคอนโดได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าจะอยู่กับลู่จือสิงได้ไม่ถึงเดือน แต่ที่นี่กลับมีร่องรอยการใช้ชีวิตของฉันกับเขาอยู่เต็มไปหมด
เมื่อนึกถึงคำพูดของหยาวตันตันฉันก็ได้แต่คิดว่าตัวเองนั้นโง่จริงๆ ที่ยังรอเขา และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อเขากลับมาคุยกันให้ชัดเจน
ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครให้โอกาสฉันได้อธิบายเลย
หรือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงภาพลวงตา... เมื่อไม่มีลูก ฉันกับลู่จือสิงก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แล้วน้ำตาของฉันก็ไหลออกมาไม่ขาดสาย เช็ดให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทางแห้งเหือด ฉันทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา ยกขาทั้งสองข้างขึ้นมากอดไว้แน่น มีแค่วิธีนี้ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในใจของฉันได้
หากฉันรู้ล่วงหน้าว่าตัวเองจะตกหลุมรักลู่จือสิงอย่างนี้ ตอนนั้นฉันคงทำไม่ทำอะไรโง่ๆ หลงผิดดึงเขาเข้ามาในชีวิต
ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพียงแค่ยี่สิบกว่าวัน แต่มีข้าวของอยู่เต็มกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบ
ฉันจ่ายเงินเพิ่มให้คนขับสองร้อยหยวนและขอให้เขาช่วยขนของขึ้นชั้นบน
ในเมื่อตัดสินใจแน่แล้วว่าจะตัดขาดฉันจึงกลับไปทำงานที่เฟิงเหิงอีกไม่ได้ ฉันยื่นใบลาออกโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมากเพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญา เพียงแค่รอรับเงินเดือนที่เหลือ ฉันกับลู่จือสิงก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป
ฉันได้ยินเสียงอ่อนหวานของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ ขณะกำลังออกจากลิฟต์ พอหันไปมองก็เห็นลู่จือสิงกำลังก้าวเข้ามาใกล้พร้อมผู้หญิงในชุดกระโปรงสีดำคนนั้น
“จือสิง ฉันเห็นการพัฒนาของเฟิงเหิงตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมา และช่วงที่พัฒนาได้เร็วที่สุดคือตอนที่คุณเข้ามาบริหาร เมื่อปี...”
ลู่จือสิงเงยหน้าขึ้นมองฉันแวบหนึ่ง แต่ในวินาทีถัดมาเขาก็ยกมือขึ้นกดลิฟต์พิเศษที่อยู่ข้างๆ ราวกับมองไม่เห็นฉัน และเอ่ยตอบผู้หญิงคนนั้นด้วยเสียงเรียบๆ ว่า “อืม”
ฉันกระชับมือที่ถือกระเป๋าไว้แน่น กัดริมฝีปากอย่างอดกลั้น พยายามไม่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าที่นี่ และก้าวออกมาเร็วขึ้นเรื่อยเพราะไม่อยากเจอหลี่จื้อที่ตามมาข้างหลัง “คุณซู”
ตอนนี้ดวงตาของฉันแดงก่ำ ฉันพยักหน้าให้และรีบเดินจากมา
หลังจากขึ้นรถแท็กซี่ ฉันจึงกัดหลังมือของตัวเองไว้และร้องไห้ออกมา
ทั้งหมดคือเรื่องจริง ความเพ้อฝันในใจที่มีอยู่มันจบลงไปแล้ว
ทันทีที่กลับถึงบ้านฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากป้าหลี่ที่อยู่บ้านข้างๆ ว่ายายของฉันเข้าโรงพยาบาลไปอีกครั้งด้วยอาการโคม่า
ฉันตกใจและรีบไปโรงพยาบาลทันที มือและเท้าของฉันเย็นไปหมดระหว่างยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัด
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดไฟห้องฉุกเฉินก็ดับลง คุณหมอเดินออกมาบอกฉันว่ายายของฉันโรคหลอดเลือดในสมองกำเริบ ครั้งนี้อาการร้ายแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา คุณยายมีอาการแขนขาแข็งเกร็ง และร่างกายของคุณยายอาจทนรับการผ่าตัดอีกครั้งในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงรักษาทั่วไปตามอาการเท่านั้น
พอได้ยินดังนั้นฉันก็นิ่งงันไปเหมือนถูกแช่แข็ง ไม่รู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้