พอออกจากห้องทำงาน ลู่ป่ายถงก็เรียกฉันกะทันหัน “ซูยุ่น”
ฉันชะงักไปสักพัก แต่ก็เดินไปหาเขา”มีอะไรคะ ประธานลู่?”
เขายิ้มนิดๆ”ตอนเที่ยงนี้ว่างไหม? กินข้าวด้วยกันสักมื้อ?”
“ว่างสิ ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว ถ้าประธานลู่ไม่มีอะไร เราไปร้านอาหารเลยก็ได้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมนี้หน่อย ”
ลู่ป่ายถงพยักหน้าเล็กน้อย”ได้ ฉันรอเธอที่หน้าประตู”
ฉันมองไปของในมือ “ได้ ฉันไปเอากระเป๋า”
แต่ก่อนคิดว่าลู่ป่ายถงไม่ใช่คนดีอะไร แต่ตอนนี้ระหว่างการพูดคุยสื่อสารแล้ว ฉันกลับรู้สึกตัวเขาเป็นคนที่ดีเลยนะ อย่างน้อยก็ดีกับฉันมาก และจากบรรดาปวงพี่น้องของลู่จือสิงแล้ว เห็นได้อย่างชัดความสัมพันธ์ลู่ป่ายถงกับลู่จือสิงสนิทกันที่สุด
จำได้ว่าก่อนหน้านี้ลู่ป่ายถงเคยตักเตือนฉันว่าลู่จือสิงทำกับฉันไม่ใช่ธรรมดา
ตอนนั้นฉันคิดว่าเขากำลังยุให้รำ ตำให้รั่ว พอมาคิดคิดตอนนี้ ตัวเองอ่อนหัดไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ
ปิดโน๊ตบุ๊ก เก็บกระเป๋า บอกกับถงเจียหลินแล้วฉันก็ลงไปเลย
กำลังเดินลงมาที่ข้างล่างตึกฉันก็เห็นรถของลู่ป่ายถงทันที เขาเอียงตัวมาเปิดประตูรอฉันแล้ว
ฉันรีบเข้าไป “ขอบคุณ”
ลู่ป่ายถงเลือกไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดใหม่ใกล้ๆบริษัทฉัน สภาพแวดล้อมดีมาก แต่ได้ยินมาว่าค่าใช้จ่ายไม่เบาเลยนะ
ฉันพึ่งว่างกระเป๋าลง เขาก็รินชาให้ฉันทันที “กิจกรรมเธอมีความคิดอะไรก็ทำตามที่เธอคิดเลยนะ เธอไม่ต้องกังวลฝั่งฉัน ถ้ามีปัญหาอะไรละก็ติดต่อฉันโดยตรงได้”
ขณะที่เขาพูด ก็ยื่นชาที่รินมาให้”เออนี่ เธอมีเบอร์ฉันหรือยัง? ”
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกอึดอัดใจนิดๆ “เหมือนจะไม่มี”
ลู่ป่ายถงยิ้มๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร “งั้นเธอจดสะหน่อยแล้วกัน จากนั้นฉันจะให้ผู้จัดการที่รับผิดชอบโปรเจกต์นี้ติดต่อเธอ ฉันจะให้เขาร่วมมือกับเธอให้สุดกำลัง ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับเธอที่ไหนละก็ เธอติดต่อฉันมา”
ขณะเขาพูดก็ยื่นเมนูมาให้ฉัน “ดูสิว่าอยากกินอะไร”
ฉันพยักหน้ารับ”ขอบคุณ พี่สาม”
“นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกฉันว่าพี่”
เขาไม่พูดเรื่องนี้ยังดี พอพูดฉันรู้สึกอายขึ้นมาเลย พูดลงไปไม่ได้ ทำได้แค่ก้มหน้ามองเมนูไป สั่งอันที่ตัวเองชอบกินไปไม่กี่อย่าง “แค่นี้”
ลู่ป่านถงยื่นมือมารับไป และก็สั่งเพิ่มไปไม่กี่อย่าง จากนั้นก็สั่งเลย
“ฉันได้ยินมาว่าโปรเจกต์ทางเมืองJ เธอรับผิดชอบทั้งหมด ได้ยินมาว่าเขาไว้ใจเธอมาก ส่วนมากเป็นความคิดของเธอหมดเลยนิ และฉันก็ดูแล้ว ดีมากจริงๆ ความน่าสนใจและการร่วมงานสูงมาก การแพร่กระจายก็ยิ่งไม่ต้องพูด ฉันได้ยินอีกมาว่า เบื้องหลังผู้ชมวันหนึ่งเพิ่มขึ้นสองแสนกว่าคน ครั้งนี้ฉันปล่อยให้เธอไปทำ มันก็มีความล้มเหลวของคนรุ่นเก่าย่อมเป็นข้อเตือนใจอยู่ แต่เธอไม่ต้องกังวลและรู้สึกเคร่งเครียดเกินไป ทำให้เต็มทีก็พอ ”
ฉันทำงานทางการว่างแผน ความเชื่อใจทางฝั่งอีกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ตั้งแต่ฉันทำงานมาไม่มีสิบปีก็ห้าปีได้แล้ว ระหว่างนี้ก็รับผิดชอบโปรเจกต์มา มีทั้งโปรเจกต์ที่ใหญ่และเล็ก ไม่ต่ำกว่า20โปรเจกต์
แต่ได้รับความไว้วางใจเหมือนเมืองJยังไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้เพิ่มลู่ป่ายถงมาคนหนึ่ง ฉันก็รู้สึกซึ่งใจ
“พี่สามไว้ใจเลยค่ะ อย่างอื่นฉันทำไม่ได้ แต่ทางด้านนี้ ยังถือว่าพอได้”
“ถ้าอย่างเธอยังว่าพอได้ละก็ ฉันคิดว่าหลายคนในอาชีพนี้คงไม่ต้องทำแล้วละ”
ฉันยิ้มๆ”พี่สามวันนี้ขับรถมา กินเหล้าไม่ได้ และตอนบ่ายฉันก็ทีงานต้องทำ งั้นเราก็ไม่ดื่มเหล้าละกัน วันนี้ฉันขอใช้น้ำชาแทนเหล้า ขอบคุณพี่สามที่ไว้ใจ”
“เธอทำตัวเกรงใจกับคนอื่นแบบนี้ทุกคนเลยหรอ?”
คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกอึ่งไปสักพัก ยังไม่ทันตั้งตัว”หืม? ”
“เธอก็เรียกฉันพี่แล้ว ฉันก็ต้องเชื่อใจเธออยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้