หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 285

เขาพูดออกมา ฉันกระพริบๆตา อดไม่ได้ที่จะร้องไห้

เมื่อกี้ที่เขาขอแต่งงานบนเวทีฉันไม่ร้องไห้ ตอนนี้ประโยคง่ายๆแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันอดน้ำตาไหลไม่ได้

พิธีการสำคัญมากจริงๆ สำหรับผู้หญิง การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ พิธีการที่จริงจัง ด้วยประโยคดังกล่าว ฉันจึงรู้สึกได้อย่างแท้จริง ว่าตนเองแต่งงานกับลู่จือสิงชายคนนี้จริงๆ

ลู่จือสิงก้มมามองฉัน "อย่าร้อง กลับบ้านเถอะ"

ฉันยกมือขึ้นเช็ดหางตา แล้วไม่ร้องอีก : "เป้ยเปยล่ะ?"

"อยู่กับคุณน้าตรงนั้น"

เขาพูดไปด้วย จับฉันเดินออกไปด้วย

แขกเกือบจะไปหมดแล้ว รถแต่งงานหยุดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม

เมื่อลู่จือสิงพาฉันเดินออกไปจากโรงแรม เจิ้งเยว่กับถงเจียหลินยิ้มมองฉันอยู่หน้าประตู : "ซูยุ่น ขอให้คุณมีความสุขนะ!"

ฉันถูกลู่จือสิงกอด เขินอายเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าว "ขอบคุณนะ คุณก็รีบหาความสุขของคุณล่ะ!"

ฉันเพิ่งพูดจบ ลู่จือสิงก็พาฉันเข้าไปในรถแล้ว

งานแต่งงานเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ตลอดทั้งวัน ก็เหนื่อยล้าจนหมดแรง

คืนเข้าหอที่มีค่ามาก เดิมทีฉันคิดว่าวันนี้ลู่จือสิงจะไม่ปล่อยฉันไปแน่ สรุปคือเมื่อฉันออกมาจากห้องน้ำ เขาเพียงแค่อุ้มฉันขึ้นเตียง "ฝันดี คุณภรรยา"

เขาก้มลงมาจูบที่หน้าผากฉันเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นมือมาดึงผ้าห่ม เพื่อคลุมฉัน จากนั้นก็ยกมือขึ้นปิดไฟในห้อง

ฉันอึ้งเล็กน้อย ฉันลืมตาอยู่ในความมืดสักพัก จึงสติกลับมา

ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อลู่จือสิง "ไม่เหนื่อยหรอ?"

เขาจับแขนฉัน น้ำเสียงเคร่งขรึมเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามีอารมณ์เล็กน้อย

ฉันเหนื่อนิดหน่อย แต่ว่าค่ำคืนอย่างนี้ ไม่เหมือนปกติ เขาคิด ฉันก็คิดเช่นกัน

ฉันคิดอยากจะกอดเขา สุดท้ายเขาพลิกมากอดฉันจากด้านหลัง จับมือของฉันและประสานนิ้วของฉันแน่นที่หน้าอกของฉัน : "นอนเถอะ วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้ากว่า ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว"

เขาพูดแบบนี้ โดยปกติแล้วก็ไม่ดีที่ฉันจะทำอะไรเหล่านี้อีก อีกทั้งฉันเหนื่อยมากจริงๆ สวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ขาทั้งคู่และเอวปวดเมื่อยเล็กน้อย

ลู่จือสิงช่วยฉันลาแต่งงานโดยตรว บริษัทให้ฉันลาเจ็ดวัน มีวันหยุดสุดสัปดาห์อีก ก็มีเวลาเก้าวัน

ฉันรู้ว่าช่วงนี้ลู่จือสิงยุ่งมาก เขาสามารถแบ่งเวลามาจัดการงานแต่งงานแบบนี้ได้ ฉันอิ่มอกอิ่มใจมากจริงๆ ยังกล้าไปคิดเรื่องฮันนีมูนซะที่ไหน

เมื่อลืมตาขึ้นมา ฉันจึงพบว่าตนเองอยู่บนรถ คนขับอยู่ข้างหน้า ลดแผ่นกั้นรถลง ลู่จือสิงนั่งกอดฉันอยู่เบาะหลัง

ฉันตกใจเล็กน้อย ยังไม่ได้มีปฏิกิริยากลับมา "เราจะไปไหนกัน?"

ฉันเพิ่งตื่น ก็ยังมึนๆเบลอๆเล็กน้อย น้ำเสียงก็แหบพร่า

ก้มมามอง ปรากฏว่าไม่รู้ว่าตนเองเปลี่ยนเสื้อผ้าไปตอนไหน คิดๆดูแล้ว ขึงจำได้ว่า เมื่อเช้าเหมือนว่าลู่จือสิงจะเรียกฉัน แต่ว่าเวลานั้นฉันง่วงมากจริงๆ ก็เลยตอบไปอย่างงั้นแล้วนอนต่อ

ในความสะลึมสะลือ ลู่จือสิงดูเหมือนว่าจะดึงฉันไม่รู้ว่าทำอะไร ตอนนี้นึกออกแล้ว เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน

"สนามบิน"

เขาส่งน้ำให้ฉันหนึ่งขวด ยังอุ่นๆอยู่

ฉันดื่มสองสามอึก "ตอนนี้กี่โมงแล้ว?"

"สิบโมงกว่าแล้ว"

ฉันกำลังดื่มน้ำอยู่ ก็แทบจะสำลัก "สิบโมงกว่าแล้ว?"

"อืม"

ลู่จือสิงส่งทิชชู่ให้ฉันหนึ่งแผ่น ฉันเช็ดๆปากเล็กน้อย : "นึกไม่ถึงว่าฉันจะหลับไปนานขนาดนี้เลย"

เขาก้มมองเธอ หัวเราะขึ้นมา : "คุณนอนหลับไปนานขนาดนี้ ไม่ว่าจะเรียกยังไงคุณก็ไม่ตื่น"

ได้ยินคำพูดของเขา หน้าฉันก็อดที่จะแดงไม่ได้ "ฉันก็ไม่คิด เมื่อวานฉันล้ามากจริงๆ"

เมื่อวันก่อนเซี่ยงฉิงลากฉันมาคุยเล่น คุยจนเที่ยงคืนกว่า ฉันมห้เธอไปอาบน้ำ จากนั้นฉันก็มารอเธอในห้อง รอกว่าครึ่งชั่วโมง มันเกินเวลานอนไปหน่อยแล้ว แล้วคือเมื่อวานตีห้ากว่า ยังไม่ถึงหกโมงเลย เธอก็ปลุกให้ฉันตื่นแล้ว

ฉันมองไปนอกหน้าต่างรถ ก็อยู่บนทางด่วนสนามบินแล้ว จะไปถึงสนามบินในอีกประมาณสิบนาที

"นี่เราต้องการจะไปไหนกันหรอ?"

เพิ่งตื่นขึ้นมา สักครู่นี้สมองของฉันตามไม่ทัน

ใครจะรู้อยู่ๆลู่จือสิงก็คืนคำถามกลับมาให้ฉัน : "คุณว่าพวกเราจะไปไหนกันดี?"

"ฉันรู้ซะที่ไหน คุณจัดการเรื่องเหล่านี้ไว้แล้วไม่ใช่หรอ? จะว่าไปแล้ว ฉันรู้ซะที่ไหนว่าจู่ๆคุณจะจัดการเช่นนี้ อีกทั้งเราจะไปทำ——”

พูดไปครึงหนึ่ง จู่ๆสติฉันก็กลับมา มองลู่จือสิง ตื่นเต้นจนตาทั้งคู่แดง

ลู่จือสิงมองฉันแล้วยิ้มอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ฉันยกมือสวมกอดเขา เขาจูบฉันหนึ่งที : "คุณสามี คุณดีจริงๆเลย!"

"ดีตรงไหน?"

"ดีทุกตรงเลย!"

"ตรงไหนดีที่สุดล่ะ?"

ตอนแรกฉันยังไม่มีปฏิกิริยา อีกทั้งมีความสุขมาก เอาแต่จูบเขา ใครจะรู้ว่าจู่ๆเขาก็อุ้มฉันขึ้นมา และวางไว้บนตักของเขา ยังกดฉันให้อยู่ยนตัวเขา

ฉับพลันฉันก็เข้าใจทันที ยกมือขึ้นแล้วผลักเขา : "ลู่จือสิง คุณไม่ลวนลามสักวันจะตายใช่ไหม?"

เขามองฉัน ทำหน้าไร้เดียงสา : "ฉันทำอะไรหรอ?"

ฉันจ้องมองเขา พลิกจากบนตัวเขากลับมานั่งที่ ขี้เกียจเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้กับเขาต่อ

"ตอนนี้เราจะไปไหนกัน?"

เขาจับมือของฉัน มองมือฉันที่ไม่รู้ว่าทำเล็บไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ "คุณเดาสิ"

เวลานี้ฉันจึงรู้แล้วว่าตนเองทำเล็บไว้จริงๆ เมื่อวานฉันจมอยู่กับเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เดิมทีก็ไม่ได้มีสติ ตอนนี้สติกลับมาแล้ว อดไม่ได้ที่จะยิ้ม : "เซี่ยงฉิงนี่!"

คาดว่าคืนวันก่อนฉวยโอกาสตอนที่ฉันนอนหลับ ดังนั้นจึงไปแอบหาคนมาทำให้ฉัน!

คืนวันนั้น ฉันยุ่งติดต่อกันมาหลายวันแล้ว วันศุกร์คิดว่าจะได้พักผ่อน จากนั้นเซี่ยงฉิงก็พูดถึงการร่วมรับประทานอาหาร เลยเผลอหลับไปตอนล้มตัวนอนบนเตียง ฉันได้ยินน้ำเสียงของเซี่ยงฉิงลางๆ แต่ฉันไม่ได้ลืมตาขึ้นไปพูดคุย

"คุณพูดอะไร!"

ฉันแปลกใจจริงๆ อดๆม่ได้ที่จะถามเขา

แต่ดูเหมือนลู่จือสิงจะนิ่งเงียบ แค่มองฉันแล้วยิ้ม ไม่ว่าจะถามเขาอย่างไร เขาก็ไม่บอกฉัน ว่าครั้งนี้ท้ายที่สุดแล้วเราจะไปไหนกัน

เห็นว่าเขาไม่พูดจริงๆ ฉันก็ไม่ถามอีก ถึงอย่างไรก็ต้องเห็นตั๋ว ฉันก็รู้แล้วว่าจะไปไหน

ไม่นานรถก็มาถึงประตูสนามบิน คนขับรถช่วยเราเอากระเป๋าเดินทางลง เวลานี้ฉันจึงพบว่าลู่จือสิงจัดเตรียมข้าวของมาเรียบร้อยแล้ว

เขายื่นมือออกไปเพื่อดึงกระเป๋าเดินทางขนาดยี่สิบเก้านิ้ว หนึ่งมือจูงฉันเดินเข้าไปในสนามบิน

กระเป๋าเดินทางค่อนข้างใหญ่ โดยปกติก็ไม่สามารถเอาขึ้นเครื่องบินได้

วันนี้เป็นวันหยุด ที่สนามบินคนเยอะ ลู่จือสิงได้รับตั๋วจากการตรวจกระเป๋า ฉันรีบยื่นมือเข้าไปแย่ง เขาหดมือกลับ ฉันจึงหยิบไม่ได้

"คุณทำอะไร!"

ฉันอดไม่ได้ที่จะตีเขา "เอาตั๋วมาให้ฉันดูหน่อย!"

เขาคีบตั๋วไว้ในพาสปอร์ต ยังคงไม่ให้ฉันดู : "เก็บไว้เซอร์ไพรส์ คุณหญิงลู่"

ฉะนเยาะเย้ยเขาเล็กน้อย "คุณกลัวว่าจะไม่เซอร์ไพรส์หรอ?"

"กลัวอะไร ขอเพียงแต่ฉันอยู่ข้างๆคุณ ก็เซอร์ไพรส์ได้ทุกที่แล้ว"

“……”

ฉันไม่รู้ว่าความมั่นใจมาจากไหน ถึงได้เข้าใจผิดเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้